ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1409

ขั้นตอนการเข้าสู่ตำหนักดาบหยินหยางนั้นคล้ายกับการไปที่ตำหนักดาบเทียนเซียง เพียงแต่ ตำหนักดาบหยินหยางเป็นพื้นที่ของสำนักดาบหยินหยาง ในฐานะที่อู๋เป่ยเป็นลูกศิษย์ของสำนักเทียนเซียงเข้าไปตรัสรู้ ขั้นตอนจึงค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย โชคดีที่กงซุนหวี่ชิงดูแลทุกอย่าง เขาเพียงแค่รอสักพักหนึ่งเท่านั้น ก็สามารถเข้าไปในตำหนักดาบหยินหยางสำเร็จ

ทางเข้าของตำหนักดาบหยินหยาง ตอนที่กงซุนหวี่ชิงและอู๋เป่ยปรากฏตัว ผู้อาวุโสหลายคนของตำหนักดาบหยินหยางที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น

นี่คือการปฏิบัติของนิกายสี่ดาบใหญ่ ฝ่ายหนึ่งมาที่ตำหนักดาบของอีกฝ่ายเพื่อตรัสรู้ ในฐานะที่เป็นฝ่ายเจ้าภาพเลยมีการส่งผู้อาวุโส “มากำกับดูแล” แทนที่จะเรียกว่าเป็นการกำกับดูแล เรียกว่าเป็นการดูถูกจะดีกว่า ท้ายที่สุดแล้วคนที่สามารถตรัสรู้เคล็ดลับวิชาดาบได้มีน้อยอย่างมาก

คำนวณดูแล้ว เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่สำนักดาบเทียนเซียงไม่ได้ส่งลูกศิษย์เข้ามาในตำหนักดาบหยินหยาง ดังนั้นการปรากฏตัวของอู๋เป่ย ดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโสและลูกศิษย์มากมายของสำนักดาบหยินหยางทันที

มองเห็นซ่งยวี่ มีเสียงเยาะเย้ยดังมาจากกลุ่มคนทันที : “เคล็ดลับของเทียนเซี่ยงของตัวเองล้วนแล้วฝึกฝนไม่สำเร็จ ก็วิ่งมาที่ตำหนักดาบหยินหยางของพวกเราแล้ว ฮ่าฮ่า ไม่รู้จักเหตุผลที่ว่าโลภมากลาภหายเหรอ”

อู๋เป่ยกลับไม่สนใจคำดูถูกของพวกเขา ขึ้นไปบนสะพานลอยโดยตรง เดินไปทางประตูใหญ่

มีคนพูดอีกครั้ง : “ฉันขอเดิมพันเลย ภายใต้หุ่นเชิดวิชาดาบที่เฝ้าประตู เขาผ่านสามกระบวนท่าไม่ได้อย่างแน่นอน”

“ฉันเดิมพันสองกระบวนท่า” อีกคนหนึ่งพูด

กงซุนหวี่ชิงอยู่ในความเงียบ เจ้าสำนักไม่อนุญาตให้เขาพูดว่าซ่งยวี่เป็นอัจฉริยะ ดังนั้นเขาพูดไม่ได้!

แต่วินาทีต่อมา อู๋เป่ยก็ใช้ความจริงตบหน้าของทุกคน

“ปัง!”

เสียงดาบดังขึ้น อู๋เป่ยสับหุ่นเชิดของตำหนักดาบใต้สะพานด้วยดาบเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นเปิดประตูใหญ่ เขาเดินเข้าไปแล้ว

อู๋เป่ยได้รับเคล็ดลับของหยินหยางระดับที่หนึ่งมานานแล้ว การเดินทางในครั้งนี้เขาต้องการระดับที่สองของเคล็ดลับของหยินหยาง!

สถานการณ์ใกล้เคียงกับตำหนักดาบเทียนเซียง ทันทีที่เขาเข้าไป เคล็ดลับของหยินหยางระดับที่สองก็ระเบิดเข้าสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าจิตใจของเขาแข็งแกร่ง มีการฝึกฝนมาก่อน ครั้งนี้จะต้องถูกโจมตีจนกลายเป็นปัญญาอ่อนแน่นอน

ในเวลานี้เขารู้ว่า เคล็ดลับของหยินหยางมีสามระดับ ทุกระดับมีสามแบบ เคล็ดลับของหยินหยางมีเก้าแบบ และขั้นสูงสุดของมัน คล้ายกับเก้าหยินเก้าหยาง

พูดถึงหยินหยาง อันที่จิรงเขานั้นใกล้ชิดมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวิชาสร้างหยินหยาง หรือว่าจะเป็นหินทิเบตหยินหยางของคัมภีร์เทียนหยางและคัมภีร์ไท่หยิน หรือว่าจะเป็นหยินหยางเจียนว่าน ล้วนแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับหยินหยาง

ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถเรียนรู้เคล็ดลับของหยินหยางได้อย่างเป็นระบบแล้ว!

เพราะว่าตรัสรู้มานานแล้ว ดังนัน้เขาเข้าใจเคล็ดลับของหยินหยางสามแบบแรกทันที ต่อจากนั้น เคล็ดลับของหยินหยางระดับที่สองพุ่งเข้ามาในสมองของเขา

หยินหยางระดับแรก เรียกว่าเหลียงยี่ หยินหยางระดับที่สอง เรียกว่าซื่อเซียง สิ่งที่เรียกว่าไทเก็กก่อให้เกิดเหลียงยี่ เหลียงยี่ก่อให้เกิดซื่อเซียง ซื่อเซียงก่อให้เกิดปากัว ดังนั้นระดับที่สาม ก็คือระดับปากัว!

