บทที่ 142 ขอแค่พวกคุณไม่รังเกียจฉันก็พอแล้ว
"คุณท่านธนาศักดิ์ธน คุณนายธนาศักดิ์ธน พวกคุณมาได้ไงครับ?"
พฤกษ์คาดไม่ถึงอย่างยิ่ง
ที่นี่เป็นความลับมาก ที่สำคัญข่าวที่บุริศร์นอนโรงบาลเขาก็บล็อกหมดแล้ว กลัวว่าหลังจากคนอื่นรู้จะก่อความวุ่นวาย เพียงแต่ว่าคิดไม่ถึงคุณพ่อนรมนและคุณแม่นรมนถึงกับหามาถึงที่นี่
ตอนที่คุณแม่นรมนเห็นพฤกษ์ถึงค่อยเผยสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมา
"ผู้ช่วยพฤกษ์?เยี่ยมมากเลย ฉันได้ยินมาว่าบุริศร์ได้รับบาดเจ็บใช่มั้ย?ฉันกับสามีตั้งใจมาเยี่ยมเยือนเขา"
ถึงแม้คุณแม่นรมนพูดแบบนี้ก็ตาม แต่ว่าสายตากลับร้อนใจอยู่ตลอดเวลา ชัดเจนมากเลยว่าอยากเจอบุริศร์มากเลยทีเดียว
พฤกษ์รู้ดีว่าฐานะของพวกเขาพิเศษ พูดอย่างยิ้มแย้มว่า " ประธานบุริศร์มีธุระครับ ความจริงเขาได้รับบาดเจ็บไม่มากหรอกครับ รบกวนพวกคุณแล้ว"
"แบบนี้หรอ เขาไม่อยู่"
คุณแม่นรมนดูผิดหวังมาก นัยน์ตาคู่นั้นเหมือนเสียสีสันไปอย่างกะทันหัน
พฤกษ์เห็นพวกเขาแบบนี้ พูดโดยไม่รู้ตัว "ประธานบุริศร์ไม่อยู่ แต่ว่าคุณนรมนอยู่นะครับ"
"คุณนรมน?"
คุณพ่อนรมนถามโดยไม่รู้ตัว สายตาร้อนรนเล็กน้อย
พฤกษ์ถึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง และพูดอย่างยิ้มแย้มว่า "เป็นคุณแคทเธอรี เธอดีไซน์ภาพอยู่ในห้องครับ"
พอได้ยินว่าเป็นแคทเธอรี สายตาของคุณแม่นรมนก็มีสีสันขึ้นมาอีกครั้ง
"เราเข้าไปเยี่ยมเยียนเธอหน่อยได้มั๊ย?"
"นี่................"
ความจริงพฤกษ์ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้กับนรมนทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็รู้ดีว่านรมนกำลังดีไซน์ภาพอยู่ แต่ว่าคนแก่ตรงหน้าไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นพ่อแม่แท้ๆของนรมน ยังไงซะเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธพวกเขาแบบนี้
"เอาหล่ะ ผมเข้าไปพูดกับคุณแคทเธอรีสักคำ พวกคุณรอสักครู่"
พฤกษ์ยิ้มแย้มเล็กน้อย หันหลังเดินไปที่ห้องผู้ป่วย
ธรณีรู้สึกว่าตัวเองถูกพฤกษ์หลอกซะแล้ว
"ไหนนายพูดว่าแคทเธอรีกำลังงานยุ่งไง ไม่พบแขกไม่ใช่หรือ?ทำไมพวกเขาถึงพบได้?"
พฤกษ์พูดอย่างมีมารยาท " ฐานะของพวกเขาต่างกัน คุณชายธรณี"
"พวกเขาฐานะอะไร? "
"พวกเขาเป็นพ่อตาและแม่ยายของประธานบุริศร์ คุณชายธรณียังมีปัญหาอะไรอีกไหมครับ?"
พฤกษ์ยิ้มแย้มอย่างเรียบเฉย แต่ว่ารอยยิ้มกลับไม่จริงใจเลยสักนิด
ธรณีประหลาดใจเล็กน้อย
พวกเขาถึงขั้นเป็นพ่อแม่ของนรมน?
สำหรับเรื่องราวภรรยาในอดีตของบุริศร์ ธรณีได้ยินมาบ้างแล้ว ตอนนี้ได้เห็นพ่อตาแม่ยายของเขา จู่ๆก็สนใจอดีตภรรยาของบุริศร์มากเลยทีเดียว
คนแก่ที่สง่างามทั้งคู่ อบรมเลี้ยงดูผู้หญิงที่หนีตามผู้ชายไปเนี่ยนะ?
