แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 247

บทที่ 247 เธอเป็นแขกของแม่

นรมนเห็นเธอพูดแบบนี้ ได้หูชี้ตั้งขึ้นมาโดยตรง “คุณน้าคิม พูดแบบนี้แสดงว่าคุณน้ารู้จักชินทรจริงๆใช่มั้ยคะ? คุณน้ารู้จักคนของตระกูลทวีทรัดย์ธาดาใช่หรือเปล่าคะ?”

คิมกลับไม่พูดแล้ว เธอแค่วางตะเกียบลงและพูดเสียงต่ำ “หนูค่อยๆกินนะ น้าขอตัวขึ้นชั้นบนก่อน”

“คุณน้าคิมคะ……”

นรมนเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ รู้สึกเมื่อกี๊ตัวเองคงจะละลาบละล้วงเกิน แต่ดูหน้าตาแล้วเธอเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆเหรอ? ถ้าเธอเป็นพี่น้องกับแฟนคนนั้นของชินทรล่ะก็ ก็จะรู้เรื่องลูกนอกสมรสชายหรือลูกนอกสมรสหญิงของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาในตอนนั้นว่ามันเป็นมายังไงใช่มั้ย?

นี่เป็นเรื่องที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดากังวลมาโดยตลอด ถ้าสามารถรู้เรื่อง บางทีก็ไม่เลวนะ แต่ข้อแม้คือคิมต้องเป็นคนยินยอมพูดเอง

แต่เห็นหน้าตาของคิมในตอนนี้ เห็นได้ว่าเธอไม่อยากพูดอะไรเลย

นรมนรู้สึกว่าเมื่อกี๊ตัวเองไม่ควรถามออกมาโดยตรงเลย

เธอดูกับข้าวบนโต๊ะอาหาร ไม่ได้ทานไปเท่าไหร่เลย ต้องโทษเธอคนเดียว

นรมนก็ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว

เธอเก็บกับข้าวบนโต๊ะ และทำความสะอาดห้องครัวให้เรียบร้อย

ตอนนี้คิมขังตัวเองไว้ที่ห้องคนเดียว เธอก็ไม่มีงานอะไรทำ ที่สำคัญคือตัวเองยังออกไปไม่ได้ด้วย ถ้าเกิดถูกคนพบเข้าก็แย่แล้ว

ไม่เพียงเดือดร้อนคิมด้วย แถมยังอาจจะเกี่ยวโยงไปถึงบุริศร์อีก

นรมนมองดูบ้านที่ว่างเปล่า ทีนี้ถึงรู้สึกค่อนข้างอ้างว้าง

ถึงว่าล่ะสไตล์การวาดภาพของคิมมีความเศร้าเสี้ยวนึงอยู่เสมอ คนแบบนี้อยู่บ้านแบบนี้นานเข้า คาดว่าก็คงอ้างว้างเดียวดายอยู่เหมือนกัน

นรมนมาถึงที่ข้างโต๊ะน้ำชา มองดูร่างออกแบบของตัวเอง ดูเหมือนตอนนี้ก็ได้แค่ทำเรื่องนี้แล้ว

เธอนั่งลงมาเริ่มวาดรูปอีกครั้ง

คราวก่อนแผนร่วมงานรถยนต์ของตระกูลวัชโรทัยกับตระกูลโตเล็กได้ถูกตระกูลวัชโรทัยคว้าสิทธิในการพัฒนาไปทั้งหมดแล้ว ส่วนทางตระกูลโตเล็กกลับไม่ได้อะไรเลย ตอนนี้เธอเป็นภรรยาหัวหน้าครอบครัวของตระกูลโตเล็ก ยิ่งเป็นภรรยาของบุริศร์ วาดภาพดีไซน์ไม่กี่รูปเพื่อตระกูลโตเล็กก็ไม่เลวนะ

นรมนได้เอากำลังทั้งหมดทุ่มเทเข้าสู่การวาดภาพ

คิมไม่รู้ออกมาเมื่อไหร่

เธอเห็นหน้าตาที่จริงจังมากของนรมน ราวกับเห็นตัวเองเมื่อหลายปีก่อน

เธอในอดีตก็พยายามขนาดนั้น ฮึดสู้ขนาดนั้น อยากใช้ดินสอวาดภาพที่อยู่ในมือเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง แต่คิดไม่ถึงเธอได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองจริงๆ แต่กลับสูญเสียคนที่ตัวเองรักไป

คิมพิงอยู่ที่บันได แววตาพร่ามัว น้ำตาคลอเบ้า

ชินทร! ยี่สิบกว่าปีแล้ว ตอนที่ได้ยินชื่อนี้อีกครั้ง เดิมทีนึกว่าจะสามารถสงบจิตสงบใจได้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจ็บปวดใจมากอีกเช่นเคย

