บทที่ 159 ประธานบุริศร์บอกว่าเขาจะพักฟื้นครับ
นรมนถูกธรณีหัวเราะแบบนี้ ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่ไหนดี
มีลูกชายแบบนี้โลกที่ไหนกัน!
“คุณชายธรณี คุณอย่าถือสาเลย กานต์ถูกฉันเลี้ยงดื้อซะแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบเขานะ มีเวลาผมจะมาหาเขาเล่นบ่อยๆนะครับ คุณนรมนจะถือสาไหมครับ?”
ธรณียิ้มแล้วถาม
นรมนจะพูดอย่างไรว่าตัวเองถือสา?
ถ้าตัวเองบอกว่าถือสาธรณีจะไม่ติดต่อกับกานต์แล้วเหรอ? อีกอย่างธรณียังช่วยตัวเองขนาดนี้
นรมนปฏิเสธไม่ได้ เลยพยักหน้าอย่างลำบากใจ
“เอาเหอะ ที่นี่ผมจัดการเอง ตอนนี้หน้าที่ของพวกคุณก็คือไปดูว่าในบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กใครเป็นคนวางยาพิษใส่กิจจา ถ้าทางสถานีตำรวจต้องการความช่วยเหลือ พูดมาได้เลยนะครับ อย่าเกรงใจกับผมเลย”
นรมนทำได้เพียงยิ้มเจื่อนๆกับคำพูดของธรณี
เดิมทีเธอว่าจะไม่เกรงใจ แต่พอกานต์ทำแบบนี้ เธอจะไม่เกรงใจได้ไง?
นรมนยิ้มอย่างเก้อเขิน และเดินออกไปอย่างรวดเร็วกับพฤกษ์
พฤกษ์พูดอย่างโกรธๆว่า “คุณนายครับ คุณอย่าไปฟังคุณชายธรณีนะครับ ถ้าเทียบกับประธานบุริศร์แล้ว คุณชายธรณีเทียบไม่ติดเลยสักนิด”
นรมนชะงักไปสักพัก นึกถึงบุริศร์ ในใจเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
“เหรอ? อย่างน้อยคุณชายธรณีกำลังจีบฉัน แต่ประธานบุริศร์กลับหลบฉัน”
คำพูดนี้ทำให้พฤกษ์พูดไม่ออกทันที
เขาเกาหัวด้วยความหดหู่ รีบเอามือถือขึ้นมาโทรหาบุริศร์
“ประธานบุริศร์ ถ้าคุณไม่ออกมาอีก คุณนายจะถูกคุณชายธรณีแย่งไปแล้ว คุณชายกานต์ก็พูดแบบนี้ จะรอดูคุณธรณีจีบคุณนาย อีกอย่างคุณชายกานต์ยังเรียกคุณชายธรณีว่าคุณธรณีด้วย”
แววตาของบุริศร์ดูเหี่ยวแห้งกว่าเดิม
“เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”
“คุณชายธรณีใช้ห้องลับพิเศษของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาในการรักษาคุณชายกิจจา คุณหมอบอกว่าคุณชายกิจจาต้องเปลี่ยนเลือด แต่ตอนนี้คือหนึ่งเลือดในคลังไม่พอ สองคือสภาพร่างกายของคุณชายกิจจาในตอนนี้ไม่เหมาะแก่การผ่าตัด ทำได้เพียงบำรุงรักษาไปก่อน”
เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ สีหน้าของบุริศร์ดูแย่มาก
“กานต์เป็นไงบ้าง?”
“คุณชายกานต์ไม่เป็นอะไรครับ คงเป็นเพราะยังไม่ทันได้ลงมือ คุณชายกานต์อยู่เป็นเพื่อนคุณชายกิจจา”
บุริศร์ขมวดคิ้วแน่น เกิดเรื่องแบบนี้เขาควรจะออกหน้า แต่ถ้าเผชิญหน้ากับนรมนในตอนนี้ เขายังไม่ได้เตรียมใจจริงๆ
“ ใช้ทุกแรงกำลังของตระกูลโตเล็กไปปกป้องพวกเขา ต้องหาให้เจอว่าใครเป็นคนทำ”
“ครับ”
หลังจากที่พฤกษ์วางสายไปเพิ่งรู้ว่านรมนขึ้นรถไปแล้ว และมองเขาจากกระจกรถ
“โทรเสร็จแล้วเหรอ? เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?”
พฤกษ์พูดอย่างสับสน “ประธานบุริศร์บอกว่าเขาจะพักฟื้นครับ”
“พักไปเถอะ”
นรมนโกรธเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งดัดจริต
เธอไม่เชื่อว่าบุริศร์จะทนอยู่นิ่งเฉยได้
แต่เพื่อทะเลาะกับเธอ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังสามารถพักฟื้นได้?
