บทที่ 197 กลับไปไม่ได้แล้ว
บุริศร์ทำโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้าของโปรดนรมน แต่ในตอนที่เขาเข้ามาในห้องกลับไม่เห็นนรมน
หัวใจของเขาแทบทะลุออกมานอกอก
หรือว่ามีคนจับตัวนรมนไปต่อหน้าต่อตาเขาอีกแล้ว?
“นรมน นรมน!”
บุริศร์ลนลาน
เขาตะโกนเรียกนรมน พร้อมกับหานรมน จากนั้นก็ได้ยินเสียงอ่อนแรงดังขึ้นมาภายในห้อง
“ฉันอยู่นี่”
บุริศร์ชะงักนิ่ง
เขาได้ยินเสียงของนรมนเต็มสองหู แต่ทำไมถึงไม่เห็นเธอล่ะ?
“นรมน คุณอยู่ไหน?”
บุริศร์นำโจ๊กไปวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ตั้งใจฟังที่มาของเสียงนรมนเงียบๆ แต่รอนานแล้ว เขากลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากนรมนอีก
เขาคิดว่าตัวเองต้องหูฝาดไปแน่ๆ
นรมนไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่รู้ใครพานรมนไปไหนอีก
บุริศร์กำลังจะลุกขึ้น แต่จู่ๆก็พบว่ามีคนจับขาของเขาเอาไว้
เขาก้มหน้าลง ก็เห็นดวงตาตื่นกลัวที่โผล่ออกมาจากใต้เตียงของนรมน
หัวใจของบุริศร์ไหวสะท้าน ราวกับถูกฉีกกระชากภายในเสี้ยววิ เขาเจ็บปวดหัวใจจนแทบหายใจไม่ออก ลำคอแห้งผากจนยากที่จะเอ่ยพูดออกมา
“คุณกำลังทำอะไร?”
เขาไม่ได้ต่อว่านรมน แต่ช่วยดึงเธอออกมาด้วยซ้ำ
นรมนนั่งลงบนเตียงเหมือนเด็กมีความผิด ไม่รู้ต้องวางมือทั้งสองข้างไว้ตรงไหน
เธอไม่รู้ว่าควรบอกบุริศร์ยังไงดี
เขาต้องรำคาญที่เธอเป็นแบบนี้แน่ๆเลยใช่ไหม?
ตอนที่อยู่กับรเมศ เธอซ่อนตัวเองไม่ได้ ช่วงเวลาที่เธอสบายใจที่สุดคือช่วงกลางคืนที่ไม่มีคนมา เธอเงยหน้ามองเพดานในความมืดจนฟ้าสว่าง
ถึงจะน่าเบื่อ แต่ความมืดก็สามารถให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอได้
แต่เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับบุริศร์ในตอนนี้ จู่ๆนรมนก็รู้สึกละอายใจ
เธอไม่ใช่นรมนที่มั่นอกมั่นใจอีกต่อไปแล้ว เธอไม่รู้แม้แต่ว่าต้องพูดยังไงกับบุริศร์ถึงจะดี
เมื่อเผชิญหน้ากับความเงียบของนรมน หัวใจของบุริศร์ก็ราวกับโดนทิ่มแทง
“ผมทำโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้าที่คุณชอบด้วย เรามากินกันไหม?”
บุริศร์ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เขายังคงมองมาที่นรมนอย่างอ่อนโยน แต่กลับทำให้นรมนก้มหน้าหลบสายตา
“ขอโทษนะ”
“ไม่ต้องขอโทษ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรมา ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเป็นยังไง ผมก็จะอยู่เคียงข้างคุณ นรมน คุณต้องเชื่อมั่น เราเป็นสามีภรรยากัน ผมจะไม่ทอดทิ้งคุณ และจะไม่มีทางรำคาญคุณเพียงเพราะคุณเคยมีความหลังกับสิ่งที่เจอ คุณยังคงเป็นนรมนคนเดิมในใจผม คุณยังเป็นผู้หญิงที่วันๆเอาแต่ไล่ตามจีบตามบอกชอบผมคนนั้น”
บุริศร์พูดออกมาอย่างจริงใจ จู่ๆนรมนก็รู้สึกอยากร้องไห้
นี่เธอกลายเป็นคนอ่อนแอจริงๆแล้วใช่ไหม ทำไมถึงเอาแต่จะร้องไห้ตลอดเลยล่ะ?
“ขอบคุณนะ”
นรมนก้มหน้าลง เมื่อบุริศร์นั่งลงข้างๆตัวเอง ก่อนหน้านี้ขาเรียวยาวของเธอยังเกี่ยวแข้งเกี่ยวขากับเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้เธอสกปรกไปทั้งตัว เมื่อต้องมานั่งข้างๆบุริศร์อย่างนี้จึงมีแต่ความละอายใจ
“คุณขยับไปหน่อย เดี๋ยวฉันกินเอง”
นรมนรู้สึกว่าตัวเองเป็นขอทาน ส่วนบุริศร์คือราชาผู้สูงส่ง ทั้งสองไม่คู่ควรกันเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่รู้ว่าเมื่อครู่เธอไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้ทำให้เธอกล้านัวเนียกับบุริศร์แบบนั้น
ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาแล้ว
บุริศร์รู้สึกได้ถึงความท้อถอยของนรมน เขาไม่ได้ยื่นชามไปให้เธอ แต่พูดเสียงเบาว่า “ผมอยากป้อนคุณ เห็นแก่ความต้องการของผมได้ไหม?”
แล้วนรมนจะปฏิเสธด้วยเหตุผลอะไรได้?
