อยู่ที่เมืองมังกรดำอู๋เป่ยฝึกตนเองและสำรวจรอบ ๆ เขารู้สึกว่าสถานแวดล้อมที่นี่ดียิ่ง มีร้านขายยาที่จำหน่ายยาสมุนไพรโดยเฉพาะ เขาจึงตัดสินใจที่จะเช่าบ้านพักอยู่ที่นี่ เพราะโรงเตี๊ยมมีคนพลุกพล่านไม่เหมาะแก่การฝึกฝน
ดังนั้น ในวันที่สองของการมาถึงเมืองหลง อู๋เป่ยได้ติดต่อหาผู้ให้เช่าเพื่อเช่าบ้านที่อยู่ในบริเวณที่ค่อนข้างเงียบสงบ บ้านที่เขาเช่านั้นมีลักษณะธรรมดา มีลานหน้าบ้านและบ้านเป็นทรงสี่แถว ด้านซ้ายและด้านขวาของบ้านเป็นห้องครัวและห้องน้ำตามลำดับ
แม้ว่าบ้านจะดูธรรมดาแต่ค่าเช่าเดือนละสิบตำลึงทองคำ หากจ่ายรายปีจะอยู่ที่หนึ่งร้อยตำลึง อู๋เป่ยไม่แน่ใจว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่นานเท่าไร จึงจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปสามเดือนก่อน
หน้าบ้านของเขาเป็นถนนที่มีบ้านราวสิบหลังเรียงรายอยู่ฝั่งเดียวกัน และอีกฝั่งตรงข้ามก็มีบ้านราวสิบหลังเช่นกัน
ในวันที่ย้ายเข้ามา อู๋เป่ยได้ซื้อเนื้อ ไข่ และอาหารแห้งบางอย่างมาเก็บไว้ เพื่อเตรียมทำอาหารเอง พอตกเย็นเขาจะเริ่มทำอาหาร เขาถึงได้สังเกตว่าลืมซื้อเกลือมา ถ้าออกไปซื้อกลับมาก็คงเสียเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง นับว่าค่อนข้างเสียเวลา
เมื่อคิด ๆ ดูเขาจะไปขอยืมเกลือจากบ้านข้าง ๆ เพราะขณะนั้นกลิ่นอาหารจากบ้านข้าง ๆ ลอยมาพอดี
เขาออกจากบ้านแล้วเดินไปที่ประตูหน้าบ้านข้าง ๆ ก่อนเคาะประตูเบา ๆ สองครั้ง
"ใครนะ? " เสียงใสหวานตอบกลับออกมา จากนั้นประตูก็เปิดออก
ใบหน้าที่สวยงามปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา เป็นหญิงสาวอายุราวสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี สวมใส่ชุดผ้าสีเทา แต่ไม่อาจซ่อนความงามอันน่ารักของเธอได้
เมื่อเห็นว่าเป็นชายหนุ่ม หญิงสาวก็เกิดอาการเขินอายแล้วเดินถอยไปสองสามก้าว หันกลับไปเรียกคนในบ้านออกมา "ท่านแม่ มีแขกมาค่ะ"
ทันใดนั้น หญิงวัยสามสิบปีต้นๆ ก็เดินออกมา เป็นหญิงสาวที่มีความงดงามไม่แพ้ลูกสาวของเธอเลย เพียงแต่มีมนต์เสน่ห์แบบสุขุมนุ่มลึกมากกว่า
อู๋เป่ยรีบพูดอย่างเกรงใจว่า "ขอรบกวนสักครู่ ข้าเป็นเพื่อนบ้านที่พึ่งย้ายมาใหม่ ลืมซื้อเกลือ จึงอยากจะมาขอยืมซักหน่อยจะได้หรือไม่? "
หญิงวัยกลางคนมองดูอู๋เป่ยอยู่ครู่ จึงยิ้มแล้วพูดว่า "ได้สิ เหมินเอ๋อร์ ไปหยิบเกลือมาหน่อยสิ"
หญิงสาวคนนั้นรีบพยักหน้า แล้วเข้าไปในห้องครัวเพื่อหยิบเอาเกลือมาให้อู๋เป่ย
หญิงวัยกลางคนถามด้วยรอยยิ้ม "คุณชายเป็นเพื่อนบ้านข้าง ๆ ที่พึ่งย้ายมาใหม่หรือ? "
อู๋เป่ยพยักหน้า "ใช่แล้ว ข้าพึ่งย้ายมา ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับที่นี่มากนัก"
หญิงวัยกลางคนตอบ "พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือ บอกเราได้ตลอดนะ"
ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวคนนั้นก็นำเกลือถงหนึ่งมาให้เขา ใช้ถุงสีขาวห่อเอาไว้ ชั่งดูมีประมาณเออร์เหลียง(ประมาณห้าสิบกรัม)
อู๋เป่ยกล่าวขอบคุณแล้วหันหลังเดินกลับบ้านไป
เขาเพิ่งจะตั้งกระทะบนเตาไฟได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังสนั่นจากบ้านที่เขาไปขอยืมเกลือมาเมื่อครู่ เสียงผู้ชายเมา ๆ ตะโกนดังลั่น "กุ้ยจือ ข้าคือเจ้าพี่หลิว เปิดประตูเร็วเข้า"
จากนั้นก็เป็นเสียงของสองแม่ลูกแสดงถึงความหวาดกลัวออกมา
"ท่านแม่ ไอ้คนนั้นกลับมาอีกแล้ว ทำไงดีเจ้าคะ? " หญิงสาวถามเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว
เสียงของหญิงวัยกลางคนก็ดังตามมา "เหมินเอ๋อร์ เข้าไปอยู่ในห้องก่อน แล้วอย่าออกมา"
ผ่านไปซักพัก หญิงวัยกลางคนก็พูดขึ้น "พี่ใหญ่หลิว ตอนนี้มืดค่ำแล้ว ท่านมีธุระอะไรหรือเจ้าคะ?"
คนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่ชายคิดถึงเจ้าแล้ว อยากมาคุยเล่นกับเจ้าหน่อย"
"พี่ใหญ่หลิว พวกเราจะเข้านอนหลับกันหมดแล้ว"
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า "กุ้ยจือ ถ้าเจ้ายังไม่เปิดประตูละก็ ข้าจะเตะประตูถีบเข้าไป!" พูดจบก็มีเสียงดังโครมใหญ่ขึ้นหนึ่งที
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว เขาคิดในใจว่า บ้านนี้คงไม่มีผู้ชายอาศัยอยู่ ไม่อย่างนั้นผู้ชายคนนี้คงไม่กล้ามาหาเรื่อง
เมื่อนึกถึงว่าเขาเพิ่งไปขอยืมเกลือจากบ้านนี้มา อู๋เป่ยจึงตัดสินใจออกไปช่วยพวกเขาหน่อย จึงหยิบหมูเค็มชิ้นหนึ่งแล้วออกจากบ้าน
ในขณะนั้นมีเพื่อนบ้านหลายคนแอบออกมองมาดูเหตุการณ์ แต่ทุกคนกลับไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้น มองแป๊บเดียวก็รีบปิดประตูกลับเข้าบ้าน
"ปัง! ปัง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...