ตอนนั้นเขาไปจากอย่างเฉียบขาดขนาดนั้น แน่วแน่ขนาดนั้น ถึงขึ้นแม้แต่โอกาสที่พูดกับเธอก็ยังไม่มี ก็เข้าสู่การเป็นทหารตาทความฝันอย่างไม่ลังเลเลย ทำให้เธอไม่รู้จะไปหาเขาที่ไหนด้วยซ้ำ

ตอนนี้แค่พริบตาเดียวก็สามสิบปีแล้ว ผู้ชายคนนี้ได้ละลายเป็นดินกองนึงตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับยังเจ็บปวดใจเพราะชื่อของเขา

ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? คิมมองร่างเงาของนรมนแล้ว ความคิดซับซ้อน

เด็กสาวคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แม้กระทั่งมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วย เธอควรจะรับเธออยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่า? คิมสับสนมากไม่รู้ควรจะเริ่มแก้ไขจากตรงไหน สุดท้ายถอนหายใจคำนึงแล้วออกไปจากวิลล่า

นรมนไม่รู้ว่าคิมออกไป แต่ได้ตั้งใจวาดภาพ หลังจากเธอวาดภาพเสร็จ ถึงพบว่าตอนนี้เที่ยงแล้ว

นรมนค่อนข้างหิวข้าว เธอได้ไปทำกับข้าวที่ห้องครัว จากนั้นไปเรียกคิมลงมาทานข้าว ทีนี้ถึงพบว่าคิมไม่อยู่บ้าน

แม้แต่ท่านไปตอนไหนเธอก็ยังไม่รู้เลย

นรมนรู้สึกว่าตัวเองคงจะทำร้ายจิตใจของคิมจริงๆแล้ว

ทำไมจู่ๆก็ถามคำถามนี้ขึ้นมาได้ล่ะ? แต่ว่าถ้ามีเรื่องแล้วไม่ถาม อัดอั้นอยู่ในใจ ความรู้สึกแบบนี้มันทรมานจริงๆ

นรมนได้เหลือกับข้าวไว้ให้ส่วนนึง จากนั้นก็กลับมาแก้ภาพดีไซน์ของตัวเอง

เวลาหนึ่งวันผ่านไปไวมาก คิมไม่กลับมาสักที นรมนก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน เก็บร่างออกแบบของตัวเองเรียบร้อย จากนั้นก็แฟ็กซ์ไปที่แผนกดีไซน์ของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด

หลังจากแผนกดีไซน์ได้รับร่างออกแบบ หลังจากผ่านการคอนเฟิร์มจากบุริศร์ ได้เริ่มวิจัยพร้อมกัน จากนั้นก็เข้าสู่การผลิตและจดลิขสิทธิ์

นรมนโทรหาบุริศร์ และถือโอกาสพูดเรื่องของคิมด้วย บุริศร์ค่อนข้างตื่นตะลึง แต่ว่าได้บอกให้เธออย่าบุ่มบ่าม เรื่องนี้รอกลับประเทศแล้วค่อยว่ากัน

“ตอนนี้ถึงฉันอยากทำอะไรบุ่มบ่ามก็ทำไม่ได้แล้วค่ะ คุณน้าคิมออกจากบ้านไป ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ” นรมนค่อนข้างกลุ้มใจ

บุริศร์กลับพูดด้วยความกังวล “ท่านคงไม่เอาความเคลื่อนไหวของคุณเผยออกไปมั้งครับ?”

“ไม่หรอกค่ะ คุณน้าคิมไม่มีความแค้นกับฉัน ไม่มีทางค่ะ ฉันรู้สึกคุณน้าคิมเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมดีค่ะ เห็นท่านฉันก็นึกถึงแม่ฉัน ก็ไม่รู้ว่าแม่ฉันกลับไปหรือยัง?”

บุริศร์ฟังนรมนพูดแบบนี้ เขาพูดเสียงต่ำ “กลับไปแล้วครับ ธรณีโทรมาแล้ว ทุกคนได้ถึงเมืองชลชีแล้ว ตอนนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของธรณี”

“ป้าโอก็ยังอยู่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ใช่เหรอคะ?ถ้าเธอเจอหน้ากับคุณแม่จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”ตอนนี้นรมนนึกถึงเรื่องนี้

วิลล่าหลังใหญ่ขนาดนี้มีแค่เธอตัวคนเดียว เธอใกล้จะบ้าแล้วจริงๆ

กว่าจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถไม่ใช่ง่ายๆ นรมนดีใจขึ้นมาทันที