เธอพยักหน้า
ตอนที่บุริศร์ยื่นช้อนเข้ามาป้อน ความรู้สึกสะอิดสะเอียนก็ตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง
นรมนไม่อยากหลุดการควบคุมต่อหน้าบุริศร์ เธอจึงพยายามอดทน เมื่อบุริศร์ป้อนโจ๊กเข้าปากเธอ เธอก็ค่อยๆเคี้ยว แต่กลับรู้สึกมวลท้องไปหมด
ไม่ได้!
จะหลุดอาการต่อหน้าบุริศร์ไม่ได้!
จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถกินอะไรได้ ไม่อย่างนั้นบุริศร์ต้องรู้สึกผิดกว่าเดิมแน่ๆ
เธอไม่เคยอยากให้บุริศร์รู้สึกผิดเลยสักครั้ง!
นรมนพยามข่มมันเอาไว้ ตอนที่บุริศร์กำลังจะป้อนคำที่สอง เธอก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่อยากกินแล้ว”
ของโรดที่เคยชอบที่สุด ตอนนี้กลับทำให้เธอกลืนลงไปอย่างยากลำบาก
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป บางทีอาจจะป่วยแล้วจริงๆ
นรมนไม่กล้ามองตาบุริศร์
เขาจะคิดว่าเธอเอาแต่ใจไหม?
หรือคิดว่าเธอกำลังงอแงหรือเปล่า?
แต่เธอกินไม่ลงจริงๆ
แต่เรื่องที่เหนือความคาดหมายก็คือ บุริศร์ไม่ได้บังคับให้เธอกินแต่ แต่กลับกินส่วนที่เหลือลงไปแทน
เมื่อนรมนเห็นเขาไม่ถือโกรธอะไร ดวงตาของเธอก็รื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง
“ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ”
เธอรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ขนาดผ้าห่มที่คลุมเอาไว้ตกลงบนพื้นยังไม่สนใจ
“ผมไม่สน ผมจะรักษาคุณให้หาย”
“ไม่หายหรอก บุริศร์ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง ฉันเองก็ไม่อยากให้คุณรู้ด้วย คุณอย่าถามเลย แล้วก็เลิกสนใจฉัน ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม?”
ความดีใจที่บุริศร์ช่วยเธอออกมาได้ ในตอนนี้ไม่มีเหลือแล้ว
เธอเพิ่งค้นพบว่า ถึงบุริศร์จะช่วยเธอออกมาได้แล้ว แต่เธอกับเขาก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เรื่องราวน่ากลัวพวกนั้นเป็นเหมือนกริชที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเธอ คงยากที่จะเลือนหายไปจากร่างกายของเธอ
บุริศร์กำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นนรมนในตอนนี้ เขาจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ “คุณคือนรมนในใจของผมเสมอ อย่าปล่อยให้เรื่องราวพวกนั้นครอบงำคุณสิ ผมเสียกานต์ไปแล้วคนหนึ่ง ไม่อยากเสียคุณไปอีก อีกอย่างนะนรมน กมลก็อยู่ที่นี่ อยู่ห้องข้างๆคุณนี่เอง คุณอยากให้ลูกมาเห็นคุณเป็นแบบนี้จริงๆเหรอ?”
“ไม่ ! ไม่ได้!”
ทันใดนั้นนรมนก็แตกตื่นทันที
เธอจะให้กมลเห็นสภาพของเธอแบบนี้ไม่ได้ ลูกต้องตกใจแน่ๆ
“บุริศร์ คุณอย่าบังคับฉันได้ไหม? ขอร้องล่ะอย่าบังคับฉันเลย”
นรมนนั่งคู้ตัวอยู่บนปลายเตียงเหมือนเด็กถูกทิ้ง
บุริศร์จะเดินเข้าไปหา เธอก็ถอยหลัง จนแทบจะตกขอบเตียงอยู่รอมร่อ บุริศร์จึงจำต้องหยุดเดิน
“ได้ ผมจะไม่บังคับคุณ ผมจะอยู่ข้างนอก ถ้าคุณคิดว่าให้ผมอยู่ข้างนอกตลอดทั้งคืนแล้วมันดี คุณก็อย่าสนใจผมเลย” พูดจบบุริศร์ก็หันหลังเดินออกไป
หัวใจของนรมนหนักอึ้ง
ความจริงแล้วเธออยากให้บุริศร์อยู่ด้วย
แต่ถ้าให้เขาอยู่แล้วเธอจะพูดอะไร?
จะให้เธอเอาอดีตเลวร้ายเหล่านั้นพูดออกมาทั้งหมดเหรอ?
ไม่!
ไม่ได้!
ไม่ได้เด็ดขาด!
นรมนฝังหน้าลงบนผ้าห่มแล้วร้องไห้ออกมาเสียงเบา
ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
เมื่อบุริศร์ได้ยินเสียงร้องไห้ของนรมนดังออกมาข้างนอก หัวใจก็ยิ่งเป็นทุกข์
เมื่อพฤกษ์เห็นเขายืนอยู่หน้าประตู ก็ลังเลว่าควรเดินไปหาหรือไม่ ทว่าบุริศร์กลับเห็นเขาเสียก่อน
“จัดการเรื่องหนึ่งให้ฉันหน่อย”
“พูดมาเลยครับ”
“ไปบอกไมค์ว่า ฉันไม่สนว่าเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังFallen heavenเป็นใคร ฉันต้องการซื้อไนต์คลับที่นั่น ราคาเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา”
การตัดสินใจของบุริศร์ทำให้พฤกษ์อึ้ง
ประธานบุริศร์จะซื้อFallen heavenเหรอ! นี่มันอะไรกัน? หรือว่าจะเกี่ยวกับคุณนาย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...