นรมนปรับกระจกรถขึ้น ตอบอย่างเย็นชา “กลับบ้าน”
พฤกษ์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคุกกี้ครีมสอดไส้ แต่ตอนนี้เขาพูดอะไรได้ล่ะ? พูดไม่ดีทั้งภายในและภายนอกไม่ใช่คน ทำได้แค่รีบขึ้นรถ แล้วสตาร์ทรถขับกลับบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก
คนในบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
แม่บ้านหลิวเห็นนรมนกลับมา พูดเสียงเบาว่า “คุณนรมน หลังจากที่คุณไปป้าโอได้โทรมา เรียกหาป้าเกสรที่เป็นผู้ช่วยครัว”
นรมนขมวดคิ้วแน่น
“ใครเป็นคนคัดเลือกป้าเกสรเข้ามา? เข้ามาเมื่อไหร่?”
“สามปีก่อน ป้าโอเป็นคนคัดเลือกเข้ามา”
“ป้าโอ......”
นรมนพึมพำชื่อนี้ ในใจไม่ค่อยมั่นใจ
ป้าโอดีกับบุริศร์มาก ดีจนสามารถเอาทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองไปแลก และกิจจาเป็นลูกรักของบุริศร์ เธอลงมือกับกิจจาจริงๆเหรอ?
ถ้าหากลงมือกับกานต์ยังพอพูดไปได้ แต่หมอบอก สารพิษในร่างกายของกิจจาอย่างน้อยสองปีแล้ว หรือว่าเป็นคนอื่น?
แต่ทำไมถึงบังเอิญแบบนี้ล่ะ?
ป้าโอทำไมถึงโทรมาในเวลานี้?
“ได้พูดอะไรไหม? ได้ยินหรือเปล่า?”
แม่บ้านหลิวส่ายหัวแล้วพูด “ดิฉันไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป ได้ยินแค่แกเรียกเสียงหนึ่งว่าป้าโอ อย่างอื่นดิฉันไม่รู้ค่ะ”
นรมนรู้สึกว่าเรื่องนี้สับสนไปหมด
“ทำอาหารก่อนเลย ยังไม่ต้องทำอะไร เฝ้าดูท่าทางป้าเกสรอย่างละเอียด”
“ครับ”
อีกฝั่ง ตังเมมาถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ให้เธอเยี่ยมเขมิกาไม่ได้อยู่แล้ว แต่พอตังเมหยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง
เมื่อเห็นชื่อบนกระดาษ หน้าผากของเจ้าหน้าที่ก็มีเม็ดเหงื่อไหลออกมา
“ผมจะรีบประตูให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
เจ้าหน้าที่พาตังเมมาที่ห้องของเขมิกา
เขมิกาแสร้งทำเป็นบ้าจนตัวให้สภาพของตัวเองดูน่าสังเวช ตังเมแทบดูไม่ออกเมื่อเจอแวบแรก
“เขมิกา ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้? เขมิกา!”
ตังเมรีบเดินเข้าไป กอดเขมิกาไว้
เขมิกาเห็นว่าเป็นตังเม ก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“แม่ แม่มาช่วยหนูแล้วใช่ไหม? รีบพาหนูกลับไปเถอะ หนูทนอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วแม้แต่นาทีเดียว! หนูแกล้งต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเขาทรมานหนู ใช้กระบองไฟ้ฟ้าช็อตหนูจนร้องเสียงดัง แม่ แม่ช่วยหนูด้วย!”
