ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 271

เซ่าจุนเอ่ยต่อทันทีว่า “ใช่ๆ อย่าเข้าไปยุ่งมั่วซั่ว นายน้อยอู๋ ขอบคุณเรื่องวันนี้มากนะครับ ต่อไปถ้ามีอะไรให้ตระกูลเซ่าช่วย พูดมาได้เลยนะครับ”

เซ่าเผยเจินสำทับ “เสี่ยวจุนพูดถูก ต่อไปถ้าคุณอู๋มีอะไรให้ตระกูลเซ่าช่วย ตระกูลเซ่าเราจะช่วยสุดความสามารถเลย”

อู๋เป่ยเอ่ยยิ้มๆ “คุณเซ่าพูดเกรงใจเกินไปแล้ว การปกป้องประเทศชาติและประชาชนเป็นหน้าที่ที่ผมควรทำครับ”

จย่าผัวพัวนั่นเห็นได้ชัดว่าอยู่แถวนี้ เพราะผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เธอก็ปรากฏตัวแล้ว เธอเป็นหญิงชราคนหนึ่งสวมเสื้อสีดำ บนร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นแปลกๆ เธอตาบอดไปข้างหนึ่งและมีปานขนาดใหญ่บนใบหน้า

นางมองพิจารณาอู๋เป่ยแล้วเอ่ยว่า “นายเป็นคนที่โทรศัพท์มางั้นเหรอ?”

อู๋เป่ยเดินเข้าไปก้าวหนึ่ง “ใช่ครับ”

จย่าผัวพัวพยักหน้า “ดูท่าแล้วนายจะรู้จักกับคนในตระกูลเถานะ ไม่อย่างนั้นคงไม่สืบเรื่องของฉันจากหล่อน”

อู๋เป่ย “ผมเป็นเพื่อนกับเถาหรูเสวี่ย จย่าผัวพัว รีบช่วยชีวิตคนก่อนเถอะครับ”

หญิงชราคนนี้ค่อยๆ เดินเข้าไปตรงหน้าเซ่าหมิงเจ๋อที่ยังถูกกดไว้บนพื้น มืออันแห้งเหี่ยวกดเข้าที่ปากของเขาอยู่ครึ่งนาที เธอก็กำบางสิ่งไว้ในมือแล้วยัดใส่ถุง จากนั้นลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”

ผ่านไปไม่กี่วินาที เซ่าหมิงเจ๋อก็ฟื้นฟูสติ แล้วนั่งตัวตรงถามอย่างแปลกใจว่า “พ่อครับ ทำไมคนเยอะแบบนี้ล่ะ? แล้วผมมานั่งบนพื้นได้ยังไง?”

เซ่าจุนรีบพยุงเขาลุกขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ไม่เป็นอะไรแล้วครับพ่อ”

จากนั้นจย่าผัวพัวก็ใช้มือตบร่างของเซ่าสิงอวิ้นสองสามที ร่างกายของอีกฝ่ายกระตุกไปสองสามทีแล้วรู้สึกตัวมากขึ้นไม่น้อย

เธอหันกลับไปมองอู๋เป่ย “ยังไม่ทราบชื่อนายเลย”

อู๋เป่ย “ผมชื่ออู๋เป่ย เป็นคนของหอเจียงหนาน จย่าผัวพัวฆ่าคนเพื่อชิงทรัพย์ นี่เป็นข้อห้ามของเมืองเจียงหู ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไป ถ้าให้ผมเจอคุณอีก ผมจะกำจัดพวกคุณสองแม่ลูกซะ!”

เปลือกตาของจย่าผัวพัวกระตุก “ปากดีเสียจริง! ถึงแม้ฉันจะนับถือกรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพ แต่นายที่เป็นแค่รุ่นน้องคนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรมาพูดจาไร้มารยาทกับฉันแบบนี้?”

