“ยาอายุวัฒนะในตำนาน!” เด็กยามู่หยู่ดีใจอย่างมาก : “ขอแสดงความยินดีกับนายท่านด้วย!”
อู๋เป่ยหยิบยาอายุวัฒนะเฟยเซิงขึ้นมาหนึ่งเม็ดแล้วยื่นให้อวิ๋นซี พูด : “เสี่ยวซี คุณเอาไปให้บรรพบุรุษ มียาอายุวัฒนะนี้ เขาจะต้องทะลวงในวันนี้แน่นอน”
อวิ๋นซีดีใจอย่างมาก รับยาอายุวัฒนะแล้วออกจากถ้ำสวรรค์ทันที
ในเมื่อมาแล้ว เขาก็ไม่อยู่ว่างๆเช่นกัน ปรุงยาอายุวัฒนะโต้วเทียนออกมาอีกครั้ง
ตามความหมายเลย ยาอายุวัฒนะโต้วเทียน เป็นยาอายุวัฒนะที่ใช้สำหรับทะลวงสู่ขั้นโต้วเทียน ระดับการปรุงของมันค่อนข้างยาก อันที่จริงไม่อยู่ภายใต้ยาอายุวัฒนะเฟยเซิง
เตาที่หนึ่ง ยาอายุวัฒนะโต้วเทียนเป็นเกรดจักรพรรดิ ถึงเตาที่สอง เลื่อนขั้นเป็นยาอายุวัฒนะในตำนานแล้ว!
ปรุงยาอายุวัฒนะเสร็จแล้ว เขาออกมาจากถ้ำสวรรค์ ก็มองเห็นอวิ๋นซีเฝ้าอยู่ข้างนอก ใบหน้าสวยของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เขาจึงถาม : “เสี่ยวซี บรรพบุรุษทะลวงหรือยัง”
อวิ๋นซีพยักหน้า : “บรรพบุรุษเลื่อนขั้นเป็นเซียนสวรรค์แล้ว!”
อู๋เป่ย : “แบบนั้นก็ดีแล้ว ท้ายที่สุดแล้วเป็นถึงยาอายุวัฒนะเฟยเซิงในตำนาน ถ้าหากยังไม่ทะลวงอีกล่ะก็ อย่างนั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
อวิ๋นซี : “ซวินเป่ย ฉันได้รับข่าวมา พวกอวิ๋นถิงกวงรวมตัวกันที่จวนอุปราชแล้ว คิดว่าน่าจะมาในไม่ช้านี้ บรรพบุรุษเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะรอดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากอีกฝ่ายมีเหตุผลก็ยังดีหน่อย ถ้าหากอีกฝ่ายไม่มีเหตุผล อย่างนั้นทำได้แค่แตกหักกับพวกเขาแล้ว”
อู๋เป่ย : “ในฐานะที่ตระกูลอวิ๋นเป็นเผ่าราชวงศ์ คิดว่าน่าจะมียอดฝีมืออยู่ไม่น้อย คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นใคร”
อวิ๋นซี : “แน่นอนก็คือบรรพบุรุษอวิ๋นเทียนเฟิง กลายเป็นเซียนเที่ยงแท้ขั้นสามเมื่อนานมาแล้ว บรรพบุรุษมีธุรกิจหลายอย่างในโลกแห่งเซียน เพียงแต่อวิ๋นเทียนเฟิงไม่ค่อยสนใจเรื่องของโลกมนุษย์ เรื่องของโลกมนุษย์ มีท่านประมุขเป็นคนตัดสินใจสะส่วนใหญ่ พลังของท่านประมุขแข็งแกร่งอย่างมาก เซียนเที่ยงแท้ขั้นหนึ่ง ว่ากันว่าสามารถทะลวงสู่ขั้นสองได้ตลอดเวลา”
“แล้วผู้อาวุโสคนอื่นๆล่ะ พลังของพวกเขาเป็นยังไง”
“พลังยุทธ์ผู้อาวุโสทั้งสิบคนแตกต่างกัน มีเทพเซียน และมีเซียนสุญญตา บรรพบุรุษของพวกเราถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิบที่อ่อนแอที่สุด”
อู๋เป่ย : “ก่อนหน้านี้บรรพบุรุษเป็นเซียนสวรรค์ครึ่งก้าว เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้อาวุโสกลุ่มอื่นจะดูถูก”
อวิ๋นซี : “ใช่แล้ว ดังนั้นบรรพบุรุษค่อนข้างลำบากใจ ตอนนี้ดีแล้ว บรรพบุรุษเลื่อนขั้นเป็นเซียนสวรรค์แล้ว”
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน จู่ๆก็ได้ยินเสียงที่ดุร้ายดังมาจากข้างนอก : “อวิ๋นเฟยหยาง ออกมา!”
อีกฝ่ายโมโหอย่างมาก ไม่มีการไว้หน้าอวิ๋นเฟยหยางเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่อู๋เป่ยได้ยิน ก็รู้ว่าคนของอีกฝ่ายมาถึงแล้ว เขาและอวิ๋นซีจึงออกมาดูนอกจวน
อวิ๋นเฟยหยางและกลุ่มสมาชิกในตระกูลอวิ๋นปรากฏตัวขึ้นทันที และอีกฝ่าย มีคนมาด้วยสิบกว่าคน คนที่เป็นผู้นำเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำ ไว้หนวดสองเส้น รูปร่างไม่สูง ผอมบาง มีไม้สั้นอยู่ที่เอวหนึ่งอัน
ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำ ก็คืออวิ๋นถิงกวง เขาหัวเราะอย่างเย็นชา : “อวิ๋นเฟยหยาง เวลาที่ฉันมอบให้แกถึงแล้ว แกส่งคนออกมาตอนนี้ ฉันเห็นแก่ที่มิตรภาพที่พวกเราเป็นคนเผ่าเดียวกัน จะไม่ทำให้พวกแกลำบากใจ ถ้าหากไม่ส่งคนออกมา ฮึ! อย่างนั้นก็อย่าโทษฉันลงมือโหดเหี้ยมแล้วกัน!”
อวิ๋นเฟยหยางไม่อยากใช้ทางเลือกสุดท้าย ไม่อยากแตกหักกับอีกฝ่าย เขาผสานมือทำความเคารพ : “ผู้อาวุโสอวิ๋น ทุกคนเป็นเผ่าเดียวกัน มีความขัดแย้งระหว่างคนรุ่นหลัง ล้วนแล้วเป็นเรื่องเล็ก นอกจากนี้ คุณชายลิ่งได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ผมก็ได้ลงโทษอวิ๋นเหมียนไปแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ให้มันจบเพียงเท่านี้เถอะ”
อวิ๋นถิงกวงหัวเราะอย่างเย็นชา : “จบเพียงเท่านี้เหรอ อวิ๋นเฟยหยาง แกหูหนวกกับคำพูดที่ฉันพูดก่อนหน้านี้เหรอ ฉันจะนับถอยหลังสิบครั้ง ส่งอวิ๋นเหมียนออกมา ไม่อย่างนั้นสาขาของพวกแก จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป!”
อวิ๋นซีอดทนไม่ไหวแล้ว พูดด้วยความโกรธ : “อวิ๋นถิงกวง! แกแค่อยากจะครอบครองอวิ๋นโจวเท่านั้น แต่สาขาของพวกเรา ไม่ใช่สิ่งที่แกอยากจะรังแกก็สามารถรังแกได้!”
