เขาถามอีกว่า "มนต์ยึดประตูของสำนักเซินโจ่วคือเธอใช่ไหม?"
อี้เทียนตอบ "นอกจากฉันแล้วยังมียันต์คำสาปอยู่อีกสอง ลวนมาจากสวรรค์ระดับสอง พวกมันตัวหนึ่งชื่อเจยี๋วเทียน ตัวหนึ่งชื่อเมี่ยชื่อ พลังไม่ด้อยไปกว่าฉัน"
อู๋เป่ยตกใจแล้วถามว่า "ใครเป็นผู้ถือครองยันตืสำคาปสองอันนี้?"
"แยกเป็นผู้พิทักษ์ซ้ายขวาของสำนักเซินโจ่ว" อี้เทียนตอบ
อู๋เป่ยรีบพูดต่อ "รีบปราบปรามพวกเขา!"
ครู่ต่อมา วิญญาณคำสาปสังหารสวรรค์ก็ปลดปล่อยพลังคำสาปออกมา และล็อคตัวสองคนที่ยังคงเฝ้าส่วนลึกของสำนักเซินโจ่ว ทั้งสองคนถือยันต์คำสาปพร้อมลงมือ สังหารศัตรูทุกเมื่อ!
แต่ทันใดนั้น มนต์สะกดทั้งสองก้ระเบิดแลวเข้าสู่ปราช์จิตสำนึกของพวกเขา ชายทั้งสองตัวสั่น เลือดออกทวารทั้งเจ็ด ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกมนต์สะกดฆ่าและกลายเป็นศพในทันที
อู๋เป่ยรีบมาดูทั้งสองคนก็ได้รับยันต์คำสาปหนึ่งอันจากบนร่างของพวกเขา ตัวหนึ่งชื่อเจยี๋วเทียน ตัวหนึ่งชื่อเมี่ยชื่อ
ยันต์คำสาปทั้งสองเป็นมุกส่องแสงสองเม็ด หนึ่งสีเขียวหนึ่งสีม่วง เมื่อเห็นเช่นนั้น อู๋เป่ยก็เข้าใจว่าสำนักเซินโจ่วไม่เคยขัดเกลาพวกมันมาก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่มีโอกาสเข้ามาฆ่าคนในสำนักเซินโจ่ว
อู๋เป่ยขึ้นไปในอากาศ บินขึ้นไปบนท้องฟ้า มือซ้ายขวาแบ่งเป็นเจยี๋วเทียนและเมี่ยชื่อ เขาพูดอย่างสุขุม "คำสาปสังหารสวรรค์ถูกฉันควบคุมแล้ว เจยี๋วเทียนและเมี่ยชื่อกอยู๋ในมือของฉันแล้ว พวกนายยังจะต่อต้านอยู่ไหม?"
มันใดนั้น ทุกคนที่ต่อสู้อยู่ก็หยุดลง ผู้คนในสำนักเซินโจ่วต่างตกตะลึงและมองดูอู๋เป่ยบนฟ้า ในใจแต่ละคนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง สำนักเซินโจ่ว จบลงแล้ว!
อู๋เป่ยพูด "ยอมแพ้เสีย ฉันสัญญาว่าจะไม่ฆ่าคุณ ยิ่งไปกว่านั้นหากพวกคุณเต็มใจยอมจำนน ศิษย์และผู้อาวุโสทุกคนสามารถเข้าร่วมพรรคฉู่ซานจิ้นได้ สำนักเซินโจ่วให้ทรัพยากรเท่าไหร่ พรรคฉู่ซานจิ้นคืนให้พวกคุณเท่านั้น"
ไม่มีใครอยากยอมแพ้ชีวิต สำนักเซินโจ่วจบแล้ว เข้าร่วมพรรคฉู่ซานจิ้นก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
หลิววั่งกงก็พูด "ถูกต้อง! พวกคุณสามารถเลือกเข้าร่วมพรรคฉู่ซานจิ้น เข้าร่วมพรรคฉู่ซานจิ้นแล้วชีวิตของพวกคุณจะดีกว่าก่อนแน่นอน"
ทางหนึ่งคือความตายสูญเสียทุกสิ่งอย่าง ทางหนึ่งคือความสงบสุขปลอดภัย และยังสามารถฝึกยุทธ์และใช้ชีวิตต่อไปได้ คนจำนวนมากต่างรีบเลือกข้อหลัง
การต่อสู้หยุดลง หลิววั่งกงนำคนเข้ายึดสำนักเซินโจ่ว ผู้อาวุโสและศิษย์ที่หลบหนีก่อนหนาก็กลับมาอีก ท้ายที่สุด นี่คือที่ที่พวกเขาออาศัยอยู่ ตราบใดที่พรรคฉู่ซานจิ้นรักษาศัญญาได้ พวกเขาก็ยินดีที่จะกลับมา
หลังกลืนกินสำนักเซินโจ่วได้แล้ว หลิววั่งกงและคนอื่นๆต่างก็ยุ่งกันทันที
อู๋เป่ยไม่รีบร้อนที่จะเข้าไปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เพราะตอนนี้มันเป็นของพรรคฉู่ซานจิ้นแล้ว เขากลับไปที่สำนักนอกเขาสู่ ดำเนินการทดสอบมือใหม่ต่อไป
เนื่องจากมีผู้คนเขามามีส่วนร่วมในการทดสอบมากพอ สุดท้ายสำนักนอกเขาสู่ก็รับศิษย์หนึ่งพันสองร้อยคน ต่อไปศิษย์เหล่านี้เข้ารับการประเมินผลหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ หากพวกเขามีการแสดงออกที่ดี พวกเขาก็จะสามารถเป้นศิษย์นอกสำนักอย่างเป็นทางการได้ นอกจากนี้อัจฉริยะก็ยังสามารถได้รับการฝึกอบรมที่สำคัญขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าจะมีหลายสิ่งในสำนักนอกเขาสู่ แต่ผู้อาวุโสของเขาสู่มีหน้าที่ที่รับผิดชอบต่างกับไป อู๋เป่ยไม่จำเปนตองมีส่วมร่วมในทุกสิ่ง เขาเพียงบอกว่าต้องทำอย่างไรก็พอแล้ว
อยู่ที่สำนักนอกเขาสู่ยุ่งวุ่ยวายไปสามวัน อู๋เป่ยจึงกลับไปมาที่ดินแดนแห่งเซียนเมื่อมาถึงพรรคฉู่ซานจิ้น เขาก็พบว่าเหล่าศิษย์ที่เฝ้าประตูเขาดูแปลกๆไป เมื่อเห็นอู๋เป่ยกลับมา ศิษยืคนหนึ่งก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า "ท่านผู้อาวุโส ท่านอย่ากลับไปนะ!"