ใช่คุณน้าคิมกลับมาหรือเปล่า? เธอรีบเก็บภาพวาดอย่างเร็ว จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งออกไป กลับอึ้งไปครู่นึงหลังจากเห็นคนที่ลงมาจากรถ

“แกมาอยู่นี่ได้ยังไง?” ตุลยามองนรมนที่มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ด้วยความแปลกใจ ค่อนข้างประหลาดใจในชั่วขณะ

นรมนก็คิดไม่ถึงว่าตุลยาจะมา

ไหนคิมบอกว่าน้อยมากที่จะมีคนมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเจอตุลยาโดยบังเอิญขนาดนี้ล่ะ? แต่ว่าที่นี่เป็นบ้านแม่ของตุลยา เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ?

นรมนนิ่งไปครู่นึงและพูด “หลายวันก่อนเจอคุณน้าคิม ถูกชะตากับคุณน้ามาก คุณน้าคิมเลยรับฉันอยู่ที่นี่สี่ห้าวันค่ะ”

ตุลยาอึ้งอีกครู่นึง “นี่แกรู้จักแม่ฉันเหรอ? นรมน แกคงไม่ใช่แอบมาพักที่บ้านแม่ฉันนะ?”

“ถ้าคุณไม่เชื่อ สามารถโทรถามคุณน้าคิมได้ค่ะ”นรมนไม่รู้เบอร์ของคิม แต่ตุลยารู้แน่นอน เพราะฉะนั้นนรมนจึงได้พูดแบบนี้

“แกคิดว่าฉันจะไม่โทรจริงๆงั้นเหรอ?”ตุลยารีบหยิบมือถือออกมา และโทรหาคิมโดยตรง

“แม่คะ ที่บ้านแม่มีผู้หญิงคนนึง แม่เป็นคนให้เธอพักอยู่ที่นี่เหรอคะ?”คำถามของตุลยาทำเอานรมนค่อนข้างหน้าแดง

แต่ว่าตอนนี้เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ?

คิมหยุดไปครู่นึงแล้วพูด “อืม ใช่ เธอเป็นแขกของแม่ แกจะเสียมารยาทกับเธอไม่ได้นะ รู้มั้ย?”

“แต่แม่คะ บ้านหลังนี้ไม่เคยให้คนนอกพักอาศัยเลย แม้แต่หนูเองก็ยังพักที่นี่ไม่ได้เลย เธอถือสิทธิ์อะไรคะ?”ตุลยาค่อนข้างรู้สึกไม่ยุติธรรม

ครั้งนี้หันมาเป็นนรมนที่ตื่นตะลึง อะไรเรียกว่าตุลยาไม่สามารถพักอาศัยที่นี่ได้?พวกเธอเป็นแม่ลูกกันไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นแม่ลูกกันทำไมต้องแยกกันอยู่? นรมนคิดเรื่องพวกนี้ไม่ตก แววตาที่เกลียดชังของตุลยากลับเพ่งมองมาที่นรมน

“แม่คะ แม่จะกลับมาเมื่อไหร่คะเนี่ย? ตอนนี้หนูอยู่ที่หน้าบ้านค่ะ”เสียงของตุลยาแฝงด้วยการออดอ้อน

ก็ไม่รู้ว่าคิมพูดอะไร หลังจากตุลยาวางสาย ได้พูดกับนรมนอย่างเย็นชา “ก็ไม่รู้ว่าแกไปถูกชะตากับแม่ฉันได้ยังไง ฉันจะบอกแกให้นะ อย่าคิดแผนชั่วๆอะไรกับแม่ฉัน เรื่องที่ฉันจะแย่งบุริศร์กับแกถ้าแกให้แม่ฉันรู้ ฉันไม่เอาแกไว้แน่ ได้ยินหรือยัง?”

เมื่อกี๊นรมนยังรู้สึกผิดต่อตุลยาอยู่เลย ตอนนี้ได้ยินเธอพูดแบบนี้ จู่ๆไฟโมโหก็ลุกท่วมขึ้นมา

“ตุลยา ฉันเคยบอกแล้วว่าบุริศร์เป็นสามีฉัน บนโลกใบนี้มีผู้ชายดีๆมากมาย คุณไปหาผู้ชายคนอื่นได้มั้ย?”

“ไม่ได้! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ยังมาสามีแกอีก ตอนนี้แกเองก็เป็นคนไร้สัญชาติแล้ว แม้แต่ทะเบียนบ้านกับฐานะก็ไม่มีแล้ว แกยังมีหน้ามาบอกว่าบุริศร์เป็นสามีแกอีก?”คำพูดของตุลยาได้ทำให้นรมนอึ้งค้างโดยตรง

เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง? 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย