บทที่ 221 เขาไปยั่วโมโหตอนไหน
ดูเหมือนพระอาทิตย์จะเขินอายฉากตรงหน้า หลบหลังก่อนเมฆไปอย่างช้าๆ ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดจึงไม่มีใครได้สังเกต จนเมื่อเสียงเด็กน้อยดังขึ้น
“แด๊ดดี้ หม่ามี้ ทั้งสองคนกำลังจูบกันหรือคะ? กมลก็อยากจูบด้วย!”
ไม่รู้ว่ากมลกลับมาตอนไหน นรมนกับบุริศร์ต่างตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นฉับพลัน
ส่วนมือของบุริศร์ยังคงอยู่บนเสื้อของนรมน เมื่อได้ยินเสียงของลูกสาวก็รีบดึงกลับมาทันที
นรมนเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อต กระโดดลงจากตักของบุริศ์อย่างรวดเร็ว
“กมล ลูกกลับมาได้อย่างไรคะ?”
นรมนรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนผ่าว ไฟแทบจะลุกขึ้น
ไม่รู้ว่าลูกสาวเห็นอะไรบ้าง ช่างหน้าอายจริงๆ
บุริศร์ก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย โดนลูกสาวของตนเองเห็นเข้า ความรู้สึกแบบนี้ไม่ดีจริงๆ เขาตกใจจนแทบจะกลายเป็นขันที
กมลกระพริบดวงตากลมโต กล่าวด้วยความไร้เดียงสาสุดๆ:“พี่กิจจาเข้าห้องน้ำ หนูเลยออกมาตามหาแด๊ดดี้กับหม่ามี้ไปเล่นด้วยกัน ว่าแต่เมื่อกี้ทั้งสองคนทำอะไรกันคะ ?กำลังจูบกันอยู่หรือ? หนูก็อยากจูบด้วย!”
พูดจบ กมลจะปีนขึ้นมาบนตัวของบุริศร์
ตอนนี้บุริศร์กระอักกระอ่วนแทบแย่
ไฟที่ถูกปลุกโดยนรมนยังไม่ทันดับลง หากโดนลูกสาวเห็นเข้า จะอธิบายอย่างไร
“กมล แด๊ดดี้ติดธุระนิดหน่อย และอยากไปเข้าห้องน้ำ ให้หม่ามี้เล่นเป็นเพื่อนหนูก่อนดีไหม?”
ประธานบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดที่สง่างาม เมื่อเผชิญหน้ากับลูกสาวอายุสี่ขวบคิดไม่ถึงว่าต้องการจะหลบหนี
ทั้งๆที่มีท่าทางน่าหัวเราะ แต่นรมนกลับหัวเราะไม่ออก เพราะเธอก็ทำตัวไม่ถูกเช่นเดียวกัน
กมลกลับดูเหมือนจะชอบบุริศร์มาก รีบคว้ามือของเขาเอาไว้ทันที:“แด๊ดดี้ หนูไปห้องน้ำด้วย”
“ไม่ได้”
บุริศร์ตกใจ
“ทำไมไม่ได้? แด๊ดดี้ไม่ชอบกมลหรือคะ?”
ดูเหมือนกมลกำลังจะร้องไห้
บุริศร์รีบพูดปลอบโยนเธอ:“ไม่ใช่ครับลูก กมลเป็นเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงเข้าห้องน้ำกับเด็กผู้ชายไม่ได้ เข้าใจไหมครับ?”
“แล้วทำไมหม่ามี้ถึงเข้าห้องน้ำกับแด๊ดดี้ได้ล่ะคะ?”
คำพูดของกมลทำให้นรมนแทบจะเอาหน้ามุดดินอีกครั้ง
เธอไปเข้าห้องน้ำกับบุริศร์ตอนไหน?
บุริศร์กลับหน้าแดงเล็กน้อย แม้จะเป็นคนหน้าด้านก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกสาว มองเห็นดวงตากลมโตที่ใสซื่อของเธอ เขาก็ไม่สามารถอธิบายได้
“แด๊ดดี้กับหม่ามี้ไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันอย่างไรคะ?พวกเราไม่ใช่คนในครอบครัวหรือไง?”
