ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 171

คนญี่ปุ่นคนนั้นหันหน้ากลับมาจ้องอู๋เป่ยตาเขม็ง:“ถ้าฉันไม่ปล่อยล่ะ?”

“จิ๊!”

อู๋เป่ยงอนิ้วแล้วดีดออกไป ตรงเข้าไปที่จุดฝังเข็มของคนญี่ปุ่น เขาร้องด้วยความตกใจ มือที่จับคนขับรถอยู่นั้น จู่ๆก็ร่วงลงทันที รู้สึกเมื่อยชา ไม่มีแรงเลยแม้แต่นิด

เขาตกใจอย่างมาก มองไปยังอู๋เป่ยด้วยความสั่นกลัว:“แกคือผู้ฝึกยุทธ์?”

อู๋เป่ย:“ไม่มีสุนัขดีๆที่ไหนมาขวางทางกันหรอกนะ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”

ประตูรถข้างคนขับของรถญี่ปุ่นคันนั้นก็ถูกเปิดออก ชายมีอายุไว้หนวดเคราคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม:“มีเรื่องอะไรกัน?”

คนญี่ปุ่นคนนั้นที่ได้รับบาดเจ็บรีบวิ่งกลับไป แล้วพูดด้วยท่าทางเคารพยำเกรง:“หัวหน้า คนคนนี้เขาไม่ให้รถพวกเราผ่านครับ แถมยังทำแขนผมเจ็บอีก”

“เหอะ!” ใบหน้าของชายผู้นั้นไม่สบอารมณ์ “ใจกล้าดีนี่ กล้ามาทำร้ายคนฝั่งเรา!”

เขาหยิบมือถือออกมา แล้วโทรหาไปยังเบอร์หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดเสียงเย็นชาออกมา:“หัวหน้าหม่า คนเหยียนหลงของพวกนายไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ถึงขนาดบุกมาทำร้ายคนญี่ปุ่นถึงนี่ เรื่องนี้ นายต้องให้คำชี้แจงฉัน ไม่งั้นฉันจะไปสถานทูต ดำเนินเรื่องนี้ให้ไปถึงการทูตต่างประเทศ!”

หลังจากวางสาย คนคนนี้ก็ขึ้นรถไป ราวกับรอสายจากโทรศัพท์กลับมา

อู๋เป่ยก็กลับขึ้นรถเช่นกัน แล้วพูดกับถังจื่อยี่:“จื่อยี่ เธอโทรหาโอดะฟุกุ แล้วบอกว่าพวกเราถูกคนญี่ปุ่นขวางทางไว้ ไปไม่ได้ ให้ยกเลิกนัดเจอคืนนี้”

ถังจื่อยี่พยักหน้า แล้วรีบโทรหาโอดะฟุกุทันที

พอคุยสายเสร็จ ด้านหลังของรถญี่ปุ่นคันนั้นก็มีรถตำรวจขับมา มีคนสี่คนเดินลงมาจากรถ คนที่เดินนำหน้าเป็นชายรูปร่างอ้วน เขาพุ่งเข้าไปที่รถของชายคนนั้นแล้วยิ้มให้:“คุณคาวาคามิ ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ”

หลังจากนั้นก็หน้านิ่วคิ้วขมวด เปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึม แล้วเคาะหน้าต่างรถ:“ลงมา!”

อู๋เป่ยเดินลงจากรถ แล้วถาม:“มีอะไร?”

ชายอ้วนสังเกตท่าทางของอู๋เป่ย แล้วถามกลับ:“นายเป็นคนทำร้ายคนของคุณคาวาคามิสินะ? นายชื่ออะไร เอาบัตรประชาชนออกมา!”

อู๋เป่ยส่งบัตรประชาชนให้:“คนของพวกเขาลงมือก่อน คุณไปหาความจริงมาก่อนดีกว่านะ”

“ความจริง?” ชายอ้วนหัวเราะเยาะ “ความจริงก็คือ พวกนายก่อเรื่องขึ้นมาไง ไปโรงพักกับฉัน!”

ใบหน้าของชายญี่ปุ่นคนนั้นเต็มไปด้วยความโอหัง แล้วชี้ไปยังอู๋เป่ย:“หัวหน้าหม่า คนแบบนี้ต้องได้รับโทษโหดเหี้ยม!”

ชายอ้วนยิ้มแล้วตอบ:“คุณคาวาคามิวางใจได้เลยครับ คนที่เป็นภัยต่อสังคมแบบนี้ ต่อให้เป็นคนในประเทศ ผมก็จะไม่อ่อนข้อให้!”

ถังจื่อยี่ทนฟังไม่ไหวแล้ว เธอเลยลงจากรถ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“น่าขำสิ้นดี! คุณไม่ถามใครถูกใครผิด แต่มาจับพวกเราเลยเนี่ยนะ ใครให้อำนาจคุณ?”

