บทที่2 บุริศร์ คุณใจร้ายมาก
“นรมน คุณกลับไปก่อน เรื่องนี้ผมจะกลับไปคุยกับคุณ”
บุริศร์วางสายโทรศัพท์ หว่างคิ้วเขามีรอยย่นขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขาตกอยู่ในความวิตกกังวลอย่างมาก แต่นั่นไม่ใช่อารมณ์ที่มีต่อภรรยาของเขา
นรมนผลักเขาออกอย่างเย็นชา
“คุณไปเถอะ ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรเธอก็ยังเป็นคนสำคัญสำหรับคุณ”
แต่หัวใจเธอนั้นนองไปด้วยเลือด
บุริศร์จะพูดอะไรได้ ที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ในที่สุดแล้วเขาก็หยุดรถแท็กซี่คันหนึ่ง ส่งเธอขึ้นรถไป และรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
นรมนยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น
ผู้ชายที่เฝ้าคิดถึงคนอื่นในใจมาตลอดอย่างนั้น การแต่งงานเช่นนี้ เธอจะพยายามฉุดรั้งไว้เพื่ออะไร
หลังจากกลับถึงบ้าน คนรับใช้กล่าวทักทายนรมน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ
นรมนรอบุริศร์ทั้งคืน
แม้แต่โทรศัพท์สักสายเขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ความเย็นชาเช่นนี้เป็นเหมือนหนามทิ่มแทงหัวใจของนรมน
"ลูกที่รัก แม่ขอโทษ แม่ไม่สามารถให้บ้านที่สมบูรณ์กับลูกได้ แต่หนูวางใจได้ แม่จะรักลูกให้มากยิ่งขึ้นไปอีก"
น้ำตาของเธอไหลนองเต็มหน้า อย่างไรก็ตามหนังสือข้อตกลงการหย่าร้างได้ถูกลงนามในชั่วข้ามคืน
ทุกเส้นลายมือล้วนออกมาจากใจของเธอ เลือดไหลซิบเป็นทาง
นรมนเซ็นชื่อเสร็จเรียบร้อย เธอก็ถอดแหวนแต่งงานที่บุริศร์มอบไว้ให้เธอออก วางไว้ข้างหนังสือข้อตกลงการหย่า
ก่อนหน้านี้เธอรักหวงแหนแหวนวงนี้ยิ่งกว่าอะไร ระยะเวลาสามปี แหวนได้ทิ้งร่องรอยไว้บนนิ้วของเธอ แม้วันนี้จะถอดออกมาแล้ว แต่ร่องรอยก็ยังคงอยู่ เหมือนกับความรักที่มีให้กับบุริศร์ ที่ได้ทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้ ทำอย่างไรก็ลบมันออกไปไม่ได้
นรมนรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ประโยชน์ เธอกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน เธอยกกระเป๋าเดินทางและเดินออกจากบ้านไปอย่างแน่วแน่
“คุณผู้หญิงครับ ร่างกายของคุณเขมิกายังไม่ค่อยแข็งแรง ประธานบุริศร์เลยอยู่เป็นเพื่อนเธอ ประธานบุริศร์กำชับว่าให้พาคุณผู้หญิงออกนอกประเทศ ให้ออกเดินทางตอนนี้ครับ”
ขณะนรมนกำลังจะออกประตูไป เธอก็ถูกบอดี้การ์ดของบุริศร์หยุดไว้ระหว่างทาง คำพูดที่ออกมานั้นทำให้นรมนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
“ทำไมฉันต้องออกนอกประเทศ ฉันไม่ไป!”
“ขอโทษด้วยครับคุณผู้หญิง ประธานบุริศร์สั่งไว้ เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ!”