ตอนที่ธรณีสังเกตคุณพ่อนรมนพวกเขาอยู่นั้น คุณพ่อนรมนก็สังเกตธรณีอยู่เช่นกัน
เขารู้จักธรณี ยังไงซะชื่อเสียงของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาโด่งดังมากเลยทีเดียว ผลงานของธรณีก็เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ เพียงแต่ว่าเขาไม่คิดเลยว่าจะเจอธรณีที่นี่ก็เท่านั้นเอง
"คุณชายธรณี"
คุณพ่อนรมนเรียกอย่างเบาๆ และเหมาะสม
ธรณีพยักหน้าให้กับพวกเขา แสดงออกมาว่าเคารพ
พฤกษ์ออกมาจากห้องแล้ว เห็นว่าธรณียังไม่ไปไหน ประหลาดใจเล็กน้อย
"คุณชายธรณียังมีธุระหรือครับ?"
"ช่วยฉันบอกกับแคทเธอรี ฉันหาเธอมีธุระสำคัญ ให้เธอมีเวลาแล้วติดต่อฉัน นี่เป็นเบอร์โทรของฉัน"
ธรณีไม่ใช่คนที่ตามรังควานคนอื่น
พ่อตาแม่ยายของบุริศร์ต่างมาเยี่ยมแคทเธอรีกันแล้ว หมายความว่าบุริศร์มีใจให้กับแคทเธอรีแล้วจริงๆ ถ้างั้นสถานการณ์แบบนี้เขาไม่เหมาะที่จะอยู่ต่อไป
พฤกษ์รับนามบัตรมาอย่างมีมารยาท จากนั้นก็ส่งธรณีออกไป
คุณพ่อนรมนและคุณแม่นรมนมองไปที่พฤกษ์อย่างร้อนใจ
พฤกษ์พูดอย่างยิ้มแย้มว่า "พวกคุณตามผมเข้ามาเถอะ"
คุณแม่นรมนได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ตื่นเต้นและซาบซึ้งใจ
ทั้งคู่ตามพฤกษ์เข้าไปในห้องผู้ป่วย นรมนกำลังจัดเก็บภาพวาดของตัวเอง เห็นพวกเขาเข้ามา พูดอย่างดีใจเป็นพิเศษว่า "คุณลุง คุณป้าคะ พวกท่านมาแล้ว?รีบนั่งเถอะค่ะ เมื่อกี้หนูกำลังวาดภาพอยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าพวกท่านมา ขออภัยด้วยนะคะ"
"ไม่เป็นไรไม่เป็นไร หนูกำลังวาดอะไรอยู่?"
สายตาที่คุณแม่นรมนมองนรมนมีความอบอุ่นเพิ่มมากขึ้น
นรมนไม่ได้สังเกต พูดอย่างยิ้มแย้มว่า " ไม่มีอะไรคะ ก็แค่งานเท่านั้นเองค่ะ หนูเรียนด้านดีไซน์รถยนต์ มีแรงบันดาลใจนิดหน่อย ก็เลยวาดออกมา แต่ว่าวาดไปวาดมา ยังไงก็ยังรู้สึกว่าขาดอะไรไปสักอย่าง อาจจะขาดแรงบันดาลใจอ่ะค่ะ"
เธอจับท้ายทอยตัวเองอย่างเขินอาย
อยู่ต่อหน้าพ่อแม่ของตัวเอง เธอเผยความเป็นเด็กโดยกำเนิดของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว
เห็นท่าทางที่คุ้นเคยของนรมน นัยน์ตาของคุณพ่อนรมนเปียกชื้นเล็กน้อย
"เอามาให้ฉันดูสิ ฉันอาจจะให้คำแนะนำกับหนูได้บ้าง แน่นอนถ้าหนูถือสาก็ช่างเถอะ"
คุณพ่อเอ่ยปากพูดด้วยตัวเองน้อยมาก แต่ว่านรมนรู้ดี ตอนที่คุณพ่อนรมนยังหนุ่มเคยวิจัยศิลปกรรม
"ไม่คะไม่คะ หนูหวังอย่างยิ่งว่าให้ท่านชี้แนะกับหนูสักหน่อย"
นรมนรีบหยิบกระดาษวาดให้กับคุณพ่อนรมน จากนั้นนั่งอยู่ข้างๆอย่างกับเด็กดีที่น่ารัก และเหมือนกับเด็กน้อยที่เชื่อฟัง
พฤกษ์รู้สึกว่านรมนอยู่ต่อหน้าคุณพ่อนรมนและคุณแม่นรมนเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบนึง เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้นก็ถอยออกมาเลยทีเดียว เอาพื้นที่นี้ให้กับพวกเธอทั้งครอบครัว
คุณพ่อนรมนดูผลงานของนรมน แล้วพูดแบบชื่นชมว่า "นี่เป็นสิ่งที่หนูวาด?"
