รับนำบัตรมา หลิ่วชิงเหมยจ้องอู๋เป่ยอย่างลึกซึ้งแล้วพูด “ฉันเชื่อใจคุณ”
อู๋เป่ยยิ้ม “เชื่อผมก็ถูกแล้ว”
ไม่นานก็ถึงเวลาประมูลแล้ว อู๋เป่ยกับจวีหวู่เซียนเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสาม
จางกว่างไท่เดินเข้ามาถามอย่างรวดเร็ว “เป็นยังไงบ้าง”
หลิ่วชิงเหมยพูด “เขาให้นำบัตรฉัน”
จางกว่างไท่พูดด้วยรอยยิ้ม “ทำได้ไม่เลว ต่อไปเขาต้องโทรหาคุณแน่นอน เขาอยากได้อะไรคุณก็จัดให้เขา ไปเถอะ พวกเราไปดูอะไรสนุกๆ ที่ชั้นสาม”
หลิ่วชิงเหมย “ชั้นสามมีอะไร”
“งานประมูล” จางกว่างไท่พูดจบ เดินขึ้นชั้นสามก่อนหนึ่งก้าว
ชั้นสามมีคนน้อยกว่าเยอะมาก โดยมีประมาณร้อยกว่าคน
ไฟส่องสว่างบนเวทีครึ่งวงกลม พิธีกรเข้าที่แล้ว ผู้เข้าร่วมงานประมูลที่อยู่ข้างล่างเวทีเริ่มทยอยกันมานั่งที่ของตนเอง
ผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมดล้วนมีป้ายคนละหนึ่งอัน ไปทุกอันทุกลงทะเบียนและมีหมายเลขประจำป้าย หมายเลขของอู๋เป่ยคือหมายเลข 8
จางกว่างไท่กับหลิ่วชิงเหมยนั่งห่างจากอู๋เป่ยไม่ไกล พวกเขาตั้งใจมาสังเกตเขา
จางกว่างไท่พูดเสียงเบา “ผมไม่เข้าใจจริงๆ เขาอายุน่าจะไม่เกินยี่สิบห้า ทำไมถึงยิ่งใหญ่แบบนี้นะ!”
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งข้างเขา ชายคนนั้นมองจางกว่างไท่แวบหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ดูเหมือนคุณไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์สินะ”
จางกว่างไท่ก็หันไปมองอีกฝ่ายเช่นกัน “คุณรู้จักเขาเหรอ”
ชายวัยกลางคนพูด “ไม่เคยเจอ ผมแค่สามารถมองพลังยุทธ์ของเขาออก”
จางกว่างไท่เริ่มสนใจแล้ว “พลังยุทธ์ของเขาอยู่ในระดับไหน”
ชายวัยกลางคน “เจตจำนงค์ไม่สามารถหยั่ง รัศมีดั่งมังกร ลึกลับซ่อนเร้น อย่างน้อยคนคนนี้ก็อยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์”
จางกว่างไท่ย่อมเคยได้ยินคำว่า ‘ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์’ เขารู้ว่าผู้แข็งแกร่งระดับผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับประเทศ! อู๋เป่ยคนนี้ แข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยเหรอ
พิธีกรประกาศเปิดงานประมูลอย่างเป็นทางการ สินค้าชิ้นแรกเป็นดาบสมัยราชวงศ์ถัง ตัวดาบได้รับการตีอย่างประณีต ฝักเป็นสีเขียวอ่อน มีพลอยสี่เหลืองถูกฝังอยู่บนด้ามหนึ่งเม็ด มันส่องแสงประกายแวววับ
ดาบราชวงศ์ถังให้ความรู้สึกสวยงามมาก มีคนชูป้ายขึ้นทันที ราคาเริ่มต้นที่สิบล้าน เพิ่มครั้งละหนึ่งล้าน
ขั้นตอนการประมูลสั้นมาก ผู้เข้าประมูลชูป้ายทีละคน
“หมายเลข 3 สิบห้าล้าน”
“สิบหกล้าน สิบเจ็ดล้าน สิบแปดล้าน……”
เมื่อราคาเพิ่มสูงถึงยี่สิบล้าน อู๋เป่ยจึงจะชูป้าย
“หมายเลข 8 ยี่สิบเอ็ดล้าน ยี่สิบเอ็ดล้านครั้งที่หนึ่ง ยี่สิบเอ็ดล้านครั้งที่สอง…หมายเลข 13 ยี่สิบสามล้าน……”
ราคาดาบราชวงศ์ถังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดอู๋เป่ยประมูลมาในราคาสามสิบสี่ล้าน
การประมูลรอบที่หนึ่งสิ้นสุดลง มีคนนำดาบราชวงศ์ถังมาส่งให้อู๋เป่ยทันที
เมื่อกี้เนื่องจากอยู่ไกล อู๋เป่ยจึงเห็นแค่คร่าวๆ ตอนนี้ลองมองอย่างละเอียด รูปทรงของดาบราชวงศ์ถังเล่มนี้สวยงามมาก พลอยที่อยู่บนด้ามดาบ มันคือหินผนึกวิญญาณ!