ชายอ้วนกวาดสายตามองถังจื่อยี่ เห็นท่าทางเธอสูงศักดิ์ หน้าตาก็สะสวย บวกกับรถที่นั่งมาก็เป็นรถราคาหลายล้าน จู่ๆเขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา เลยพูดเสียงเบา:“คุณหนู ผมก็แค่ทำตามกฎหมาย คนของคุณทำผิดก่อนนะ”

อู๋เป่ย:“ใช่เหรอ? นายตรวจดูกล้องวงจรปิดแถวนี้ก่อนไหม ดูว่าฉันได้ลงมือหรือเปล่า”

สีหน้าชายอ้วนเคร่งขรึม:“ไม่ต้องตรวจกล้องวงจรปิดหรอก ฉันดูแวบเดียวก็รู้ว่านายไม่ใช่คนดีอะไร ไปได้แล้ว ตามฉันไปที่โรงพัก!”

และในเวลานี้ คนญี่ปุ่นคนนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้า เขารีบยืนขึ้นทันที พูด“ครับๆ”ไม่หยุด พอวางสาย เขาก็มองอู๋เป่ยด้วยสีหน้าซับซ้อน หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาโค้งคำนับ:“คุณอู๋เป่ย ขอโทษด้วยครับ เมื่อครู่พวกผมไม่มีมารยาท ผมขอโทษจริงๆครับ!”

ชายอ้วนนิ่งอึ้งไป เกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ยังให้ตัวเขาเองจัดการเขาอยู่เลย ตอนนี้มาขอโทษ? หรือว่าเจ้าเด็กนี่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง?

“เพี๊ยะ!”

อู๋เป่ยตบไปที่หน้าชายญี่ปุ่นคนนั้น :“นายกำเริบเสิบสานในประเทศเหยียนหลงขนาดนี้ ไปเอาความกล้ามาจากไหน?”

สีหน้าของคนญี่ปุ่นเปลี่ยนไป เหมือนจะกำเริบอีกครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็กดความโกรธเอาไว้ พูดอย่างไม่ลังเล:“ขอโทษครับ!”

อู๋เป่ยหันหน้าไปยังชายอ้วน:“นายยังจะพาฉันไปโรงพักอยู่ไหม?”

ชายอ้วนกระแอมแล้วพูด:“ในเมื่อเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง เช่นนั้นก็ช่างเถอะ”

อู๋เป่ย:“ไม่เป็นไรครับ คุณมีเรื่องอะไรก็พูดตรงๆเลยครับ ผมไม่ชอบอ้อมค้อม”

โอดะฟุกุยิ้มให้เบาๆ:“คุณอู๋เป็นคนตรงไปตรงมา งั้นฟุกุเข้าเรื่องเลยนะคะ ช่วงที่ผ่านมานี้ คุณอู๋พบบางสิ่งที่อ่าวไป๋หลง ใช่ไหมคะ?”

อู๋เป่ย:“ใช่ครับ ในฐานะที่ผมเป็นคนของกรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพ ต้องบอกหัวหน้าให้ทราบทันที ส่วนเรื่องที่เหลือ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ”

โอดะฟุกุมองเขา:“พูดแบบนี้แสดงว่า ก่อนที่กรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพจะมาถึง มีแค่คุณอยู่ที่นั่น?”

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว:“คุณต้องการจะพูดอะไร?”

สีหน้าของโอดะฟุกุเรียบเฉย:“พลังชั่วร้ายของหุ่นปีศาจที่ฝังอยู่ใต้นั้น หายไปหนึ่งส่วนสาม คุณอู๋เป่ยมีคำอธิบายให้ฉันไหมคะ?”

อู๋เป่ยตกใจ:“หุ่นปีศาจอยู่ในมือพวกคุณ?”

โอดะฟุกุพูดอย่างเรียบเฉย:“กรุณาตอบคำถามของฉัน”

ไม่นานอู๋เป่ยก็กลับมาสงบ จู่ๆในสมองก็มีหลายเรื่องให้คิด ทั้งๆที่หุ่นปีศาจถูกพาไปที่เทียนจิงแล้ว ทำไมถึงอยู่ในมือพวกเขา! หรือว่าถูกชิงระหว่างทาง?

เขาขมวดคิ้วพูด:“ผมไม่เห็นหุ่นปีศาจที่พวกคุณพูดถึง ยิ่งไม่รู้ว่าพลังชั่วร้ายที่คุณพูดคืออะไร”

“งั้นเหรอคะ? ในเมื่อคุณบอกไปทางกรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพทันที ก็หมายความว่าคุณรู้ว่ามันคืออะไร และในเมื่อคุณรู้ ก็น่าจะเข้าใจถึงความสำคัญของหุ่นปีศาจนั่น” โอดะฟุกุพูด

อู๋เป่ย:“ผมรู้ก็จริง แต่พลังชั่วร้ายบนกระดูกขาวมันไม่ธรรมดา ผมไม่สามารถเข้าใกล้ได้”

โอดะฟุกุขมวดคิ้ว:“ที่คุณพูดมาก็จริงอยู่ ต่อให้เป็นฉัน ก็คงไม่สัมผัสพลังชั่วร้ายนั่น แต่คุณก็ยังไม่พ้นผู้ต้องสงสัย ต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้ฉันต้องดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนคุณ”

อู๋เป่ยหรี่ตามอง:“ตรวจสอบ ไต่สวนผม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