อวิ๋นถิงกวงเหลือบไปมองอวิ๋นซีหนึ่งที พูดด้วยรอยยิ้ม : “ได้ยินมาว่าสาขานี้มีสาวงามคนหนึ่ง ชื่อว่าอวิ๋นซี คิดว่าน่าจะเป็นเธอใช่ไหม ฮ่าฮ่าฮ่า หน้าตาสวยจริงๆ”
เขาหันไปหาชายในชุดคลุมคนหนึ่งแล้วพูด : “หลงไห่ ตอนนี้ฉันเห็นว่านายไม่ได้มีผู้หญิงแค่คนเดียว รับนางสนมเพิ่มอีกคนน่าจะดีกว่า อวิ๋นซีคนนี้ ยกให้นายแล้วกัน”
ชายในชุดคลุมคนนี้ก็คืออุปราชไท่ชิง ฉีหลงไห่ ตระกูลฉีแห่งหนึ่งในสิบขุนนางใหญ่ ในโลกมนุษย์ก็ค่อนข้างมีตำแหน่งเช่นกัน
อวิ๋นซีโกรธจนใบหน้าสวยซีดขาว อู๋เป่ยจับมือของเธอเบาๆ เขาพูดอย่างไม่แยแส : “อวิ๋นถิงกวง ยกคู่หมั้นของฉันให้เป็นลูกเขยของตัวเองในฐานะนางสนม แกคิดว่าฉันเป็นอากาศเหรอ”
เขาก้าวออกไปหนึ่งก้าว พลังที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน
อวิ๋นถิงกวงขมวดคิ้ว : “แกก็คือเด็กของตำหนักเซียนเทียนหวู่คนนั้นเหรอ”
“ตุ้ม!”
เขาเหวี่ยงฉีหลงไห่ลงบนพื้นอย่างแรง อีกฝ่ายส่งเสียงกรีดร้องออกมา ร่ายกายแตกสลาย วิญญาณแรกเกิดกระจัดกระจาย พลังยุทธ์หายไปในทันที
ส่วนคนอื่นๆยังตอบสนองไม่ทัน อู๋เป่ยก็จับโฮวอี้ฟานเอาไว้อีกครั้ง สะบัดมือหนึ่งที กระดูกของคนผู้นี้ก็แตกหักทั้งตัวแล้ว วิญญาณแรกเกิดก็สั่นสะเทือนจนเกือบจะแตกสลายเช่นกัน เขาตกใจจนตะโกนออกมา รีบพูด : “ได้โปรด ไว้ชีวิตด้วย!”
อู๋เป่ยแตะเขาออกไปหนึ่งที ไปยืนอยู่ต่อหน้าอวิ๋นถิงกวงอีกครั้ง : “แกจะขอโทษไหม”
ภายในใจของอวิ๋นถิงกวงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทำไมคนผู้นี้ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที พูด : “คุณชายหลี่ ตระกูลอวิ๋นของฉันเป็นถึงหนึ่งในสี่ราชวงศ์.....”
“เพี๊ยะ”
อู๋เป่ยตบหน้าเขาหนึ่งที การตบครั้งนี้ ตบอวิ๋นถิงกวงบินออกไปร้อยเมตรโดยตรง หัวพังไปครึ่งหนึ่งแล้ว เจ็บปวดจนเขานอนกลิ้งอยู่บนพื้น
“หยุด!” ลูกเขยคนโตของอวิ๋นถิงกวงลงมือ แต่ถูกอู๋เป่ยแตะออกไปในทันที เลือดไหลอย่างบ้าคลั่ง แค่ทีเดียว ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว!
ขาของอู๋เป่ยเหยียบอยู่บนใบหน้าของอวิ๋นถิงกวง พูดอย่างไม่แยแส : “จะขอโทษไหม”
ในที่สุดอวิ๋นถิงกวงก็กลัวแล้ว ตะโกน : “คุณชายอย่าเพิ่งโกรธ ผมขอโทษ!”
เขาลุกขึ้นมา คุกเข่าให้อวิ๋นซี : “อวิ๋นซี ขอโทษ เมื่อกี้เป็นเพราะฉันพูดจาเสียมารยาท ฉันขอโทษ!”
อวิ๋นซีฮึหนึ่งที ภายในใจก็แอบตะลึงเช่นกัน ความแข็งแกร่งของอู๋เป่ยเกินจินตนาการของเธออย่างมาก
หลังจาออวิ๋นถิงกวนคุกเข่าขอโทษ หันมามองอู๋เป่ยด้วยความน่าสงสาร
อู๋เป่ยคิดสักพัก พูดอย่างไม่แยแส : “ได้ยินมาว่าแกควบคุมสามแคว้นของไท่ชิงใช่ไหม ใหเวลาแกหนึ่งวัน ส่งสามแคว้นนี้ออกมา แล้วไสหัวกลับไปพื้นที่ของแกสะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะแตะหัวของแกแตกทันที!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...