อู่เหยาวาดแผนที่ของพระราชวังเอาไว้ จากนั้นก็ชี้ตำแหน่งของตำหนักตะวันออกอย่างละเอียด
ฉู่หลิวเยว่มองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลือกเส้นทางเข้าไปในวัง
เดิมทีอู่เหยาต้องการจะไปกับนางด้วย แต่ว่าฉู่หลิวเยว่ปฏิเสธ ขอแค่รอรับที่ด้านนอกก็พอแล้ว
ถ้าไปสองคนมันจะกลายเป็นเป้าขนาดใหญ่ ดังนั้นไปแค่คนเดียวก็พอแล้ว
อู่เหยารู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก แต่ว่าฉู่หลิวเยว่ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงตอบตกลง
หลังจากที่ทั้งสองคนปรึกษากันแล้ว ยามราตรีก็เริ่มคืบคลาน
ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำ อีกทั้งมีหมวกปิดบังใบหน้ามิดชิด
จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่พระราชวังเป่ยหมิง!
…
กลางดึก เมืองหลินโจวตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ
ได้ยินเพียงเสียงพัดผ่านของสายลมเท่านั้น
ฉู่หลิวเยว่และอู่เหยาเคลื่อนไหวด้วยความเงียบ มุ่งหน้าตรงไปที่พระราชวังอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรค
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถเดินทางผ่านประตูใหญ่ได้ ดังนั้นหลังจากที่ปรึกษากันมาแล้ว พวกเขาจึงเลือกปีนกำแพงจุดที่ใกล้กับตำหนักตะวันออกมากที่สุด
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ คอยเป็นกำลังหนุนอยู่ตลอดเวลา”
ฉู่หลิวเยว่พูดเสียงต่ำ
อู่เหยาพยักหน้า ในแววตาของเขามีความจริงจังอยู่หลายส่วน
“ฝ่าบาทระวังตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉู่หลิวเยว่กลับหลังหัน แล้วมองไปที่กำแพงพระราชวังสูงใหญ่
พระราชวังเป่ยหมิงมีขนาดกว้างมาก แค่ความยาวของกำแพงเมืองก็ทำให้คนตกใจอย่างมาก
หากพวกเขาใช้ทหารรักษาการณ์เฝ้าอยู่ทุกจุด จะต้องเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรคนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นราชวงศ์เป่ยหมิงจึงไม่ได้ทำเช่นนั้น
พวกเขาทำเพียงแค่จัดเวรยามกลุ่มเล็กๆ มาคอยสับเปลี่ยนลาดตระเวน
ดูผิวเผินแล้ว เหมือนจะเป็นการป้องกันที่หละหลวม แต่ความจริงแล้ว ที่พวกเขากล้าทำเช่นนั้น ก็มีเหตุผล
…บนกำแพงของพระราชวังนั้น มีม่านพลังที่แข็งแกร่งปกคลุมอยู่หนึ่งชั้น!
อาศัยเพียงแค่สิ่งนี้ ก็สามารถสกัดกั้นผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนไม่น้อยออกไปแล้ว!
ต้องบอกก่อนว่า ม่านพลังที่ว่านี้ คือค่ายกลระดับเก้า หากเป็นผู้แข็งแกร่งทะลวงเข้ามาได้ เช่นนั้นทหารลาดตระเวนที่รับผิดชอบเฝ้ายามก็ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาแล้ว
ดังนั้นการป้องกันส่วนใหญ่ของพระราชวังเป่ยหมิงล้วนอาศัยม่านพลังส่วนนี้!
หากยืนดูใกล้ๆ นอกจากกำแพงวังแล้วเปล่าๆ แล้ว ก็เหมือนว่าจะไม่มีอันใด ม่านพลังหนึ่งชั้นที่ว่านั้นก็ไร้รูปไร้รอย
แต่ฉู่หลิวเยว่รู้ดีว่ามันอยู่ตรงหน้านี่เอง!
นางกลั้นหายใจ และยกนิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
พลังดั้งเดิมพวยพุ่งออกมาจากปลายนิ้วเรียวขาว
พลังดั้งเดิมสีเงินแตกกระจายออกมาเป็นหลายเส้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งหลังจากนั้นมันก็เริ่มมาผสมผสานกัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์รูปร่างแปลกตาขนาดเท่าฝ่ามือ
อู่เหยามองไปใกล้ๆ จากนั้นก็พบว่าสัญลักษณ์ขนาดเล็กนั้น มีรูปร่างคุ้นตาอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่ขยับนิ้วเล็กน้อย สัญลักษณ์ที่สองก็ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นนางก็เอาสัญลักษณ์ทั้งสองมารวมกัน
อู่เหยามองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เหมือนว่าเขาจะนึกอันใดบางอย่างได้ ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจ!
นี่ นี่มันเหมือนกับ…
ราวกับว่าต้องการยืนยันการคาดเดาของเขา ทันใดนั้นระลอกคลื่นระลอกหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันตรงความว่างเปล่าด้านหน้าพวกเขาทั้งสอง!
พรึ่บ!
ม่านพลังโปร่งแสงม่านหนึ่ง ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองอย่างช้าๆ!
บนม่านพลังนี้ มีแสงสีเงินส่องสว่างขึ้นมาจางๆ หากมองจากที่ไกลๆ มันมีลักษณะคล้ายกับใยแมงมุม
แต่ถ้ามองอย่างละเอียด จะพบว่านี่เป็นค่ายกลที่สลับซับซ้อนอย่างมาก!
พลังพวยพุ่ง ลำแสงสีเงินปลิวว่อนและถักทอรวมกัน!
ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่มีค่ายกลลักษณะทรงกลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา
อู่เหยาสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน ว่าค่ายกลในตอนนี้กับค่ายกลที่ฉู่หลิวเยว่กำลังสร้างในตอนนี้ มันเหมือนกันแทบจะทั้งหมด!
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ของฉู่หลิวเยว่นั้นจะมีขนาดเล็กกว่ามาก อีกทั้งพลังและแรงกดดันก็มีไม่เท่า
แต่ข้อดีคือลวดลายที่อยู่บนนั้นสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงเป็นค่ายกลที่ประณีตครบถ้วนอย่างมาก!
หลังจากนั้น ด้านข้างของนางก็มีค่ายกลอันที่สองปรากฏขึ้นอีกครั้ง! และมันก็เชื่อมต่อกับอันแรก!
เมื่อเป็นเช่นนี้ นับได้ว่านี่เป็นการแสดงที่สำเร็จสมบูรณ์ของฉู่หลิวเยว่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...