ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 939

เมื่อมาถึงค่ายของปีศาจทมิฬ อู๋เป่ยก็เห็นคนรู้จักจากระยะไกล โรส เข่ออ้าย จินกัง ฉางเฟิง และเซวี่ยเตาก็เขาร่วมปฏิบัติการด้วย

เมื่อได้เห็นอู๋เป่ยอีกครั้ง คนเหล่านี่ก็รู้สึกแจกจ่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ในอดีตอู๋เป่ยเป็นเพียงคนลึกลับสำหรับพวกเขา แต่ตอนนี้อู๋เป่ยเปรียบเสมือนภูเขาสูงตระหง่าน ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความกดดันอย่างมาก

โรสอุทาน "เพียงเวลาครึ่งปี อู๋เป่ยคุณเปลี่ยนไปเยอะมาก!"

ถังปิงอวิ๋นหันกลับมาพูด "ตอนนี้ เขาเป็นเจ้านายของพวกเราแล้ว จากนี้ไปพวกคุณก็เรียกเขาว่าบอสอู๋"

เข่ออ้ายหัวเราะ "ฮิฮิ" "ฉันขอเรียกคุณว่าพี่อู๋ดีกว่า"

จินกังหัวเราะ "ฮ่าฮ่า" "บอส คุณแข็งแกร่งกว่าก่อนเป็นร้อยเท่า คุณทำได้ยังไงกัน? "

อู๋เป่ยตอบ"ครั้งนี้ที่ฉันมา ก็เพื่อเปลี่ยนพวกนายให้แข็งแกร่งขึ้น"

ดวงตาทุกคนเป็นประกาย หูของพวกเขาชี้ตรงขึ้น เพื่อฟังสิ่งที่อู๋เป่ยจะพูดต่อ

อู๋เป่ย "ในช่วงเวลาต่อจากนี้ฉันจะปรุงยาพันธุกรรมเพื่อช่วยใหพวกนายแข็งแร่งขึ้นอีก"

ร่างกายอันบอบบางของโรสสั่นสะท้าน "บอส เป็นยาระดับไหนกัน?"

ที่จริง พวกเขามีความโลภในยาพันธุกรรมมานานแล้ว แต่ผลข้างเคียงของยานั้นน่ากลัวมา และพวกเขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง นอกจากนี้ยาพันธุกรรมที่ดีมาราคาแพงมากไม่สามารถที่จะหาซื้อได้!

อู๋เป่ย "พวกคุณทุกคนล้วนเป็นมือขวาแขนซ้ายของปิงอวิ๋น ฉันก็ต้องเอายาที่ดีที่สุดของยาพันธุกรรมเบอร์หนึ่ง"

ยาพันธุกรรมเบอร์หนึ่ง เป็นยาที่องค์รักษ์หลงเว่ยใช้กัน และมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ที่คนต่างดีใจ เข่ออายกระโดดสูงสามฟุตแล้วพูดว่า "พี่อู๋เป่ย ฉันของลองคนแรก!"

ถังปิงอวิ๋นจ้องมองเธอ "ยืนดีๆ"

เข่ออ้ายทำหนาดุใส่เธอ แต่กกลับไปตำแหน่งเดิมของเธอ

อู๋เป่ย "ทุกคนจะไดรับต่างกันไป พวกคุณมีความคุ้นเคยกับการต่อสู้ไม่เหมือนกัน ฉันจะเตรียมยาที่แตกต่างกันไปเพื่อช่วยพวกคุณปลดล็อกพันธนาการทางพันธุกรรมของพวกคุณ"

บันทึกที่หานซิวให้มา บันทึกพันธนาการทางพันธุกรรมบางส่วน ด้วยทักษะทางการแพทย์อันทรงพลังและทักษะทางปรุงยาของเขา จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะทำลายพันธนาการทางพันธุกรรมได้

พูดจบเธอก็มองที่เข่ออ้าย "เข่ออ้าน เธอเป็นมือปืน ฉันจัปลูกฝังควมสามารถในการทำนายและการรับรู้ของเธอ ปรับปรุงความแม่นยำในการซุ่มยิงของเธอ แต่เมื่อถึงตอนนั้น ปืนไรเฟิลซุ่มยิงธรรมดาคงไม่เหมาะกับเธออีกต่อไป"

ถังปิงอวิ๋น "พูดถึงมือปืน ฉันมีอะไรจะแสดงให้คุณดู"

เธอโบกมือและหยิบปินไรเฟิลสัเงินออกมาจากวงแหวนน้ำแข็ง ปืนไรเฟิลซุ่มยิงที่ดูแปลกมาก ดูแตกต่างจากอาวุธปืยสมัยใหม่มาก แต่บอกได้เลยว่ามันคือปืนไรเฟิลซุ่มยิง!