บอดี้การ์ดพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้นเขาก็ทำให้นรมนสลบและลากเธอเข้าไปในรถ
เธอถูกพาตัวไปที่โกดังร้าง จากนั้นก็ถูกถอดเสื้อผ้าออก ชายคนหนึ่งนั่งลงที่ด้านข้างเธอและลูบไล้เธอ เสียงกล้องที่ด้านข้างดังแชะแชะ การโพสต์ท่าต่างๆที่น่าอายถูกถ่ายเอาไว้
“คุณเขมิกา ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
หลังจากคนข้างกายถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบโทรไปรายงานเขมิกา
เขมิกาหัวเราเยาะเย้ยและพูดว่า “ดีมาก ฉันจะเอารูปพวกนี้โพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ฉันไม่เชื่อว่าบุริศร์จะยังต้องการภรรยาที่สวมเขาให้เขา หลังจากออกมาแล้วก็จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยล่ะ”
“บุริศร์ ฉันเกลียดคุณ! ชีวิตนี้ฉันตาบอดเองที่ตกหลุมรักผู้ชายเลือดเย็นอย่างคุณ ถ้าหากมีชาติหน้า ฉันจะให้คุณได้ลิ้มรสชาติของการถูกฆ่าโดยคนที่ตัวเองรัก!”
ไฟที่โหมกระหน่ำกำลังกลืนกินคำพูดของเธอ เธอรู้สึกว่าหายใจลำบาก เปลือกตาก็หนักขึ้น เธอรับไม่ไหวอีกต่อไปล้มลงกับพื้น ปล่อยให้ไฟเผาไหม้ผิวหนังของเธอ กลืนกินวิญญาณของเธอไป...
ห้าปีต่อมา
ผู้ช่วยพฤกษ์นำเอกสารในมือยื่นให้กับบุริศร์
“ประธานบุริศร์ครับ นี่คือข้อมูลสถาปนิกที่ทางบริษัทHJกรุปสหรัฐอเมริกาส่งมา ได้ยินว่าจะมาถึงเมืองชลธีวันนี้ เราจะจัดคนไปรับดีหรือไม่ครับ ได้ยินว่าสถาปนิกคนนี้มีชื่อเสียงมากในต่างประเทศ เป็นคนออกแบบรถสปอร์ตหายาก ถ้าหากว่าครั้งนี้ได้ร่วมงานกับHJกรุปล่ะก็ พวกเขาคงไม่ยอมให้นักออกแบบคนนี้มาแนะนำพวกเราทางนี้”
“แคทเธอรีหรอ”
นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของบุริศร์ค่อยๆฉายแววออกมา
“ใช่ครับ สถาปนิกแคทเธอรี”
พฤกษ์รีบพยักหน้า
สถาปนิกแคทเธอรีเป็นนักออกแบบรถสปอร์ตที่เพิ่งมารับช่วงต่อเมื่อสองปีที่ผ่านมา ว่ากันว่าการออกแบบของเธอครั้งแรก รถสปอร์ต “ปีกแห่งรัก” ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบนานาชาติ ขนาดรถสปอร์ตคันนี้ยังไม่ออกสู่ท้องตลาด ลูกค้าผู้มีอิทธิพลต่างก็แย่งกันจับจอง แต่ได้ยินว่าแคทเธอรีจะผลิตแค่เพียงสองคัน มูลค่านั้นยิ่งแพงมหาศาล แต่อย่างไรก็ตามอภิมหาเศรษฐีมากมายต้องการลงเงินเพื่อที่จะจับจอง”
วันนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัทHJกรุปจำกัด แคทเธอรีมาที่เมืองชลธีด้วยตัวเอง บุริศร์เองก็ชอบรถสปอร์ตเป็นอย่างมาก พฤษก์จึงแจ้งเขาในเรื่องนี้ ถ้าหากสามารถให้แคทเธอรีมาอยู่กับบริษัทฮัวยูกรุปจำกัดได้ ถ้าอย่างนั้น....
นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของบุริศร์ค่อยๆฉายแววขึ้นอีกครั้ง
เขาหยิบข้อมูลของแคทเธอรีขึ้นมาดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเขาได้เห็นชื่อจีนของแคทเธอรีแล้วทันใดนั้นเขาก็เหมือนถูกสะกดเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...