ไม่มีผู้ใดคาดถึงว่าเรื่องราวจะเดินมาไกลจนถึงเพียงนี้
ฉู่หลิวเยว่เดิมพันด้วยชีวิตของนางเพื่อแลกกับโอกาสการสืบสวนการตายขององค์หญิงใหญ่!
หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้คนก็เริ่มส่งเสียงวุ่นวาย
“ฉู่หลิวเยว่เสียสติไปแล้วหรืออย่างใด นางกำลังคิดอันใดอยู่กันแน่ ต่อให้ต้องทุ่มสุดตัวก็จะสืบสวนการตายขององค์หญิงใหญ่อย่างนั้นหรือ?”
“ภูมิหลังครอบครัวของนางไม่ได้อยู่ในเมืองเล็กๆ นอกพรมแดนม่านฟ้าหรอกหรือ? เหตุใดนางถึงมายุ่งย่ามกับองค์หญิงใหญ่ได้อีกเล่า?”
“คิดไม่ออก…เป็นเรื่องที่คิดไม่ออกจริงๆ…สองปีที่ผ่านมาก็มีคนอยากทำเรื่องนี้เช่นกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเลิกไป นางกำลังหาเรื่องใส่ตัวหรืออย่างใด ตัวนางคนเดียว จะทำอันใดได้”
“…นั่นสิ… พวกเจ้าไม่สงสัยหรือว่าเหตุใดฉู่หลิวเหว่จึงกล้าโอ้อวดถึงเพียงนี้ ดูสิ่งที่คทาอาญาสิทธิ์เทียน
ลิ่งตอบสนองนางสิ ข้าไม่คิดว่านางจะทำไม่ได้! เมื่อใดกันที่คนที่ไม่มีแม้แต่สายเลือดราชวงศ์จะทำสิ่งเหล่านี้ได้”
อันที่จริง คำถามนี้ก็เป็นคำถามที่ผู้คนสงสัยมากที่สุด
แต่ไม่ว่าจะคิดเช่นไร คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนี้ ก็ไม่น่าจะเกี่ยวพันอันใดกับฉู่หลิวเยว่มิใช่หรือ
เสียงซุบซิบคุยกันเหล่านั้น เจียงอวี่เฉิงเองก็ได้ยินไม่น้อย
เขามองไปยังฉู่หลิวเยว่ สำรวจโครงคิ้วและดวงตาที่คุ้นเคย แล้วจู่ๆ ความคิดไร้สาระก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา!
แต่จากนั้นไม่นาน เขาก็ส่ายหัวอย่างแรงเพื่อไล่ความคิดนี้ออกไป!
เป็นไปไม่ได้!
ซั่งกวนเยว่ในตอนนั้นจุดไฟเผาตัวเองตายไปแล้ว เป็นไปไม่ได้แน่ๆ! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่นางจะยังมีชีวิตอยู่!
ตอนนั้นเขาเองก็ตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก มันต้องไม่มีอันใดผิดพลาด!
ถึงแม้เขาจะเกลี้ยกล่อมตัวเองในใจครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ แต่มันก็ยังมีเสียงร้องของความเคลือบแคลงที่ไม่เคยหายไป
หากฉู่หลิวเยว่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซั่งกวนเยว่จริง แล้วเหตุใดจึงต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้ด้วย
และยังคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นอีก…ผู้คนมากมายขนาดนั้นมันยังไม่สนใจสักนิด แม้แต่ซั่งกวนหว่าน องค์หญิงเชื้อพระวงศ์ผู้สง่างามก็ยังไม่สนใจ แต่มันกลับมองฉู่หลิวเยว่ที่มีสถานภาพต่างออกไปโดยสิ้นเชิง!
ในที่สุด เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองตรงไปยังมู่ชิงเห่อซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายเองก็กำลังมองไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยท่าทางตกตะลึงและเหม่อลอย
ในฐานะรองแม่ทัพกองทหารม้าทมิฬ ณ ตอนนี้เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกพระราชวังทั้งหมด
และตำหนักหลางคุนที่มีความสำคัญมาเป็นอันดับแรก ดังนั้นเขาจึงมาคุ้มกันบริเวณนี้มาโดยตลอด
เจียงอวี่เฉิงขมวดคิ้วยุ่งเป็นปม
มู่ชิงเห่อเป็นผู้ที่พาฉู่หลิวเยว่กลับมาด้วยตนเอง ตอนที่เขาเห็นฉู่หลิวเยว่ครั้งแรก ก็เกิดสงสัยในตัวนางขึ้นมา เขาจึงขอให้มู่ชิงเห่อทำการสืบสวนอย่างลับๆ
และผลการสอบสวนก็คือ ตัวตนของฉู่หลิวเยว่ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
นางเป็นลูกสาวที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวตกต่ำ ซึ่งเติบโตในแคว้นเย่าเฉินมาตั้งแต่เด็ก และบังเอิญเกิดท้าทายโชคชะตาผันเปลี่ยน ประสบผ่านความยากลำบากมามากมาย ก่อนที่จะมาถึงซีหลิงในที่สุด
แต่ตอนนี้ มันเรื่องอันใดอีกแล้วกันเล่า
เจียงอวี่เฉิงรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกอยู่เสมอว่าสิ่งต่างๆ เริ่มอยู่เหนือการควบคุม โดยที่เขาเองก็กำลังวิ่งหนีไปในทิศทางที่ไม่รู้จัก!
สุดท้ายนี้ ตอนจบจะเป็นเช่นไร…แม้แต่เขาเองก็ไม่กล้ายืนยัน!
แต่ในเวลานี้ เจียงอวี่เฉิงไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกท่วมท้นไปด้วยความตกใจแล้วกระมัง
มู่ชิงเห่อจดจ้องไปยังฉู่หลิวเยว่ซึ่งอยู่ไม่ไกล เมื่อได้ยินสิ่งที่นางเอ่ย ความตะลึงก็เติมเต็มพื้นที่ในใจ
นางต้องการสืบสวนการตายขององค์หญิงใหญ่อีกคราอย่างนั้นหรือ!
นางเป็นผู้ใดกัน
ในขณะนั้นเอง ปีศาจแดงก็บินออกมา
ปีกสีแดงของมันกระพือไปมา ดูเหมือนจะกระสับกระส่ายเล็กน้อย ดวงตากลมโตคู่หนึ่ง จดจ้องไปยังฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ามันกำลังรอหรือคาดหวังสิ่งใดอยู่กันแน่
ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของมู่ชิงเห่อ พลันพาให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ
ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย ก่อนจะเรียกให้ปีศาจแดงกลับมา
“ปีศาจแดง”
เมื่อเสียงของเขาเอ่ยออกมา ก็ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดไป สุดท้ายปีศาจแดงก็หันกลับมามองแวบหนึ่ง
ลึกลงไปในดวงตาของมู่ชิงเห่อ ดูเหมือนจะมีคลื่นใต้น้ำที่กำลังเพิ่มกำลังแรงขึ้น
“นาง เป็นผู้ใดกันแน่!”
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...