แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 199

บทที่ 199 ทั้งชีวิตนี้ ผมขาดคุณไปไม่ได้

นรมนยอมพูดออกมา แต่สำหรับบุริศร์แล้วเขาไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรขนาดนั้น เขารู้สึกได้ถึงความขัดแย้งในใจของนรมน เพราะเขา เธอถึงยอมโอนอ่อนให้

นรมนที่เป็นแบบนี้เหมือนนรมนเมื่อห้าปีก่อน ที่ไม่เคยใช้ชีวิตตามความชอบของตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับความชอบของบุริศร์ทั้งหมด บุริศร์เคยมีความสุขกับช่วงเวลาแบบนี้มาก. รู้สึกว่าการถูกผู้หญิงคนหนึ่งหลงรักช่างเป็นเกียรติมากๆ แต่ตอนนี้เมื่อเขาเองก็รักเธอแล้วเหมือนกัน ถึงได้พบว่า การที่สูญเสียความเป็นตัวเองเพื่อคนที่รัก เป็นอะไรที่หมดแรงและเศร้าใจเป็นอย่างมาก

 

บุริศร์ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง จนนรมนแปลกใจ

"ทำไมเหรอ?"

"ไม่ต้องนึกถึงแต่ผม. คุณอยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น สิ่งที่ผมต้องการคือภรรยาอย่างคุณ. คุณที่เป็นตัวของคุณ ไม่ใช่คุณที่ยอมทิ้งความเป็นตัวเองเพื่อผม ไม่ว่าคุณอยากทำอะไร ผมก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ"

เสียงพูดของบุริศร์ไม่ได้ดังมาก แต่มีความทุ้มต่ำและแหบแห้ง ทว่านรมนกลับรู้สึกซาบซึ้งแปลกๆ

ทันใดนั้นเธอก็พบว่าการทุ่มเทของตัวเองเมื่อห้าปีก่อนบางทีอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่ตัวเองคิดก็ได้

เธอในตอนนั้นเอาแต่คอยไล่ตามบุริศร์ คอยเฝ้ามองแผ่นหลังของเขา คอยเพ้อฝันว่าจะมีสักวันที่บุริศร์จะหยุดเดินแล้วหันกลับมามองเธอที่ต่ำต้อย แร่เธอไม่เคยสำนึกได้เลยว่า ความรักแบบนี้มันคือความโรคจิต เป็นความรักที่ไร้ค่าเป็นอย่างมาก

ถ้าอยากให้คนคนหนึ่งรักคุณ คุณต้องให้เขาได้เห็นความดีของคุณ แต่ไม่ใช่สูญเสียความเป็นตัวเองไปเพื่อเขาทั้งหมด

นรมนเมื่อห้าปีก่อนก็คือตุ๊กตาล้มลุก ที่ไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง มีแต่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บุริศร์หันมามองเธอ ต่อให้จะเป็นเพราะความสงสารก็ไม่เป็นอะไร

ครั้งหนึ่ง เธอก็เคยเป็นลูกรักพระเจ้าเหมือนกัน ไม่ว่าจะในโรงเรียน ในมหาลัย เธอก็จะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆเสมอ แต่ว่าตั้งแต่ที่ได้เจอกับบุริศร์ ตั้งแต่ที่ตกหลุมรักเขา เธอก็สูญเสียความเป็นตัวเองไปทั้งหมด

ในแปดปีที่ผ่านมา. พอตอนนี้นึกย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าความทรงจำที่เป็นตัวเองจริงๆจะมีอยู่น้อยมาก

เธอไม่เคยกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ยกระดับตัวเอง และไม่เคยพยายามให้ตัวเองคู่ควรกับบุริศร์ เพื่อให้ได้เดินเคียงคู่กับบุริศร์. มัวแต่เสียเวลาอยู่กับการคิดว่าความรักของตัวเองต่ำต้อยอยู่หลายปี จนตัวเองดูไร้ค่า

แล้วเธอที่เป็นแบบนี้จะไปคู่ควรกับบุริศร์ได้ยังไง?

เธอที่เป็นแบบนี้คู่ควรที่จะยืนเคียงข้างเขาหรือ? จะสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเธอเป็นภรรยาของบุริศร์ได้ยังไง?

บุริศร์คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ต้องการผู้หญิงแบบไหนคิดว่าจะหาไม่ได้เลยเหรอ? หรือเพราะเธอรักเขา เลยต้องให้บุริศร์รับผิดชอบความรู้สึกของเธอเหรอ?