กมลเพื่อนตัวน้อยพยายามตั้งคำถามอย่างใจจดใจจ่อ ถามจนถึงที่สุด
บุริศร์หันไปมองนรมนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่นรมนทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที
ตลกน่ะ!
เรื่องแบบนี้เธอจะอธิบายกับกมลอย่างไร?
บุริศร์กลุ้มใจ
เคยเจอภรรยาที่ไว้วางใจไม่ได้แบบนี้หรือไม่?
แต่เผชิญหน้ากับสีหน้าท่าทางของกมลในตอนนี้ บุริศร์ไม่รู้จริงๆว่าควรทำอย่างไรดี
“เป็นคนในครอบครัว เพียงแต่ว่าคนในครอบครัวแตกต่างกัน รอกมลโตขึ้น เจอคนที่ตนเองชอบ หลังจากแต่งงานกลายเป็นภรรยาของเขา ก็สามารถจูบและเข้าห้องน้ำด้วยกันได้”
“โอ้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”
กมลพยักหน้าดูเหมือนจะเข้าใจ
ในที่สุดบุริศร์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พบว่าหน้าผากของตนเองมีเหงื่อซึมออกมา
แต่ในขณะที่เขาคิดว่าจัดการสภาวะคับขันไปแล้ว กมลก็ตบศีรษะของตนเองอย่างฉับพลันและกล่าวว่า:“หนูตัดสินใจแล้ว หนูจะแต่งงานกับแด๊ดดี้เมื่อโตขึ้น!”
คำพูดนี้ทำให้นรมนสำลักออกมา
เธอไอออกมาอย่างรุนแรง
กมลหันหน้าไป มองเห็นท่าทางของนรมน จึงเอ่ยถามอย่างกังวลเล็กน้อย :“หม่ามี้ หม่ามี้ไม่เห็นด้วยหรือคะ?”
นรมนร้องไห้ไม่ออก
ลูกสาวของตนเองโผล่มาแย่งผู้ชายของเธอ นี่มันอะไรกัน?
“ลูกแต่งงานกับแด๊ดดี้ไม่ได้”
“ทำไมคะ?”
“เพราะว่าเขาคือแด๊ดดี้ของลูก!”
นรมนไม่รู้ว่าจะยืนกรานกับกมลอย่างไร ทำได้เพียงพูดแบบนี้
กมลทำปากมุ่ย กล่าวด้วยความไม่พอใจ:“ทำไมหม่ามี้เป็นแบบนี้ ?หนูก็อยากจูบกับแด๊ดดี้ อยากเข้าห้องน้ำกับแด๊ดดี้ หม่ามี้จะมายึดครองแด๊ดดี้คนเดียวได้อย่างไร?”
นรมนร้องไห้ไม่ออก
ใครก็ได้มาเอาปีศาจตัวนี้ไปที!
จู่ๆบุริศร์ก็อยากหัวเราะขึ้นมา แต่เมื่อเห็นสายอันดุร้ายของนรมนจ้องมองอยู่ เขารีบไอออกมาและกล่าวว่า:“กมล ระหว่างแด๊ดดี้กับลูกสาวไม่สามารถแต่งงานกันได้”
“ทำไมคะ?”
“เพราะว่า……”
อยู่ๆบุริศร์ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร พูดเรื่องจริยธรรมกับเด็ก เธอไม่มีทางเข้าใจ แต่ควรจะอธิบายอย่างไร?
กมลมองเห็นบุริศร์มีท่าทางลำบากใจเช่นนี้ จึงถอนหายใจและกล่าวว่า:“ก็ได้ค่ะ หนูจะไม่แต่งงานกับแด๊ดดี้แล้ว”
“ดีมาก!”
บุริศร์รู้สึกโล่งใจอีกครั้ง
กมลพูดต่อว่า:“งั้นหนูจะแต่งงานกับพี่กิจจา!หนูจะไปจูบกับพี่กิจจา และเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนเขา”
พูดจบ กมลก็หันตัวเดินไปจริงๆ
คราวนี้นรมนกับบุริศร์ตกใจมาก
“กมล ไม่ได้นะ!”
