เจียงอวี่เฉิงชะงักตัวแข็งทื่อในบัดดล
สถานการณ์เช่นนี้ช่างคุ้ยเคยนัก!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน คนผู้นั้นก็เคยทำแบบนี้กับเขา นางยืนอยู่ตรงนี้แล้วบอกเขาว่านางมีคนในใจแล้ว ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจเช่นนี้ไม่มีผิด!
สถานที่เดิม คำพูดเดิม รอยยิ้มเดิม!
ทว่าต่างกันตรงที่ในอดีตคนคนนั้นพูดเรื่องนี้ตัดหน้าเขาเสียก่อน จนเขาไม่มีจังหวะได้สารภาพความรู้สึกลึกๆ ในใจของตัวเองออกไปเลย
แต่ในปัจจุบัน เขาเป็นฝ่ายยอมลดทิฐิลง และเอ่ยปากขอฉู่หลิวเยว่อย่างจริงใจ แต่เขาก็ถูกปฏิเสธ!
ชั่วขณะหนึ่ง เจียงอวี่เฉิงสับสนกับภาพนิมิตทั้งสอง จนไม่สามารถบอกได้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขาคือฉู่หลิวเยว่ หรือซั่งกวนเยว่!
ทว่าจู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในใจเขา! จนอยากจะคว้าข้อมือของฉู่หลิวเยว่มาจับไว้!
“ไม่ได้เด็ดขาด!”
ฉู่หลิวเยว่ผละตัวหลีกหนีได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าระดับการฝึกฝนของเจียงอวี่เฉิงจะสูงกว่านาง แต่หลังจากผ่านประสบการณ์โชกโชนในทะเลทรายจันทรามามากมาย ทำให้ตอนนี้ทักษะการเคลื่อนไหวของนางดีกว่าเดิมหลายเท่า
และการจัดการกับเจียงอวี่เฉิงไม่ใช่เรื่องยาก
ฉู่หลิวเยว่ก้าวถอยหลัง พลันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของนางจืดจางลง
“องค์ชายใหญ่เจียง โปรดตั้งสติด้วย”
ความเกลียดชังและความขยะแขยงในดวงตาของนาง เปรียบดั่งเข็มเงินเล่มหนาที่แทงทะลุหัวใจของเจียงอวี่เฉิง!
ความแค้นที่เก็บกดมานานหลายปีพลันพรั่งพรูออกมา! มันทำให้เจียงอวี่เฉิงเสียสติไปแล้ว!
เขาโพล่งออกมาด้วยความโกรธ
“ข้าไม่ยอม! นอกจากข้าแล้ว เจ้าห้ามชอบใครเด็ดขาด!”
การระเบิดอารมณ์อย่างกะทันหันของเจียงอวี่เฉิง ทำให้ฉู่หลิวเยว่ตกใจมาก
ในความทรงจำของนาง เจียงอวี่เฉิงเป็นคนที่ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น เขาก็สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี และน้อยครั้งที่เขาจะแสดงความโกรธรุนแรงเช่นนี้ออกมา
แม้แต่ตอนที่เขาลงมือทำร้ายผู้อื่น สีหน้าของเขาก็ยังเรียบนิ่งไม่ไหวติง
แต่เขาในตอนนี้กลับ… คลุ้มคลั่งราวถูกกระตุ้นด้วยอันใดบางอย่าง?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกหวาดระแวงและถอยหลังไปอีกก้าว นางขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดอย่างเย็นชา
“ความชอบเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ เจ้าตั้งสติหน่อยเถอะ เจียงอวี่เฉิง!”
เมื่อเห็นนางโกรธ จู่ๆ จิตใจของเขาก็หวั่นไหวอย่างไม่มีเหตุผล
เขาจ้องมองดวงตาสีดำเงาราวหยกเนื้อดีที่เต็มไปด้วยโทสะ พลันหน้าถอดสี ก่อนจะเผยอริมฝีปากออกแล้วเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา
“อาเยว่ อย่าโกรธเลย…”
เขาพึมพำเสียงต่ำราวกับโหยหาและต้องการเอื้อมมือไปดึงนางเข้ามา
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าเจียงอวี่เฉิงเสียสติไปแล้วจริงๆ
นี่เขาคิดจะทำอันใดกันแน่?!
อาเยว่หรือ นั่นเขาเรียกใครกัน?
ในใจของนางรู้สึกขยะแขยงยิ่งนัก พลันหันหลังกลับเพื่อจากไป
ทว่าทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและขุ่นเคืองดังมาจากด้านข้าง
“เจียงอวี่เฉิง!”
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองทันควัน
อา ช่างบังเอิญเสียจริง คนที่มาดันกลายเป็น ซั่งกวนหว่านเสียได้
เมื่อครู่นางมั่วแต่โต้เถียงกับเจียงอวี่เฉิง จนไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาในสวนด้วย
และดูจากท่าทีฉุนเฉียวนั่นแล้ว แสดงอีกฝ่ายคงได้ยินที่พวกเขาคุยกันไปไม่น้อยเลยสินะ?
แต่ไม่ว่านางจะได้ยินไปมากน้อยเพียงใด สำหรับนางแล้ว ทุกคำพูดที่เจียงอวี่เฉิงเอ่ยออกมานั้น คงไม่ต่างจากมีดเล่มคมที่แทงทะลุหัวใจนางอย่างแรงเลย!
เสียงกรีดร้องที่แหลมคมนี้ทำให้เจียงอวี่เฉิงได้สติกลับมาอีกครั้ง
เขามองไปยังมือที่ว่างเปล่าของตัวเอง
ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ด้านข้างโดยเว้นระยะห่างจากเขามากโข ท่าทางของนางที่ปฏิบัติต่อเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ราวกับว่าการมองเขาใกล้ จักทำให้ดวงตาของนางมีมลทินอย่างใดอย่างนั้น
หัวใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
เมื่อก่อนเขาก็โดนแบบนี้ และตอนนี้ก็ยังวนกลับมาซ้ำรอยเดิมอีก!
คลื่นอารมณ์ในดวงตาของเขาถูกแช่แข็งไว้อย่างรวดเร็ว พลันตวัดตามองไปยังซั่งกวนหว่าน และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...