อู๋เหมยพูดอย่างเย็นชา : “ทำไม คุณอยากตีฉันเหรอ คุณสามารถลองดูได้ พ่อของฉันตบคุณตายด้วยฝ่ามือเดียว!”
ดวงตาของโตวหลานเต็มไปด้วยความเย็นชา อุณหภูมิโดยรอบเริ่มลดลง
“พอได้แล้ว” จั่วหลิงเฟิงโบมือหนึ่งที “ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้บรรยากาศตึงเครียดขนาดนี้ นอกจากนี้ตอนนี้พวกเราถูกล้อมเอาไว้แล้ว แทนที่จะต่อสู้กันภายใน มาคิดหนทางหนีกันดีกว่า”
อู๋เป่ยมองอู๋เหมยด้วยรอยยิ้ม พูด : “ไม่เสียแรงที่เลี้ยงดู เวลาสำคัญ รู้จักมายืนข้างเดียวกับพี่ชายด้วย”
อู๋เหมยทำปากมุ่ย : “พี่ คุณไม่รู้สะแล้ว ผู้หญิงสองคนนี้แกล้งทำเป็นเทพธิดาตลอดทั้งวัน ฉันเห็นแล้วเหนื่อยอย่างมาก”
ไม่ผิด ทั้งมหาวิทยาลัย อู๋เหมยไม่ชอบที่สุดก็คือผู้หญิงสองคนนี้ ก็คือโตวหลานและเย่ชิงหวู่ตรงหน้า
อู๋เป่ย : “เธอต้องเข้าใจหน่อย เห็นพวกเธอครั้งแรกก็รู้ว่าไม่มีประสบการณ์ คิดว่ามีพลังยุทธ์ของตี้เซียน ก็สามารถดูถูกคนธรรมดาราวกับมด อย่างที่ทุกคนรู้ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน คนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเธอ คนที่มีคุณสมบัติดีกว่าพวกเธอ มีนับไม่ถ้วน”
เย่ชิงหวู่พูดอย่างเย็นชา : “ฟังจากความหมายในคำพูดของคุณ คุณเป็นแค่คนเซียนคนหนึ่ง มีความรู้ด้านการฝึกฝนมากกว่าตี้เซียนอย่างพวกเราสองคนอีกนะ”
อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ถ้าจะบอกว่ามีความรู้ด้านการฝึกฝน พวกเธอสองคนรวมกันแล้ว คุณเพิ่มอีกหนึ่งร้อยเท่า ล้วนเทียบไม่ได้กับหนึ่งในหมื่นของฉัน”
ในที่สุดสีหน้าของจั่วหลิงเฟิงก็เย็นชาขึ้นมา พูด : “พี่ชายของอู๋เหมย ผมไว้หน้าคุณ คุณก็ต้องรับเอาไว้ คนที่มีสถานะอย่างพวกเราแบบนี้ ไม่ใช่ใครก็สามารถดูถูกได้”
อู๋เหมยพูดอย่างไม่แยแส : “พอได้แล้วจั่วหลิงเฟิง เริ่มมีความกล้าแล้วนะ ถึงกล้าพูดแบบนี้กับพี่ชายของฉัน”
จั่วหลิงเฟิงหัวเราะหนึ่งที : “อู๋เหมย ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าคุณสมบัติของเธอไม่ธรรมดา ต้องการรับสมัครเธอเข้าสู่ตระกูลจั่วของฉัน มาเป็นนางสนมของฉัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า พี่ชายผู้โง่เขลาของเธอ เกรงว่าจะทำลายโอกาสของเธอแล้ว”
อู๋เหมย : “คุณบอกว่าการเป็นนางสนมของคุณเป็นโอกาสสำหรับฉันเหรอ จั่วหลิงเฟิง คุณประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว คุณคิดว่า อู๋เป่ยอย่างฉันจะสนใจตุ๊ดอย่างคุณเหรอ”
จั่วหลิงเฟิงอึ้งสักพัก หลังจากนั้นมีสีหน้าที่มืดมน : “เธอพูดอะไรนะ”
อู๋เหมย : “เวลาที่พวกเรารู้จักกัน ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ แต่คุณ เพิ่งย้ายมา ก็ถามหาวิธีการติดต่อของฉันเลย ฉันรู้ว่าคุณมีแผนการ แต่เดาไม่ออกว่าคุณต้องการอะไรจากตัวฉัน ดังนั้นฉันเลยสังเกตมาโดยตลอด”
จั่วหลิงเฟิงปรบมือ : “ฉลาด ฉันคิดว่าคนธรรมดาอย่างเธอ จะไม่พบอะไรเลย”
อู๋เหมย : “หลายวันที่ผ่านมา ฉันพอรู้บ้างแล้วว่าคุณต้องการอะไร”
เธอหยิบจี้หยกออกมาจากอ้อมแขนหนึ่งอัน จี้หยกนี้ อู๋เป่ยมอบให้อู๋เหมยเป็นยันต์คุ้มภัย หยกเซียนอมตะ เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง
จั่วหลิงเฟิงขมวดคิ้ว : “ที่แท้เธอรู้ตั้งนานแล้ว”
อู๋เหมย : “คุณจะมองมันด้วยความตั้งใจหรือมองมันด้วยความบังเอิญทุกครั้ง ต่อให้ฉันเป็นคนโง่ก็สามารถเดาได้”
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ฉันคิดว่าเธอชอบคนมือสองแบบนี้จริงๆสะแล้ว”
อู๋เหมยพูด : “พี่ สายตาของฉันไม่ได้แย่ขนาดนั้นไหม”
การสนทนาของสองพี่น้อง ทำให้จั่วหลิงเฟิงโกรธอย่างมาก สีหน้ามืดมนมากกว่าเดิม เขาพูด : “พวกเธอหยิ่งผยองให้เต็มที่เลย อีกสักพักเหล่าปีศาจปรากฏตัว ฉันดูสิว่าพวกเธอจะจัดการยังไง!”