อู๋เป่ยเลิกคิ้ว “ไม่พอใจเหรอ? ไม่พอใจก็ลองวางยาพิษกู่ผมดูสิว่าจะทำอะไรผมได้ไหม”

จย่าผัวพัวจ้องเขา ดวงตาข้างหนึ่งสาดแววโหดร้ายออกมา “ในเมื่อนายขอมา งั้นฉันจะจัดให้”

เธอกล่าวจบ อู๋เป่ยก็ดีดมือทั้งสองข้างออกไปทันที จากนั้นแมลงบินตัวน้อยนับสิบตัวพลันถูกนิ้วของเขาโจมตีจนแหลกสลายในกลางอากาศ

จย่าผัวพัวตกใจง้างมือวาดควันสีแดงออกมาแล้วโจมตีใส่อู๋เป่ย ในควันสีแดงนั้นมีไข่หนอนขนาดเล็กนับไม่ถ้วนอยู๋ข้างใน ทันทีที่สูดหายใจเข้า ในร่างกายก็จะเต็มไปด้วยหนอน

สีหน้าของอู๋เป่ยเคร่งเครียด ยิงฝ่ามือที่ตามด้วยเสียงฟ้าผ่าทุกครั้งหลายสิบที ท่ามกลางอากาศถูกแรงสั่นสะท้านจนหลอมตัวกลายเป็นหลุมรูปมังกรโจมตีไปยังควันสีแดงนั่น

ควันสีแดงถูกกลืนเข้าไปในหลุมในไม่ช้า ภายใต้แรงสั่นสะท้าน ทำให้ไข่หนอนที่อยู่ข้างในแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ จนในที่สุดควันสีแดงก็กลายเป็นหมอกสีดำที่กระจายออกแล้วหายไปในกลางอากาศ

เมื่อเห็นกระบวนท่าของอู๋เป่ยแล้ว จย่าผัวพัวพลันตะลึงงัน “สุดยอด!”

อู๋เป่ยจ้องเธอ “ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ การฆ่าเธอนั้น อย่างมากก็แค่ใช้สองกระบวนท่าเท่านั้น!”

จย่าผัวพัวไม่อวดเก่งอีกต่อไป เธอโค้งตัวแล้วกล่าวว่า “วันนี้ขอบใจมาก ขอตัว”

อู๋เป่ย “ไม่ส่งล่ะ”

จย่าผัวพัวเดินจากไปอย่างช้าๆ ส่วนคนตระกูลเซ่าโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง

เซ่าจุนในขณะนี้เอ่ยขึ้น “นายน้อยอู๋ ก่อนหน้านี้ แผนของจย่าผัวพัวคนนี้คือต้องการฮุบสมบัติตระกูลเซ่าผ่านพี่ชายผมใช่ไหม?”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ รอให้พวกคุณตายหมด สมบัติก็จะกลายเป็นของเซ่าสิงอวิ้น และเซ่าสิงอวิ้นก็คือหุ่นเชิดของพวกเขา สักวันจะต้องเอาสมบัติไปแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว”

สีหน้าของเซ่าจุนตะลึงงัน “ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอนี่ พวกมันต้องฆ่าเศรษฐีไปไม่น้อยแน่เลยใช่ไหม?”

อู๋เป่ยส่ายศีรษะ “นี่น่าจะเป็นครั้งแรก อีกอย่างการที่จู่ๆ จย่าผัวพัวมาทำเช่นนี้ต้องมีเหตุผลแน่ๆ”

เวลาไม่เช้าแล้ว เมื่ออู๋เป่ยเห็นว่าตระกูลเซ่าปลอดภัยหายห่วง เขาจึงกล่าวลาไปพร้อมกับเย่เสวียน

ทั้งสองขับรถออกจากตระกูลเซ่าเป็นระยะหลายร้อยเมตร ก็พบหญิงชาในร่างชุดดำคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน เย่เสวียนเหยียบเบรกแล้วมองไปหาอู๋เป่ย

อู๋เป่ยเปิดประตูแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “จย่าผัวพัวยังไม่ยอมอีกเหรอ?”

“ตุบ!”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ผมไม่เป็นไร หรูเสวี่ย จย่าผัวพัวมาถามเรื่องผมกับคุณงั้นเหรอ?”

เถาหรูเสวี่ยพยักหน้า “ฉันรู้สึกว่าแกน่าสงสารน่ะเลยบอกไปว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณยอดเยี่ยมมาก คุณไม่โกรธหรอกใช่ไหม?”