ระดับซื่อเซียง มีสามแบบ การสะสมขั้นหยินหยางของอู๋เป่ยนั้นลึกซึ้งอย่างมากจริงๆ ดังนั้นในพริบตาเดียว ก็เข้าใจความหมายของเคล็ดลับของซื่อเซียงทันที

หยินหยาง คือการแบ่งบางสิ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งส่วนคือหยิน หนึ่งส่วนคือหยาง ซื่อเซียง มันขึ้นอยู่กับสองจุด แบ่งออกเป็นสองส่วนเพิ่มเติม นั่นคือ สี่จุด ได้แก่ เส้าหยาง เส้าหยิน ไท่หยาง ไท่หยิน

เมื่อเปรียบเทียบกับหยินและหยาง สัญลักษณ์ทั้งสี่จะอธิบายสิ่งต่าง ๆ และกฎได้แม่นยำกว่า แต่ก็ยากต่อการฝึกฝนเช่นกัน

ทันทีที่เขาครอบครองเคล็ดลับของซื่อเซียง เคล็ดลับของหยินหยางระดับที่สามก็พุ่งเข้ามาในสมองของเขา อย่างที่คาดเป็นระดับปากัว!

ได้รับเคล็ดลับของปากัว อู๋เป่ยกลับไม่ได้ตรัสรู้ทันที เขาออกมาจากตำหนักดาบหยินหยางก่อน

คนที่อยู่ข้างนอกมองเห็นอู๋เป่ยออกมาเร็วขนาดนี้ ยังคิดว่าเขาตรัสรู้ล้มเหลวแล้ว ต่างหัวเราะเยาะขึ้นมาทีละคน

“ดู สิบห้านาทีก็ออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับอะไรเลย”

“มันปกติเกินไปแล้ว นานมาแล้วที่ไม่มีคนตรัสรู้เคล็ดลับของหยินหยาง คนของสำนักดาบหยินหยางของพวกเราก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสำนักดาบเทียนเซียงเลย”

ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารย์ อู๋เป่ยยกมือขึ้นแล้วปล่อยแสงดาบออกมาสี่แสง แสงดาบนี้ ได้รับการพัฒนาจากเคล็ดลับของซื่อเซียง แบ่งออกเป็นสีเขียว สีขาว สีแดง และสีดำ

แสงเซียนสั่นอยู่ในร่างกายของเขา ผ่านไปสิบห้านาที ตอนที่แสงเซียนนี้หายไป ชายหนุ่มปรากฏตัวด้วยรอยยิ้ม พูด : “ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านกลายเป็นจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้สูงสุดเจ็ดดาว!”

อู๋เป่ย : “เจ็ดดาวเหรอ ผมคิดว่าสิบดาวสะอีก”

ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม : “จักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ มีเพียงแค่ห้าดาว คุณสมบัติของท่านดีเกินไปแล้ว ดังนั้นผมเลยให้เจ็ดดาว อันที่จริงสูงที่สุดแล้ว”

อู๋เป่ยพยักหน้า : “เป็นแบบนี้นี่เอง”

รับป้ายสถานะ จากนั้นชายหนุ่มเอาแหวนเก็บของให้อีกหนึ่งวง พูด : “นี่คือแหวนเฉียนคุน ข้างในเป็นสมบัติที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มอบให้ โปรดรับเอาไว้ด้วย”

อู๋เป่ยเหลือบมองแหวนหนึ่งที พูด : “ขอบคุณ โปรดให้ผมอีกหนึ่งอัน ป้ายสถานะของจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ในตำนานสี่ดาว”

เขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้จักตัวตนของเขาในฐานะจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้สูงสุด ดังนั้นเลยต้องขอตัวตนของจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ในตำนาน สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นเสียงสะท้อนของราชาแห่งศิลปะการต่อสู้เก้าดาวคนก่อน

ออกมาจากหอคอยเซียนหวู่ คิดไม่ถึงเลย่วาข้างนอกจะมีคนรออยู่มากมาย แต่ละคนจ้องมองอู๋เป่ยอย่างใจจดใจจ่อ อยากรู้ผลลัพธ์

อู๋เป่ยไม่ได้ทำให้พวกเขาผิดหวัง เขาหยิบป้ายสถานะจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึงไปเลย

“จักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ในตำนานสี่ดาว! สุดยอดจริงๆ! ในที่สุดก็มีจักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ในโลกมนุษย์แล้ว!”

“จักรพรรดิศิลปะการต่อสู้ ความหมายตามชื่อเลย ก็คือจักรพรรดิของศิลปะการต่อสู้! ร้ายกาจ”

“สมแล้วที่เป็นอันดับหนึ่งของสถาบันการศึกษาในตำนาน ไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง!”

“เชื่อว่าผู้อำนวยการจะต้องเสียใจอย่างมากแน่นอน อัจฉริยะแบบนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังคับให้ออกมา ไม่รู้เลยจริงๆว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่”

อู๋เป่ยยังมีเรื่องต้องไปทำ ผสานมือทำความเคารพให้กับทุกคนหนึ่งที คนก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว สถาบันศิลปะการต่อสู้แห่งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขามากแล้ว ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับสถาบันการศึกษาในตำนาน สถาบันศิลปะการต่อสู้ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว สถาบันการศึกษาในตำนานมีตำแหน่งที่สูงกว่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