ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 771

วิชาเทพตถาคต มีทั้งหมดสิบระดับ แต่ละระดับเชื่อมโยงถึงกัน วรยุทธตั้งรับที่ดีที่สุด ปรัชญาเซน ฝ่ามือตถาคตและอื่นๆที่อู๋เป่ยฝึกฝนก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วเป็นส่วนเล็กๆของวิชาเทพตถาคตเท่านั้น และไม่สมบูรณ์แบบ

ตัวอย่างเช่น วิชาเทพตถาคตระดับสามก่อนหน้านี้ มีวรยุทธตั้งรับที่ดีที่สุดเป็นหลัก ระดับที่สี่คือปรัชญาเซน ระดับที่เจ็ดคือฝ่ามือตถาคต

ก่อนหน้านี้อู๋เป่ยได้ทำการฝึกฝนมีวรยุทธตั้งรับที่ดีที่สุดมาก่อนแล้ว ตอนนี้ฝึกฝนสามระดับแรกจนเชี่ยวชาญแล้ว ไม่ถึงครั่งชั่วโมง วิชาเทพตถาคตระดับแรกก็ฝึกฝนสำเร็จ

วิชาเทพระดับแรกนี้ ฝึกฝนร่างกายเป็นหลัก ฝึกฝนร่างกายสำเร็จแล้ว ระดับที่สองเป็นการฝึกฝนพลัง มันเกี่ยวข้องกับทักษะพลังต่างๆ หลังจากการฝึกฝน สามารถมีความแข็งแกร่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น แขนขาทั้งสี่ข้างสามารถยกน้ำหนักได้หนึ่งพันกิโลกรัม สนามพลัง ฯลฯ

วิชาเทพตถาคตระดับที่สอง อู๋เป่ยใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงถึงจะฝึกสำเร็จ ระดับที่สาม ใช้เวลาไปสองชั่วโมง

ระดับที่สามของวิชาเทพตถาคต สิ่งที่ฝึกฝนคือเทคนิคลับของพุทธศาสนา และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด

ฝึกฝนระดับที่สามของวิชาเทพตถาคตเสร็จ ฟ้าก็สว่างแล้ว อู๋เป่ยนั่งสมาธิเงียบๆ ปรับเปลี่ยนวรยุทธตั้งรับที่ดีที่สุดใหม่หนึ่งรอบ

มีวิชาเทพตถาคตสามระดับก่อนหน้าอยู่ในมือ วรยุทธตั้งรับที่ดีที่สุดเวอร์ชั่นใหม่นี้ ไม่เพียงแต่ง่ายต่อการฝึกฝน พลังก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความลึกลับและคุณสมบัติมหัศจรรย์มากมายที่เวอร์ชั่นเดิมไม่มี

ช่วงเวลาอาหารเช้า มีคนมาเคาะประตู พูด : “เซ่าจุน ข้างนอกมีคนชื่อวังฮั่นเซิงต้องการพบท่าน”

อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ผมไม่มีเวลา ให้เขารออยู่ข้างนอกแล้วกัน”

“รับทราบ” คนผู้นั้นถอยกลับ

จางลี่ได้ยินว่าวังฮั่นเซิงมาหาแล้ว พูด : “เสี่ยวเป่ย นายเตรียมจะทำอะไร”

อู๋เป่ย : “ตอนนั้นเขาทำอะไรกับคุณตา ผมจะคืนให้เขาสองเท่า!”

สำหรับวังฮั่นเซิง อู๋เป่ยกลับไม่ใส่ใจ หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ พาพ่อแม่และอู๋เหมยออกจากโรงแรมถังฮวง กลับมาถึงบ้าน

ทันทีที่มาถึงบ้าน จางลี่เล่าเรื่องของวังฮั่นเซิงให้คุณตาฟัง หลังจากที่คุณตาได้ยิน อารมณ์สับสน ไม่พูดเป็นเวลานาน

อู๋เป่ยพูด : “คุณตา ผมเคยพูดแล้ว จะช่วยคุณแก้แค้นอย่างแน่นอน”

คุณตาถอนหายใจเบาๆหนึ่งที พยักหน้าเบาๆ ตอนนั้นถูกวังฮั่นเซิงข่มขู่และใช้งาน เขาคับข้องใจมาทั้งชีวิต ตอนนี้หลานชายของตัวเองจะช่วยตัวเองแก้แค้น แน่นอนว่าเขาไม่มีความตั้งใจที่จะห้าม

หลังจากนั้นอู๋เป่ยเดินทางไปสำนักงานหลักของพรรคเทียนหลง ฝึกฝนองครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคนต่อไป หลายวันที่ผ่านมา องครักษ์หลงเว่ยดูดซับยายีนได้อย่างสมบูรณ์ และร่างกายของพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ล้วนๆ ความแข็งแกร่งขององครักษ์หลงเว่ยแต่ละคน ล้วนแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าหลงกังของเทียนซา! นอกจากนี้ พวกเขาฝึกฝนทักษะทางกายภาพและศิลปะการต่อสู้ที่สอนโดยอู๋เป่ย ในอนาคตอันใกล้นี้ จะต้องเหนือกว่าหลงกังอย่างแน่นอน

เมื่อเขามาถึงสนามฝึก องครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคนกำลังฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยไม่มีความเกียจคร้านเลย

อู๋เป่ยพอใจอย่างมาก มองดูหลายนาที เขาพูด : “ทุกคนมาทางนี้”

องครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคนหยุดการฝึกฝนทันที ยืนเป็นหนึ่งแถวทันที เหมือนหอกยืนอยู่บนพื้น

อู๋เป่ยเอาชุดเกราะยี่สิบชุดออกมาจากพื้นที่ฟ้าทมิฬ ชุดเกราะนี้เป็นเกราะของผู้พิทักษ์ฟันมังกร และผู้พิทักษ์ฟันมังกรนี้ อย่างน้อยๆก็มีพลังยุทธ์ระดับผู้เที่ยงแท้ กระทั่งเป็นถึงกษัตริย์เที่ยงแท้!