ไม่!

ตอนนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ไปรั้งให้บุริศร์หยุดอยู่ที่เธอ!

แต่เหมือนสววรค์จะเห็นใจ ตอนนี้บุริศร์ถึงได้หวั่นไหว และรักเธอในที่สุด จะความรักจริงๆ หรือจะเป็นเพราะรู้สึกผิดก็ไม่เป็นไร. นรมนไม่อยากไปคิดเรื่องไร้สาระพวกนี้มาก เธอรู้แค่ว่าตอนนี้เธอสามารถได้อยู่ข้างๆบุริศร์ก็ถือเป็นโอกาสแล้ว

ไม่ว่าเมื่อก่อนเธอจะเหลืออดเหลือทนขนาดไหน ไม่ว่าเธอจะเคยทำผิดพลาดมามากเท่าไหร่. ตอนนี้เธอมีโอกาสเริ่มต้นใหม่กับบุริศร์ก็เพียงพอแล้ว

หลังจากที่นรมนคิดได้. จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองในอดีตช่างหาเรื่องใส่ตัวเก่งจริงๆ ถ้าเธอคิดได้ไวกว่านี้อีกหน่อย เธอกับบุริศร์ก็คงไม่เป็นเหมือนอย่างตอนนี้ใช่ไหม?

เธอต้องขอบคุณเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อน อย่างน้อยก็ทำให้เธอไม่ต้องเสียผู้ชายคนนี้ไป และเธอก็รู้สึกขอบคุณตัวเอง ที่เวลาผ่านไปตั้งห้าปี. แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อบุริศร์ก็ยังคงหนักแน่นเหมือนหินผา มากไปกว่านั้นเธอรู้สึกขอบคุณอุปสรรคในครั้งนี้ เพราะมันทำให้เธอได้รับรู้ว่าผู้ชายที่ไขว่คว้ามาได้ยากอย่างบุริศร์ คุ้มค่ากับการทุ่มเทของเธอ และคู่ควรที่จะกุมมือด้วยไปตลอดชีวิต

นรมนไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จนกระทั่งถึงตอนนี้เธอได้รู้แล้ว

เธอต้องการผู้ชายคนนี้!

ไม่เพียงแค่ต้องการให้เขาอยู่ข้างๆ แต่ยังต้องการหัวใจ ความรัก และทั้งชีวิตของเขา!

แต่เธอไม่ได้เรียกร้อง บนเส้นทางชีวิตที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางทุ่มเทเพื่อคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลหรอก ต่อให้คนนั้นจะเป็นคนที่ตัวเองรักที่สุด. ดังนั้นถ้าต้องการให้สมน้ำสมเนื้อกัน. ก็ต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น และต้องทดสอบตัวเอง

นรมนถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่แววตากลับเป็นประกายมากกว่าเดิม

เธอละสายตากลับมาจากบุริศร์ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นเธอก็เห็นว่าท้องฟ้าข้างนอกเป็นสีครามสดใส แสงแดดกำลังอบอุ่น วิวก็ดูสวยงาม

ทุกอย่างสวยงามถึงเพียงนี้แล้วทำไมไปต้องปฏิเสธและผลักไสล่ะ?

นรมนยิ้มบางๆ ในรอยยิ้มประดับไปด้วยความโล่งใจและความปล่อยวาง

บุริศร์นิ่งอึ้ง และสับสน

นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นนรมนยิ้ม ตั้งแต่ที่เธอกลับมาจนถึงตอนนี้เธอเอาแต่เก็บกด ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง

ในเวลานี้เธอยิ้มแล้ว

ราวกับว่าท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีสดใสเพื่อเธอ

เมฆครึ้มที่ลอยอยู่ในใจของเขาค่อยๆจางหายไป

บุริศร์ไม่รู้ว่านรมนคิดอะไรได้ แต่ว่าความเงียบสงบและความโล่งใจในเวลานี้ทำให้อารมณ์ของเขาผ่อนคลาย

เขานั่งลงข้างๆนรมน แล้วถามเสียงเบาว่า “ยังต้องการจิตแพทย์อยู่ไหม?”