เขมิกาพูดทั้งน้ำตา
ตังเมโกรธจนขอบตาแดงก่ำ
“ไอ่พวกนั้น ฉันไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่ แต่ตอนนี้แม่พาลูกกลับไม่ได้ เขมิกา ลูกฟังแม่นะ พรุ่งนี้แม่จะส่งคนมาตรวจสุขภาพให้ลูก แค่หมอยืนยันว่าป่วยทางจิต ไม่ว่าลูกทำอะไรไป พวกเขาก็ทำอะไรลูกไม่ได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่แม่สามารถช่วยลูกได้”
คำพูดของตังเมทำให้เขมิกาอึ้งไป
“กิจจาล่ะ? แม่ไม่ได้บอกให้กิจจาว่าหนูถูกขังเหรอ? แม่ไม่ได้ให้เขาไปขอร้องบุริศร์ให้ปล่อยหนูไปเหรอ? บุริศร์ชอบกิจจามาก มองว่ากิจจาสำคัญมาก แม่แค่ให้กิจจาไปขอร้องเขา เขาต้องตกลงแน่นอน”
“ไม่มีประโยชน์หรอก แม่ไม่มีโอกาสเจอกิจจาเลย ทั้งข้างในและข้างนอกของบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มมาสามเท่า แม่อยากเจอกิจจายากยิ่งกว่าเรื่องอะไรอีก เดิมทีแม่เอาเงินหว่านซื้อคนใช้ในบ้านตระกูลโตเล็กได้คนหนึ่ง ให้เธอวางยาใส่กิจจาสักหน่อย ตราบใดที่กิจจาป่วย พวกเขาก็จะส่งกิจจาออกมารักษา ถึงเวลานั้นแม่จะได้มีโอกาสเจอกิจจา แต่นี่ก็วันหนึ่งแล้ว ตระกูลโตเล็กไม่มีวี่แววอะไรเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้กิจจาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
คำพูดของตังเมทำให้เขมิกาลนลานขึ้นมา
“แม่ทำอะไรกับกิจจา? เขายังเป็นแค่เด็กสี่ขวบนะ! แม่ กว่าหนูจะตั้งครรภ์เก้าเดือนและคลอดออกมามันไม่ง่าย เขาเป็นทายาทของตระกูลโตเล็ก! แม่จะลงมือกับเขาได้อย่างไร?”
“พอได้แล้ว! ลูกรู้แค่ว่าเขาเป็นลูกชายของลูก แล้วลูกรู้ไหมว่าลูกเป็นลูกสาวของแม่! กว่าแม่จะตั้งครรภ์เก้าเดือนและคลอดออกมามันไม่ง่ายเหมือนกัน แม่จะทนดูลูกทุกข์ทรมานในนี้ได้อย่างไร? ทุกวันนี้แม่วิ่งด้านนอกอย่างยากลำบากเพื่อใคร? ก็เป็นเพราะลูกยังไงล่ะ? เขมิกา ลูกฟังแม่ให้ดีนะ กิจจาเป็นแค่คนที่เสียพ่อไป ยังไม่พูดเรื่องที่เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของบุริศร์ แม้ว่าจะเป็น ตอนนี้ลูกชายของนรมนกลับมาแล้ว ลูกคิดว่าในใจของบุริศร์จะลำเอียงไปที่ใคร? กิจจาไม่ฉลาด แต่ไม่ได้เป็นเด็กที่ดึงดูดความสนใจคน ห้าปีที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้ลูกอยู่ในตำแหน่งคุณนายน้อย ลูกคิดว่าลูกชายคนนี้ของลูกมีประโยชน์อะไร? เขาใกล้ชิดกับบุริศร์มากกว่าลูกที่เป็นแม่แท้ๆอีก! ลูกหายไปตั้งหลายวัน ลูกได้ยินกิจจาถามหาลูกไหม? ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดว่ากิจจาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ลูกต้องคิดว่าลูกจะออกจากที่นี่อย่างไร! มีแค่ออกจากที่นี่ไป ลูกยังคงเป็นแม่ของกิจจา ยังคงเป็นคุณแม่ของทายาทตระกูลโตเล็ก! ไม่งั้นทุกอย่างเป็นเพียงแค่อากาศ ลูกเข้าใจไหม?”
ตังเมผลักเขมิกาออก
เขมิการู้สึกว่าตัวเองนั้นเบลอไปทั้งตัว
ก่อนหน้านี้เธออยู่บนตำแหน่งสูง แต่ทำไมจู่ๆก็กลายเป็นแบบนี้?
“แม่ หนูจะออกจากที่นี่ แต่กิจจาจะมีเรื่องไม่ได้ ถ้าหากเขามีเรื่อง หนูยิ่งไม่มีความหวังอีกต่อไป!”
“อันนี้แม่รู้ ลูกสบายใจเถอะ ตระกูลโตเล็กธุรกิจใหญ่ขนาดไหน ไม่ให้กิจจามีเรื่องหรอก อีกอย่างแม่ได้ข่าวว่ากิจจาชอบกานต์ลูกชายของนรมนมาก นับเขาว่าเป็นพี่น้อง และยังชอบนรมนอีกด้วย ลูกชายที่ลูกคลอด แต่กลับชอบศัตรูของลูก เขมิกา ปกติลูกสั่งสอนลูกชายตัวเองอย่างไรกันแน่? ถ้าลูกยังไม่ออกไป แม่กลัวว่าลูกชายของลูกจะเรียกนรมนว่าแม่ในภายหลัง”
“เป็นไปไม่ได้! ไม่หรอก!”
เขมิกาถูกกระทบ ทั้งคนก็กรีดร้องขึ้นมา แต่กลับดึงดูดผู้คุมข้างนอกมาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...