“ลูกรัก ลูกกับกิจจาก็ไม่ได้ นั่นคือพี่ชายของลูก!”
บุริศร์กับนรมนไล่ตามหลังกมล กลัวจะทำให้กมลตื่นตระหนก จึงทำได้เพียงตามไปอย่างช้าๆ
“หนูไม่ลง!”
กมลกอดกิจจาแน่น จนเขาหายใจไม่ออก
“แค่กๆ กมล เธอรัดพี่แน่นเกินไปแล้ว ปล่อยมือ ปล่อยมือเร็วเข้า!”
กิจจาเริ่มร้องขอความเมตตา
กมลได้ยิน ก็รีบปล่อยมือ
“พี่กิจจา พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
กิจจาจับกางเกงวิ่งหนีไป
พูดเป็นเล่น ขืนยังอยู่ต่อ เขาอาจจะถูกกมลจับเปลื้องผ้าจริงๆ
กมลเห็นกิจจาวิ่งหนีไปอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้สึกมึนงงเล็กน้อย หลังจากได้สติ เธอก็ร้องไห้ออกมา
“พี่กิจจาไม่ชอบหนูแล้ว!แง้ๆ!”
เสียงร้องไห้ของกมลเหมือนเป็นเสียงร้องไห้จากผีสางเทวดาที่น่าตกใจ ทำให้บุริศร์กับนรมนร้องไห้อย่างลุกลี้ลุกลน แม้แต่คุณนายโตเล็กก็ร้องไห้เดินเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น?ใครทำให้เจ้าหญิงตัวน้อยของพวกเราเสียใจ?”
คุณนายโตเล็กรีบเข้ามา
กมลมองเห็นคุณนายโตเล็ก รีบพุ่งเข้าไปหาทันที ร้องไห้ด้วยความน้อยใจและกล่าวว่า:“คุณย่า แด๊ดดี้กับหม่ามี้แอบจูบกัน ไม่มาเล่นเป็นเพื่อนหนู หนูบอกว่าจะแต่งงานกับพี่กิจจา แต่พวกเขาไม่อนุญาต แถมยังทำให้พี่กิจจาวิ่งหนีไป คุณย่า พวกเขาทั้งสองคนรังแกหนูค่ะ!”
การฟ้องของยัยเด็กคนนี้ ทำให้บุริศร์กับนรมนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
กมลไม่รู้เรื่องอะไร แต่คุณนายโตเล็กไม่ได้โง่
คุณนายโตเล็กจ้องมองพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมและกล่าวว่า:“ไม่มีสมบัติผู้ดีสักนิดเดียว ใส่หัวกลับห้องของพวกเธอไปซะ”
“แม่ กมลเธอ……”
บุริศร์กำลังจะพูด แต่คุณนายโตเล็กกล่าวอย่างเย็นชาว่า:“ทำไม?แกจะปลอบหรือ? งั้นมาสิ”
“ให้แม่ปลอบดีกว่าครับ”
บุริศร์จูงนรมนหนีออกมาจากห้องของกมล วิ่งออกมาไกลมากก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ
“ที่รัก เด็กคนนี้ทำไมถึงร้องไห้เก่งแบบนี้?”
บุริศร์ตกใจเล็กน้อย
แต่นรมนกลับเตะขาของเขาอย่างโหดเหี้ยม
“โอ้ย!”
บุริศร์ไม่ทันตั้งตัว โดนเตะเข้าอย่างจัง ร้องโหยหวนทันที
“ทำอะไรเนี่ย?”
“เพราะคุณคนเดียว! หลังจากนี้ฉันจะสู้หน้าคนอื่นได้อย่างไร?”
นรมนหันตัวและวิ่งออกไป
บุริศร์หดหู่ใจไม่หาย
เขาไปยั่วโมโหตอนไหน
“ไม่ใช่นะ นรมน ฟังผมพูดก่อน……”
เสียงดัง“ปัง”นรมนปิดประตูจากด้านนอกใส่บุริศร์ จนเกือบจะชนกับจมูกของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...