โต้วหลาน : “จั่วซื่อจื่อ คุณมีมาตรการตอบโต้ไหม”
จั่วหลิงเฟิง : “อีกสักพัก รอให้เหล่าปีศาจเคลื่อนไหว พวกเราจำเป็นต้องหนีเป็นอันดับแรก สำหรับคนอื่น ไม่มีเวลาไปสนใจเยอะขนาดนั้นแล้ว เป็นตายอยู่ที่ตัวเองแล้ว”
อู๋เหมยฮึหนึ่งที : “นี่เป็นหน้าที่ของพวกคุณในฐานะผู้ฝึกฝนเหรอ”
จั่วหลิงเฟิงพูดอย่างไม่แยแส : “เป็นแค่คนธรรมดากลุ่มหนึ่ง ตายก็ตายไปสะเถอะ ไม่มีอะไรน่าเสียดาย”
เขามองไปทางผู้หญิงสวมแว่นตา : “ตัวอย่างเช่นเธอ พลังจิตวิญญาณของเธอ แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาสามเท่า ดังนั้นเธอเป็นคนฉลาด สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างง่ายดาย โดยที่คนอื่นไม่สามารถสอบเข้าได้ถึงแม้จะพยายามอย่างเต็มที่ก็ตาม”
อู๋เหมย : “พี่ คุณไม่ต้องแสดงแล้ว รีบพูดมาเลยว่าตกลงเป็นใครที่ต้องการทำร้ายพวกเรา”
อู๋เป่ย : “ไม่ต้องใจร้อน พูดถึงเหตุผลก่อนแล้วค่อยพูดผลลัพธ์ เหตุผลเพราะจิตวิญญาณของพวกเธอแข็งแกร่ง จึงเป็นวัตถุดิบที่ดีในการกลายเป็นเวทย์ปีศาจ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากจิตวิญญาณของพวกเธอถูกเอาไป ทำให้กลายเป็นผีที่ชั่วร้าย จะมีความแข็งแกร่งกว่าผีทั่วไปอย่างมาก”
หัวของทุกคนชาไปหมด ทำให้กลายเป็นผีที่ชั่วร้ายเหรอ
อู๋เป่ย : “เอาล่ะ ฉันเพียงแค่บอกเหตุผลง่ายๆให้พวกนาย ต่อจากนี้ พวกเธอพักผ่อนให้เต็มที่ เรื่องที่เหลือปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดการเอง”
พูดจบ เขาสวดคาถาออกมาหนึ่งบท ทันใดนั้น คนที่อยู่ในสถานที่นอกจากอู๋เหมย เหม๋ยเป่าและคนอื่นๆแล้ว ต่างผล็อยหลับไปทันที และหมดสติไปแล้ว!
ในเวลานี้ หมอกหนาทึบปรากฏขึ้นข้างหน้า นายพลที่สวมชุดเกราะโบราณคนหนึ่งเดินออกมาจากหมอก เขาขี่ม้าตัวสูง ภายในดวงตาทั้งสองข้าง ฉายไฟสีแดงออกมา พูดเสียงลึก : “คุกเข่าลง ไม่อย่างนั้นฉันจะเก็บแกไปพร้อมกัน!”
อู๋เป่ยยืนอยู่บนท้องฟ้า พูด : “แกมาจากแผนกไหนของนรกภูมิ รายงานตัวมา!”
ก่อนหน้านี้มองเห็นหมอกผี เขาก็สามารถเดาได้ว่าเป็นวิธีการของนรกภูมิ ตอนนี้มองเห็นนายพลผีตนนี้แล้ว ไม่ผิดอย่างแน่นอน นรกภูมิจะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้ว
นายพลผีตนนี้ฮึหนึ่งที : “ในเมื่อแกรู้ว่าฉันมาจากนรกภูมิ ยังไม่คุกเข่าลงอีก”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว : “ฉันพูดกับแกอย่างเกรงใจ แกฟังไม่รู้เรื่องเหรอ ฉันถามแก แกมาจากแผนกไหนของนรกภูมิ”
นายพลผีคำรามด้วยความโกรธ : “มนุษย์ผู้โง่เขลา ฉันจะกินแก!”
เขาคำรามหนึ่งที จู่ๆก็กลายเป็นแสงสีดำ พร้อมโบกมีดขนาดใหญ่ ฟันลงมาที่อู๋เป่ย ทรงพลังอย่างมาก ไม่อาจต้านทานได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...