อู๋เป่ยหยิบปืนขึ้นมาแล้วทำความเขาใจกับโครงสร้างของมันอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า "นี่คือปินไรเฟิลซุ่มยิ่งที่ปล่อยพลังงานได้ เป็นของในยุคสมัยโลกแห่งเซียน มันเรียกว่าเซียนนักแม่นปืน หากเธอต้องการใช้มันต้องมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก"

หลังพูดจบ จู่ๆเขาก็มาถึงพื้นที่โล่งกว้าง แล้วยกปืนไรเฟิลขึ้นเล็งไปที่ต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปหมื่นเมตร จากนั้นเขาก็หยิบหินเซียนออกมาแล้วใส่เข้าไปที่ก้นปืน

ในเวลานั้น แสงสีทอปรากฏขึ้นจากกระบอกปืน แสงสีทองหนาเพียงนิ้วเดียวก็ยิงออกไป กระทบเข้ากับลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งหมื่นเมตรทันที

ลำต้นของต้นไม้ทะลุไป ต้นไม้ทั้งต้นระเบิดกลายเป็นขี้เลื่อยกระจายไปทั่วพื้นดิน

เมื่อเห็นฉากนี้ทุกคนต่างตกตะลึง เข่ออ้ายอ้าปากกว้างแล้วถามว่า "พี่อู๋เป่ย ปืนนี้ีพลังมากแค่ไหนกัน?"

อู๋เป่ยคิดอยู๋ครู่แล้วพูดว่า "ด้วยปืนนี้ เธอสามารถฆ่ากษัตริย์เที่ยงแท้ที่อ่อนแอได้ หากคุณยิงอีกสองสามนัด กษัตริย์เที่ยงแท้ที่ทรงพลังก็จะจบสิ้น ถ้าแต่เธอเจอเซียนจวินกหันกลับและวิ่งหนีเถอะ"

ดวงตาของเข่ออ้ายเป็นประกาย เธอลูบมือแล้วพูดว่า "เยี่ยมไปเลย ปืนนี้ให้ฉันน่ะ!"

อู๋เป่ยพูด "ไม่ต้อรีบร้อย พลังยุทธ์ของเธอยังตื้นไป ยากที่จะควบคุมมันได้"

ถังปิงอวิ๋น "ฉันขับเป็น สอนนายได้"

เมื่ออู๋เป่ยยังเป็นเด็กเขาเป็นแฟนคลับทหาร เขาหมกมุ่นอยู่กับเครื่องบินรบเป็นพิเศษ แม้ว่าความสนใจของเขาจะไม่ลึกซึ้งอีกต่อไป แต่หลังจากฝึกซ้อมแล้ว ความฝันเดิมของเขาก็ยังคงอยู่

เขากระพริบตา "ได้สิ แต่รอเข่ออ้ายเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงก่อน ฉันจะไปทดสอบเครื่องบินรบ"

ขณะที่เข่ออ้ายกำลังดูดซับยา อู๋เป่ยก็ยังคงปรุงยาเม็ดที่สองต่อไป คราวนี้ยาจะถูกมอบให้จินกัง จินกังใช้อาวุธหนัก อู๋เป่ยจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการป้องกันและความเร็วในการตอบสนองของเขา

เมื่อยาเม็ดที่สองได้รับการขัดเกลาสำเร็จ เข่ออ้ายก็ดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พลังจิตของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอก็เฉียบคมขึ้นมาก

เธอกระโดดขึ้น แล้วหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาเล็งไปที่ตมไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งหมื่นเมตร ปากกระบอกปืนถูกจุดขึน ลำแสงสังหารก็พุ่งออกไป ฟันต้นไม้ใหญ่หักเป็นชิ้นๆ

อู๋เป่ยปรบมือ "เยี่ยมมาก ตอนนี้เธอสามารถใชมันได้แล้ว ปืนไรเฟิลซุ่มยิงชนิดนี้ต้องใช้หินเซียน สิ่งที่นี้มีค่ามาก เว้นแต่เธอจะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งก็อย่าใช่มัน"

เข่ออ้ายยิ้ม "ฉันรู้แล้วพี่อู๋เป่ย"

ต่อมาอู๋เป่ยก็ให้จินกังกินยาไป นอกจากนี้เขาก็ยังขัดเกลายาพันธุกรรมระดับบSSS ตามคุณสมบัติและลักษณะของนักบิน ซึ่งสามารถประบปรุงการมองเห็น ความเร็วของปฏิกิริยา และการตัดสินใจของนักบินได้มากขึ้น

ในขณะที่จินกังกำลังดูดซับพลังของยา อู๋เป่ยและถังปิงอวิ๋นได้จัดงานเลี้ยงาำหรับนักบินยี่สิบคนรวมทั้งจ้าวจือหมิง ในมื้ออาหารของนักบินมีมาตราฐานบางประการให้ อู๋เป่ยต้องการใช้ยาอายุวัฒนะแห่งชีวิตกับพวกเขาก่อน

หลังจากงานเลียงจบลง ทุกคนทั้งยี่สิบสี่คนถูกให้กินยาพันธุกรรมระดับSSS ซึ่งปรับการรับรู้ทางจิตและการตัดสินใจของพวกเขา

จ้าวจือหมิงและคนอื่นๆ รู้สึกสดชื่นหลังจากกินยาและไม่ไดคิดอะไรมาก เมื่อมาถึงเวลาสามทุ่ม พวกเขาก็กลับไปที่ค่ายทหาราเพื่อผักผ่อน

เมื่อถึงเวลาสามทุ่มแล้ว อู๋เป่ยพูดกับถังปิงอวิ๋น "ปิงอวิ๋น พวกเราจะไปลองขับเครื่องบินรบไหม?"

ถังปิงอวิ๋น "ตามฉันมา!"