เคร้ง!
โล่สีดำที่ดูเก่าแก่และทนทานร่วงลงสู่พื้นดินอย่างแรง จนเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนขึ้นบนพื้นดิน!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองรอยแตกแขนงที่ขยายตัวขึ้น รูม่านตาพลันหดตัวลงทันควัน
ก่อนหน้านี้ถึงนางจะใช้กระบี่หลงหยวนฟาดฟันเพียงใด แต่มันก็ไม่เคยทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นดินเช่นนี้เลยสักครั้ง…
และนางก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ายอดเขาที่ราบเรียบแห่งนี้ ค่อนข้างแตกต่างจากยอดเขาของภูเขาลูกอื่นที่อยู่รอบๆ
ภูเขาลูกอื่นนั้นถูกพลังปราณอันรุนแรงดุจน้ำป่าไหลหลากเมื่อครู่ทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง และแม้แต่บนยอดเขาเองก็ยังพังยับเยิน
แต่บนยอดเขาแห่งนี้กลับไม่ได้รับผลกระทบอันใดเลย!
ทว่าเพียงโล่สีดำตกลงใส่พื้นผิวของมัน แผ่นดินด้านล่างกลับแตกเป็นเสี่ยงๆ…
เมื่อก่อนฉู่หลิวเยว่ก็เคยแอบคิดว่าโล่สีดำลึกนั้นเต็มไปด้วยพลังลึกลับอันแกร่งกล้า และมันอาจจะแข็งแกร่งได้มากกว่าที่นางคิดเสียอีก
ซึ่งพอเห็นผลลัพธ์ในตอนนี้แล้ว ก็รู้เลยว่านางคิดถูก!
ด้วยความช่วยเหลือของโล่สีดำนี้ จะทำให้แรงบีบอัดที่ประทังใส่ฉู่หลิวเยว่นั้นลดลงในทันที
มันทำให้นางยังพอมีโอกาสได้หายใจหายคอบ้าง
หลังจากรีบปรับสมดุลลมปราณแล้ว นางก็เริ่มคิดหาวิธีรับมือขั้นต่อไป
จวินจิ่วชิงได้เปรียบมากกว่านางในทุกด้านอย่างไม่ต้องสงสัย และการที่นางจะพลิกกลับมาชนะในตอนท้ายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่ในเมื่อมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องลองดูกันสักตั้ง!
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไม่ได้เอาคืนเรื่องที่นางประสบในห้วงมิติอันวุ่นวายก่อนหน้านี้ด้วย!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นแล้วมองตรงไปข้างหน้า
พลังปราณสีทองที่ล้อมรอบจวินจิ่วชิงอยู่นั้น กำลังถูกเขากลืนกินอย่างรวดเร็ว!
ซึ่งการดูดกลืนกระแสพลังปราณที่เกิดจากการรวมตัวกันของสามหยวนรวมยอดนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน
และการที่เขาสามารถดูดกลืนมันได้ในจำนวนมาก ก็ถือว่ามีชัยเหนือผู้อื่นแล้ว
ยิ่งกลืนกินมันเข้าไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งได้มากขึ้นเท่านั้น
แต่แน่นอนว่าสิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ฝึกตนแต่ละคนด้วย
เพราะหากผู้ใดโลภมากและกลืนกินพลังปราณดั้งเดิมสุ่มสี่สุ่มห้า จองหองไม่สนใจขีดจำกัดของตนเอง สุดท้ายคนผู้นั้นก็จะใช้พลังอำนาจกระทำการอันตรายที่เป็นภัยต่อสังคม และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เลย
ขณะเดียวกัน ดอกท้อสีทองเล็กๆ นั่นก็ค่อยๆ ร่วงหล่นจากท้องนภาอย่างเงียบเชียบ
ฉู่หลิวเยว่เอื้อมมือออกไปคว้ามันทันที และจับดอกท้อนั่นไว้ได้
เมื่อมองแวบแรก ฉู่หลิวเยว่ก็ปักใจเชื่อทันทีว่านี่คือสิ่งที่นางเห็นในกลุ่มแสงสีทองก่อนหน้านี้!
แต่ทันทีที่แตะต้องมัน ดอกท้อก็ค่อยๆ สลายไปและกลายเป็นลำแสงหลายสาย แล้วพุ่งเข้าใส่ฝ่ามือของนาง
พลังอันอบอุ่นหลั่งไหลเข้าสู่แขนขาและฝังเข้าไปในกระดูก!
อาการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจจนพูดไม่ออก
เหมือนเจ้านี่จะ… ไม่ใช่พลังของสามหยวนรวมยอดเลย?
แต่มันไปโผล่อยู่ตรงนั้นได้อย่างใดกัน?
แถมมันยังดูเหมือนดอกท้อทั่วไป…
“ตูม ตูม ตูม”!
ยังไม่ทันที่ฉู่หลิวเยว่จะได้คิดหาคำตอบ ก็มีคลื่นพลังบางอย่างพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง!
นางมองดูฝ่ามือของตัวเองด้วยแววตาลึกซึ้ง และสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปทันที ก่อนจะนั่งขัดตะหมาดแล้ววางมือทั้งสองข้างไว้บนเข่าเพื่อทำสมาธิ
พลังปราณสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเสมือนคลื่นน้ำ พลันห่อหุ้มร่างของนางไว้อย่างสมบูรณ์!
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มกลืนกินพลังปราณรอบตัวอย่างตะกละตะกลาม!
…
ฉู่หลิวเยว่ดูดซับพลังแห่งสวรรค์และโลกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีกระแสน้ำวนที่เกิดจากพลังปราณสีทอง ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ
และในขณะเดียวกัน ลมปราณบนร่างกายของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน!
ทว่าสิ่งนี้ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับพวกของมู่หงอวี่ที่กำลังเฝ้าดูอยู่นัก ตรงกันข้ามกัน มันทำให้พวกเขากังวลยิ่งกว่าเดิมต่างหาก!
“เหตุใดฝ่าบาทจึงรีบกลืนกินพลังปราณดั้งเดิมด้วยเช่นนั้น!? นี่มัน อันตรายเกินไปแล้ว! ตอนนี้นางเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับหกขั้นสูงสุดเท่านั้นเองนะ!”
สีหน้าของอวี่เหวินจิงหงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ด้วยความเร็วเช่นนี้ เพียงแค่เค่อเดียวก็เกรงว่าร่างกายของนางอาจจะทนไม่ไหวเอาได้!
ทว่าถึงจะกังวลมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้ยอดเขาหลักได้ในเวลานี้ และทำได้เพียงมองดูนางอย่างหมดหนทาง
มู่หงอวี่กำมือแน่น หัวใจดวงน้อยบีบตัวแน่นอย่างน่าอึดอัด
นางเม้มปากแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า
“ข้าเชื่อในวีถีของนาง นางต้องทำได้อย่างแน่นอน!”
…
“ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...