อู๋เป่ยรู้สึกแปลกๆ จึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
ศิษย์นั้นถอนหายใจ "สำนักงานใหญ่เขาสู่ได้ส่งคนกลุ่มหนึ่งลงไป เพื่อเข้ายึดพรรคฉู่ซานจิ้นอย่างเป็นทางการ หัวหน้าพรรคถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่ดินแดนเซียน ปรมาจารย์สูงสุดและปรมาจารย์ต่างก็ถูกลดระดับเป็นคนธรรมดา ผู้อาวุโส ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนของคุณในฐานะนายน้อยหัวหน้าพรรคกถือเอาไปแล้ว"
เฉินเต้าซวน "นายยังสามารถอยู่ที่พรรคฉู่ซานจิ้นได้ต่อ สถานการณ์คงไม่แย่ไปกว่านี้ ด้วยคุณสมบัติของนาย นายจะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังในไม่ช้าก็เร็ว หรือนายอาจจะสามารถเขาสำนักอื่นก็ได้"
อู๋เป่ยตอบ "ยังไม่ถึงเวลานั้น ค่อยพูดเถอะ"
เฉินเต้าซวน "ฉันไม่สามารถออกมานานได้ ตอนนี้ต้องกลับไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรฉันจะติดต่อนายเอง"
เมื่อเฉินเต้าซวนจากไปแล้ว อู๋เป่ยก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบไปที่สำนักเซินโจ่ว เขาจะต้องรีบเข้าไปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์เซินโจ่วนั้นโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นสิ่งต่างๆจะสายเกินไป
เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้ สำนักดาบเทียนตี้ยังไม่มีเวลาใช้พลังเข้ามาในสำนักเซินโจ่ว เพียงส่งคนไปดูเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
สำนักเซินโจ่วได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอนนี้อยู่ในความสับสนวุ่ยวาย ดังนั้นเมื่อเขามาถึงทางเข้าถ้ำศักดิ์สิทธิ์เซินโจ่วจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเขา
เขาฝ่าขอจำกัดต่างไปได้อย่างง่ายดาย และเข้าไปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์เซินโจ่ว
ทิวทัศน์ในถ้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นดีมาก ท้องฟ้าสูง โลกกว้างใหญ่ ดอกไม้ ต้นไม นกและสัตว์ต่างๆดูเหมือนทุกอย่างจะไม่ต่างจากโลกแห่งความเป็นจริงนัก
แต่เมื่ออู๋เป่ยเปิดดวงตาวิเศษ เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าโลกนี้ประกอบไปด้วยพลังหลักสองอย่าง ได้แก่มนต์สะกดและยันต์
มนต์สะกดเป็นหน่วยพลังงานพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นมนต์ ยันต์ คือหน่วยพลังพื้นฐานที่สังเคราะหฺยันต์ เมื่อพลังงานทั้งสองถูกแก้ไขและจัดเรียงในลักษณะที่แตกต่างกัน ก็จะเกิดสิ่งต่างๆขึ้น เช่น เม็ดทราย ใบไม หรือลำแสง
กล่าวคือ โลกที่เขาเห็นตอนนี้ถูกตั้งโปรแกรมเหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แตกต่างจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สิ่งต่างๆที่นี่ไม่ใช่สิ่งเสมือนแต่เป็นของจริง องค์ประกอบพื้นฐานที่นี่ไม่ใช่ศูนย์และองค์ประกอบ แต่เป็นมนต์และยันต์
หลังจากมองเห็นทั้งหมดนี้แล้วอู๋เป่ยก็ตกตะลึงและพึมพำว่า "จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เซินโจ่วผู้นี้น่าทึ่งมาก!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...