หินผนึกวิญญาณสามารถผนึกจิตวิญญาณ นำพลังของจิตวิญญาณบ้านหนุนเสริมอาวุธ ในสมัยราชวงศ์ถัง มีเพียงบุคคลระดับราชครู จึงจะมีสิทธิ์ครอบครองของวิเศษแบบนี้!
เมื่อจับด้ามมีด อู๋เป่ยรู้สึกถูกโฉลกจนวังไม่ลง จวีหวู่เซียนที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านปรมาจารย์ ดาบเล่มนี้มีความพิเศษยังไง”
อู๋เป่ย “นี่คือดาบตัดเทพของสมัยราชวงศ์ถัง”
จวีหวู่เซียนตกใจ “ดาบตัดเทพเหรอ”
อู๋เป่ยพยักหน้า “ดูจากจารึกบนนั้น น่าจะเป็นของตอนบูเช็คเทียนขึ้นตำแหน่ง”
ไม่มีเวลาให้ศึกษาอะไรมาก เพราะการประมูลรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว สินค้ารอบนี้คือประคำสีม่วงหนึ่งพวง ทุกเม็ดมีขนาดเท่าลูกลำไย เปล่งแสงอันนุ่มนวล
ที่จริงแล้วหลังจากเขาใช้ตาวิเศษ พบว่าบนหัวของเต่าตัวนี้มีเงาดำสายหนึ่ง รูปร่างของมันคือซวนหวู่
ซวนหวู่ เทพวารี เทพแห่งอุดร เทพแห่งยมโลก หรือรู้จักกันในนามจักรพรรดิซวนเทียน แต่ว่าซวนหวู่เป็นแค่ตำนาน ไม่เคยมีอยู่บนโลกนี้
เรื่องแบบนี้เขาย่อมไม่สามารถบอกความจริงกับจวีหวู่เซียน จึงพูดเพียงแค่ว่าหางของมันหายไป
“น่าจะเป็นแค่ลูกซวนหวู่” เขาคิดในใจ
การประมูลที่เหลือไม่มีอะไรที่สามารถดึงดูดความสนใจของเขา การที่สามารถเจอดาบตัดเทพหนึ่งเล่ม ซวนหวู่หนึ่งตัวก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
งานประมูลสิ้นสุดลง อู๋เป่ยก็ไม่ได้รีบไปไหน เขาเปิดห้องหนึ่งห้อง หลังจากนั้นนำซวนหวู่ออกมา เขาท่องคาถาอะไรบางอย่าง
แผ่นหยก มีเรื่องเบ็ดเตล็ดหนึ่งเล่ม หนึ่งในนั้นบันทึกเกี่ยวกับซวนหวู่ มีการบอกวิธีสื่อสารกับซวนหวู่และสัตว์ประเภทสัตว์วิญญาณ
ซวนอู๋ได้ยินเสียงของอู๋เป่ย มันหันมามองเขาแวบหนึ่ง หลังจากนั้นส่งเสียงแปลกๆ
อู๋เป่ยตาเป็นประกาย เขาพูด “แกคือซวนหวู่จริงด้วย เพียงแต่หางของแกหายไป ดูเหมือนเต่ามากกว่า”
ซวนหวู่ส่งเสียงแปลกๆ ออกมาอีกชุด อู๋เป่ยคิดอยู่พักหนึ่ง “แกคงหิวใช่ไหม”
ซวนหวู่พยักหน้า อู๋เป่ยนำโสมออกมาหนึ่งราก “กินโสมหรือเปล่า”
ซวนหวู่เห็นแล้วส่ายหัว
อู๋เป่ยนำผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ทองคำออกมาแล้วถาม “จะกินอันนี้หรือเปล่า”
ซวนหวู่ก็ส่ายหัวอีก
อู๋เป่ยครุ่นคิด “ดูเหมือนแกไม่กินผัก เข้าใจแล้ว”
เขานำยาโลหิตวิญญาณของคางคกยักษ์ตัวนั้นออกมา “อันนี้น่าจะได้อยู่มั้ง”
ซวนหวู่เห็นยาโลหิตวิญญาณ ในที่สุดก็พยักหน้า
อู๋เป่ยวางลงตรงหน้าของมันอย่างปวดใจ เห็นเพียงซวนหวู่อ้าปากแล้วดูด ยาโลหิตวิญญาณกลายเป็นควัน ถูกดูดเข้าไปในท้องของมัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...