นรมนส่ายหน้า “จิตแพทย์ทำได้แค่ชี้นำ ถ้าตัวฉันไม่คิดจะเผชิญหน้ากับมัน ก็คงไม่ได้ผลอะไร บุริศร์ ขอบคุณนะ”

คำขอบคุณไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้บุริศร์งุนงง

บางทีการจากไปของลูก ก็ทำให้เขารู้สึกผิดและโทษตัวเองยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เมื่อได้เห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของนรมนอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าอาการใจเต้นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนกำลังย้อนกลับคืนมา

ในระยะเวลาครึ่งปี เจอทางคดเคี้ยวมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ในวินาทีนี้ หัวใจสองดวงกำลังโอบกอดกันไว้ แค่สื่อความหมายทางแววตาก็สามารถทำให้รู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ

บุริศร์กอดนรมนเอาไว้ในอ้อมกอด พูดเสียงแผ่วเบาว่า “รู้อะไรไหม? ครั้งแรกที่ได้เจอคุณ คุณโดดเด่นมาก ใครก็ไม่สามารถเทียบคุณได้เลย ทุกคนกลายเป็นตัวประกอบไปหมด ตอนนั้นผมยังคิดเลยว่า ยัยบ๊องนี่มหัศจรรย์จริงๆ แต่ว่าแปดปีหลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้เจอคุณในรูปแบบนั้นอีกเลย ผมถึงขนาดคิดว่าการแต่งงานของเราทำให้คุณเปลี่ยนไปเป็นคนไม่มีชีวิตชีวา เป็นผมที่ทำให้คุณสูญเสียความสดใสไปหรือเปล่า ตอนนี้พอได้เห็นว่าคุณกลับมาเป็นเหมือนอย่างตอนนั้นได้ ผมจึงเชื่อว่า คุณจะสามารถเอาชนะตัวเองได้ ใช่ไหม?”

นรมนแปลกใจ จึงรีบถามขึ้นมาว่า “ครั้งแรกที่คุณเจอฉันไม่ใช่ที่งานปาร์ตี้เหรอ?”

“ครั้งแรกที่ผมเจอคุณ คือตอนที่คุณขึ้นรับรางวัลเพราะวาดรูปชนะต่างหาก”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนช็อกอยู่เป็นเวลานาน

ที่แท้เขาก็เคยเจอเธอมาก่อนแล้วนี่เอง

ที่แท้การเจอกันครั้งแรกของเธอและเขามันวิเศษแบบนี้นี่เอง

นรมนยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“ยังดีที่ไม่ใช่ที่ปาร์ตี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงอายแย่”

บุริศร์กระชับกอดเธอเบาๆ แล้วพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ถ้าตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เจอกัน ผมคงไม่เลือกแต่งงานกับคุณหรอก””

“แล้วแปดปีที่ผ่านมา ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย?”

“ทุกกอย่างมันผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้มันจะดีขึ้นกว่าเดิม เชื่อผมนะ ลูกสาวของเราต้องผ่าตัดสำเร็จ เราต้องหาลูกชายของเราเจอ กิจจาก็จะเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข ชีวิตของเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

บุริศร์พูดถึงการหายตัวไปของกานต์อย่างไม่หลีกเลี่ยง

ลูกหายไป ไม่ใช่ว่าจะตามหากลับมาไม่ได้ พวกเขาคือสามีภรรยา ต้องแบ่งเบาเรื่องราวของลูกร่วมกัน ต่อให้จะเป็นเรื่องแบบนี้ก็ตาม

นรมนเริ่มรู้สึกเศร้า

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของกานต์เลย สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด แต่ว่าเธอรู้ดี ว่าสิ่งที่ต้องจัดการในตอนนี้ก็คือรักษาตัวเองให้หายดีก่อน

ถ้าเธอล้ม แล้วจะสามารถเดินต่อไปพร้อมกับลูกๆและบุริศร์ได้ยังไง?

นรมนถอนหายใจออกมา “คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าตกลงแล้วฉันเจออะไรมาถึงได้กินอะไรไม่ลงแบบนี้?

“ถ้าคุณไม่อยากพูดก็ไม่ต้องฝืนหรอก คุณอยากพูดเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมฟังเมื่อนั้น ต่อให้คุณจะพูดหรือไม่พูด ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อยู่ดี ผมอยากอยู่ข้างๆคุณและคอยปกป้องคุณ ความรู้สึกนี้จะคงอยู่ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาว่า “ฉันว่าบอกคุณดีกว่า บางทีถ้าฉันพูดออกไปอาจจะแก้ปมในใจของฉันได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย