ฉู่หลิวเยว่เอนพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น
“ผู้อาวุโสถานไถคำถามนี้น่าสนใจมาก เรื่องของวังหลวงเป่ยหมิง ว่าข้าคิดอย่างใดนั้น เหมือนว่ามันจะไม่สำคัญนะเจ้าคะ เกรงว่าท่านจะถามผิดคนแล้วละมั้งเจ้าค่ะ”
พูดจบ นางก็มองไปรอบๆ
จวินฉีจือยังไม่มา
ราวกับว่าเรื่องนี้กำลังพันแข้งพันขาอยู่
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับไม่คิดเลยว่า ซั่งปิ่งเหอนั้นจะบอกเรื่องนี้กับจวินฉีจือ
ถานไถเฉินแค่นหัวเราะเสียงเย็น
“ข้าอยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว ไม่ได้ออกไปไหนเลย มีเพียงเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่กลับเมืองไป แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น…เจ้าว่ามันบังเอิญหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่นั่งเหยียดหลังตรง แล้วมองไปทางถานไถเฉิน รอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“ที่ท่านพูดเช่นนี้ ผู้อาวุโสถานไถคิดว่าข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือ?”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
“ท่านไม่ได้หมายความเช่นนี้หรอกหรือ? แต่คำพูดที่ออกมา ทุกคนล้วนได้ยิน ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่คนโง่นะ…หรือว่าท่านต้องการให้ข้าช่วยตรวจสอบเรื่องนี้?”
เหมือนว่าฉู่หลิวเยว่กำลังล้อเล่น แต่นางก็พูดอย่างตรงไปตรงมามาก
ถานไถเฉินคิดไม่ถึงว่านางจะไม่ไว้หน้ากันเลย ในตอนนั้นสีหน้าของเขาจึงดูย่ำแย่เล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ ไม่ทราบว่าเบื้องหลังของนางคือใคร นับวันยิ่งร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ!
ก่อนหน้านี้ยังเกรงใจอยู่หลายส่วน แต่ตอนนี้ไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย!
แต่ถานไถเฉินกลับไม่คิดเลยว่า เมื่อพวกเขาได้รับการกลั่นแกล้งหลายครั้ง ก็ไม่มีใครสามารถอดทนได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้นฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ก็ไม่ชอบตกเป็นรองใคร
คนอื่นติดค้างนาง นางจะต้องเอาคืนอย่างแน่นอน!
ดังนั้นตอนนี้นางจึงไม่มีความคิดที่จะตอบรับส่งๆ อย่างพอเป็นพิธีอีกแล้ว
“ขอเพียงแค่ถามไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น เจ้าไม่จำเป็นจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลย” น้ำเสียงของถานไถเฉินเย็นยะเยือก
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มจนตาหยี
“หากข้าสงสัยราชวงศ์ไท่อวี่เช่นนี้บ้าง ไม่ทราบว่าท่านจะตอบรับข้าด้วยรอยยิ้มหรือไม่?”
“เจ้า!”
บรรยากาศของสถานที่นั้นถึงจุดเยือกแข็งทันที
จวินจิ่วชิงไม่อยู่ จึงไม่มีใครคอยถ่วงดุลอำนาจ
กงซุนเซียวหันมามองทางนี้ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอันใด
ส่วนหนิงหยวน เหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องการทะเลาะกันนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขามองไปที่ม่านพลังหลากสีนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ และรอคอยอย่างอดทน
ถานไถเฉินไม่สามารถพูดถึงฉู่หลิวเยว่ได้แล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ และไม่สามารถพูดอันใดได้อีก
เมื่อเถียงชนะแล้ว ก็เป็นความสุขชั่ววูบเท่านั้น ชั่วพริบตาเดียวในสายตาของคนอื่นกลายเป็นเรื่องผู้ใหญ่แกล้งเด็ก
ยิ่งเถียงชนะแล้ว ก็จะยิ่งอาย
เขาปิดปากฉับ และเบนสายตาออกจากฉู่หลิวเยว่ทันที
ขอเพียงแค่รั่วหลีสามารถออกมาจากหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวง และเอาชนะราชวงศ์เทียนลิ่งได้ เรื่องอื่นล้วนไม่สำคัญแล้ว!
…
ในที่สุดก็สงบลงแล้ว ฉู่หลิวเยว่นวดขมับของตัวเอง
ความจริงแล้วในตอนนี้ใบหน้าของนางนั้นดูไร้กังวลอย่างมาก
แต่อีกด้านหนึ่งนางกำลังกังวลเรื่องสถานการณ์ของท่านพ่อ อีกด้านหนึ่งก็กังวลเรื่อง เจี่ยนเฟิงฉือและคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวง ที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่สู้ดีนัก
กระดิ่งทองคำนี้ นางมอบให้พวกเขาเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...