เขาพูด : “ที่นี่มีชุดเกราะยี่สิบชุด นับแต่นี้เป็นต้นไป พวกมันเป็นอุปกรณ์ของพวกคุณ”

ดวงตาขององครักษ์หลงเว่ยแต่ละคนเป็นกระกาย จ้องชุดเกราะเหล่านี้อย่างไม่ละสายตา

“สวมใส่สะ” เขาพูด

องครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคน รับชุดเกราะตามลำดับ สวมใส่ทันที หลังจากนั้นเขาก็หยิบโล่และดาบยาวที่มีเครื่องหมายรูปมังกรออกมา

ชุดเกราะเหล่านี้ ล้วนเป็นอาวุธวิเศษล้ำค่า สามารถปรับขนาดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ทุกคนสวมใส่ได้พอดิบพอดี

เหล่าองครักษ์หลงเว่ยทำความคุ้นเคยกับชุดเกราะ ตามลักษณะของชุดเกราะ อู๋เป่ยมีการสร้างชุดวิชาดาบที่เหมาะสมสำหรับองครักษ์หลงเว่ยที่สวมชุดเกราะ

ชุดวิชาดาบนี้ มีทั้งหมดสิบสองรูปแบบ สี่สิบกระบวนท่า ลักษณะของมันรวดเร็ว โหดเหี้ยม และแม่นยำ และสามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างค่ายกลดาบได้

ถึงตอนเที่ยง วิชาดาบกำลังก่อตัวและถูกสร้างขึ้นภายในใจของเขา หลังจากนั้นส่งมอบให้กับองครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคน

องครักษ์หลงเว่ยฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย อู๋เป่ยยังคงค้นคว้ายาพันธุกรรมต่อไป ครั้งที่แล้วยาพันธุกรรมที่ใช้ ผลที่ได้นั้นรุนแรงมากจนมีเพียงผู้แข็งแกร่งอย่างองครักษ์หลงเว่ยเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้ เขาตัดสินใจที่จะพัฒนายาพันธุกรรมเพิ่มเติมโดยให้ผลอ่อนลงและมีผลข้างเคียงน้อยลง

เขาเรียกยาพันธุกรรมที่เขามอบให้กับองครักษ์หลงเว่ยว่าเป็นยาพันธุกรรมหมายเลขหนึ่ง สิ่งที่ค้นคว้าในตอนนี้คือยาพันธุกรรมหมายเลขสอง

ความยากในการทำยาหมายเลขสองนั้นง่ายกว่ายาหมายเลขหนึ่ง และใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว อู๋เป่ยเอายาหมายเลขสองใส่เข้าไปในขวดเล็กสามสิบใบ ทุกขวดของยา เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคน

เขาวางแผนที่จะมอบยาเหล่านี้ให้กับผู้คนรอบตัวเขา เช่นหวงจื่อเฉียง กังจื่อ เซี่ยเฟยและคนอื่นๆ หลังจากรับประทานยาแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะดีขึ้นอย่างมาก ส่วนยาที่เหลือ ใช้เพื่อฝึกฝนคนที่มีพรสวรรค์ภายในพรรคเทียนหลง

ถึงตอนค่ำ อู๋เป่ยเรียกฮวาเจี๋ยหยูมา ถาม : “ตอนนี้ยาพันธุกรรมเกรด SSS ในตลาดราคาเท่าไหร่”

ฮวาเจี๋ยหยูเปิดข้อมูลอ่านสักพัก พูด : “ท่านผู้นำ ขณะนี้เราสามารถซื้อยาพันธุกรรมระดับ S ได้ในตลาดมืดเท่านั้น ราคาขายน่าจะอยู่ระหว่างสามพันล้านเหรียญสหรัฐถึงห้าพันล้านเหรียญสหรัฐ เพียงแต่รายงานที่พวกเราได้รับ กองกำลังบางส่วนสามารถซื้อยาพันธุกรรมระดับ SS ได้ และโดยทั่วไปราคาจะอยู่ระหว่างสองหมื่นถึงสามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย สำหรับระดับ SSS พวกเราขาดคุณสมบัติ แต่คนของพวกเราเดาว่า ราคาของยาดังกล่าวมีมูลค่าอย่างน้อยมากกว่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ”

เขาหยิบยาพันธุกรรมออกมายี่สิบขวด พูด : “นี่เป็นยาระดับ SSS ผมขายมันให้กับเทียนหลงในราคายาระดับ SS”

ฮวาเจี๋ยหยูพูดด้วยรอยยิ้ม : “ท่านผู้นำ ท่านทำแบบนี้ ขาดทุนเกินไปหรือเปล่า ยาที่องครักษ์หลงเว่ยยี่สิบคนใช้ ก็คือยาประเภทนี้ใช่ไหม”

อู๋เป่ย : “ที่พวกเขาใช้ คือยาพันธุกรรมระดับ SSSS++ ดีกว่าแบบนี้อย่างมาก”

ฮวาเจี๋ยหยูอึ้งไปเลย : “ท่านผู้นำ อย่างนั้นท่านขาดทุนเกินไปแล้วมั้ง”