ถึงแม้คุณพ่อนรมนก็ร้อนใจมาก แต่ว่าตอนนี้ก็ยังปลอบใจภรรยาตัวเอง
คุณแม่นรมนโต้กลับไปว่า " คุณไม่ร้อนใจ?เดี๋ยวเจอหลานคุณอย่าแย่งไปกับฉันนะ"
"ฉันไม่ได้พูดว่าฉันไม่ร้อนใจที่จะเจอกับหลาน"
คุณพ่อนรมนรู้สึกว่าตัวเองถูกคุณแม่นรมนคุกคาม
มองดูรูปแบบการอยู่ด้วยกันของคนแก่ทั้งสองคนซึ่งถกเถียงกันไปมานั้น มุมปากของนรมนค่อยๆยกขึ้นมา และรู้สึกว่าวางใจไม่น้อยเลยทีเดียว
"ตอนนี้กานต์อยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก ถูกบุริศร์หาคนคอยปกป้องอยู่ ขณะนี้ยังมีหลายคนที่ยังจับไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่กล้าให้กานต์ออกมาเรื่อยเปื่อย ถ้าหากพวกท่านคิดถึงเขาจริงๆ เดี๋ยวหนูจะให้เขาวีดีโอหาพวกท่านดีมั้ยคะ? ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพบเจอกันจริงๆ หนูรับรอง ขอแค่เวลาเหมาะสม หนูจะต้องพากานต์ไปพบกับพวกท่านอย่างแน่นอนดีมั๊ยคะ? "
นรมนรู้สึกตัวเองอกตัญญูมากนัก
ห้าปีที่ผ่านมานี้ทำให้พ่อแม่กังวลใจอยู่เรื่อย ตอนนี้แม้แต่หลานของตัวเองก็ไม่สามารถพบเจอกัน แต่ว่าเธอกลัวแล้วจริงๆ
ได้ยินข่าวว่า ธิดาหนีไปแล้ว เขมิกาก็ไม่บอกไม่กล่าวอะไรเลย ส่วนตังเมรออยู่ที่หน้าบ้านตระกูลบ้านใหญ่โตเล็กทุกวัน เธอไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ
ถึงแม้คุณแม่นรมนผิดหวังบ้าง แต่ว่าได้ยินว่าสามารถวีดีโอคอลกับกานต์ เธอก็ยังพูดอย่างดีอกดีใจว่า "ดีดีดี เรากลับไปรอ วีดีโอคอลเมื่อไหร่เราก็อยู่"
"ถูกถูกถูก คนแก่แล้ว นอนหลับน้อยลง ไม่ว่าสายแค่ไหนเราก็อยู่"
คุณพ่อนรมนก็ร้อนใจ
นรมนดูความอบอุ่นที่พวกเขามีต่อกานต์ออก เธอจับมือของพวกเขาและพูดอย่างเสียใจว่า "วางใจเถอะค่ะ กานต์เป็นเด็กดี ต้องวีดีโอคอลให้กับพวกท่านโดยเร็วแน่นอนค่ะ"
"งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีเเล้ว"
คนแก่ทั้งสองหัวเราะอย่างดีใจ
" หนูรีบทานเร็วๆ ไม่รีบทานเดี๋ยวก็เย็นแล้ว วันหลังไม่มีธุระก็มาเที่ยวที่บ้านบ่อยๆนะ ฉันจะเข้าครัวทำของอร่อยๆให้หนูทานด้วยตัวเอง"
คุณแม่นรมนมองดูนรมนอย่างหลงรักและเอ็นดู อยากกอดเธอไว้ในอ้อมกอดจริงๆ แต่ว่าเธออดใจไว้
นัยน์ตาของนรมนก็เปียกชื้นเล็กน้อย
"ดีเลยค่ะ หนูมีเวลาว่างก็จะไปหาเลยค่ะ ขอแค่พวกท่านไม่รังเกียจหนูและไม่รำคาญหนูก็พอแล้วค่ะ"
" ไม่หรอกหนู"
ทั้งสามคนพูดคุยกันอีกหลายคำ คุณพ่อนรมนกับคุณแม่นรมนก็ลุกขึ้นมากลับไปแล้ว
นรมนไม่ค่อยวางใจพวกเขาสักเท่าไหร่ จึงให้พฤกษ์ส่งพวกเขากลับบ้าน
พฤกษ์ลำบากใจเล็กน้อย
" คุณนายครับ ประธานบุริศร์ให้ผมปกป้องคุณ นี่......."
"ฉันมีบอดี้การ์ดตั้งเยอะตั้งแยะอยู่ที่นี่ ไม่เป็นไร พวกเขาต่างหาก นายไม่ไปส่งพวกเขากลับไปฉันไม่สบายใจ"
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ พฤกษ์ก็รู้ฐานะของคุณพ่อนรมนดี ลังเลอยู่สักพักจึงพูดว่า "งั้นก็ได้ครับ ถ้าหากมีปัญหาอะไรคุณโทรหาผมได้ทุกเมื่อเลยรู้มั๊ยครับ? "
"รู้แล้ว รีบไปเถอะ"
นรมนมองดูพฤกษ์พาคุณพ่อนรมนพวกเขาออกไปแล้ว ถึงหันหลังเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วย กลับคิดไม่ถึงหลังจากกลับไปที่ห้องผู้ป่วย เธอเห็นคนคนนึงที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวออกมาที่ห้องผู้ป่วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...