อู๋เป่ย “ไม่โกรธอยู่แล้ว ไป เข้าไปข้างในกันเถอะ”

เข้ามาถึง อู๋เป่ยนั่งลงบนเก้าอี้แล้วสั่งให้แม่บ้านไปทำกับข้าวสักสองสามอย่าง จากนั้นก็เปิดเหล้าให้เถาหรูเสวี่ยดื่มเป็นเพื่อนเขา

ทันทีที่เปิดเหล้าออก เสี่ยวเสินก็ซุกเข้ามาในซอกคอเขาทันที เขาถามยิ้มๆ “เสี่ยวเสินคิดถึงฉันไหม?”

เถาหรูเสวี่ยเม้มริมฝีปากหัวเราะ “เสี่ยวเสินอยากไปหาคุณตั้งนานแล้ว”

อู๋เป่ยยื่นมือจับมันออกมาวางไว้ข้างแก้วแล้วถามว่า “ลองชิมดูไหม นี่เหล้าชั้นดีเลยนะ”

เสี่ยวเสินดมแล้วถุยของสีเขียวบางอย่างลงในเหล้า อู๋เป่ยเห็นแล้วเบิกตากว้างทันที “นี่ เจ้าแมลงบ้า แกถุยอะไรลงไปเนี่ย น้ำลายเหรอ?”

เถาหรูเสวี่ยหัวเราะคิกคัก “ไม่ใช่ มันคือสารข้นพลังปราณ จำนวนแค่นี้เสี่ยวเสินต้องใช้เวลาสะสมกว่าร้อยวันเลยนะ”

“สารข้นพลังปราณ?” อู๋เป่ยดมดู มันมีกลิ่นหอมจางๆ จากนั้น ‘อึก’ ดื่มลงไปครึ่งแก้วในคราเดียว

เมื่อเหล้านี้ไหลลงสู่ท้อง ก็หลอมกลายเป็นพลังอันบ้าคลั่งกระจายไปทั่วเส้นลมปราณ เขาดื่มลงไปก็รู้ทันทีว่านี่เป็นพลังปราณ!

โดยทั่วไปแล้ว ปราณพลังฟ้าดินจะสามารถดูดซับก็ต่อเมื่ออยู่ในขั้นอมตะเท่านั้น เขาในตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ เมื่อพลังปราณเข้าสู่ร่างกายแล้ว เขาพลันรู้สึกตัวกำลังจะระเบิดปานนั้นจึงรีบใช้วิชาเพาะตัวทันที

เพาะกายครั้งแรกเสร็จสิ้น อู๋เป่ยใช้วิชาเพาะกายต่อไป พลังปราณในร่างกายค่อยๆ กระจายไปทั่วทุกเซลล์ในร่างกาย เขาเพาะกายเช่นนี้เป็นจำนวนห้าครั้ง ในที่สุดพลังปราณนั่นก็จางหายไปพอสมควรแล้ว

เถาหรูเสวี่ยที่อยู๋ข้างๆ มึนงง “อู๋เป่ย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

อู๋เป่ยหัวเราะ ‘ฮ่าๆ’ ออกมา “ไม่เป็นไร ผมสบายมาก!” กล่าวจบเขาก็หยิบเหล้าพลังปราณที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วนี้ลงไปอีกครั้ง

ที่แท้แล้ว หากใช้พลังปราณควบคู่กับวิชาเพาะกายแล้ว พลังปราณส่วนใหญ่จะถูกร่างกายเขาดูดซับไป สำหรับเขาแล้วสามารถบอกได้ว่าเป็นโอกาสทอง เพราะพลังปราณดีกว่าพลังชีวิตสำหรับฝึกฝนร่างกาย มันสามารถเพิ่มระดับร่างกายเขาขึ้นอีกระดับหนึ่งได้ทันที

เขาฝึกฝนไปอีกเจ็ดครั้งจนเหงื่อชุ่มเหม็นไปทั้งตัว นี่เป็นของเสียที่ขับถ่ายออกจากร่างกาย เขารู้สึกเหม็นจนตัวเองยังแสบจมูกต้องรีบวิ่งไปอาบน้ำทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