บทที่ 342 มีตาหามีแววไม่
"เฮอ!"
นรมนอดที่จะหัวเราะออกมาโดยตรงไม่ได้
สำหรับคมทิพย์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ได้ยินมากกว่า ยังไม่ทันได้รู้จัก คิดมาโดยตลอดว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นเด็กสาวที่เรียบร้อย อย่างน้อยเป็นคนสวยที่อ่อนแอและขี้ป่วย ตอนนี้ถึงกับเจอหน้ากันปุ๊บก็ถูกกมลใช้ปืนฉีดน้ำเย็นเข้ามาที่หน้าเต็มๆ เธออึ้งไปเลยทั้งคน
กานต์พูดแบบดิ้นรนว่า:"คุณน้าทิพย์ครับ น้ารีบปล่อยผมลงมาเถอะนะครับ!น้องสาวผมปกป้องผมมากเลยนะ"
"น้ารีบปล่อยพี่ชายหนูนะ!"
กมลถือปืนฉีดน้ำเข้ามาอีกครั้ง ตาโตๆที่แวววาวคู่นั้นจ้องหน้าคมทิพย์อย่างไม่ให้คลาดสายตา
คมทิพย์หันไปมองนรมนแบบหดหู่ใจเล็กน้อย เห็นนรมนหัวเราะจนเสไปเสมา โมโหซะจนตัวเองเกือบตาย
"คนสวย หนูมีเหตุผลหน่อยได้มั๊ย?ครั้งที่แล้วพี่ชายหนูขายน้าไป ให้น้าอยู่ที่สุสานตั้งหนึ่งคืน น้าตกใจจนเกือบเป็นโรคหัวใจไปเลย เรื่องนี้น้าต้องเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง"
ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ปุ๊บ กานต์หดคอโดยไม่รู้ตัว
นรมนรู้แค่ว่าคมทิพย์ถูกเจตต์โยนออกไป สำหรับรายละเอียดระหว่างนั้นเธอไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ตอนนี้ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ แววตาของนรมนมองไปที่กานต์ทันที
กานต์รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองต้องโชคร้ายแน่ๆ เขาทำปากจู๋แล้วพูดว่า:"ผมจะไปรู้ได้ไงหล่ะครับว่าอาเจตต์จะทำเรื่องแบบนั้นกับน้า?ตอนนั้นผมก็ใจร้อนเกินไป อีกอย่างอาเจตต์กับน้าต่างรู้จักกัน ผมถึงทำแบบนั้น"
"พูดแบบนี้นายมีเหตุผลของนายสินะ?ไอ้เด็กบ้า มีคำโบราณว่าไว้คำนึงนายไม่เคยได้ยินหรือไง?ฉันไม่ได้ฆ่าใคร แต่ใครคนนั้นกลับตายเพราะฉัน นายต้องรับผิดชอบนะไม่รู้รึไง?ดูท่าตอนนี้นายยังไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิดไปแล้ว!"
คมทิพย์พูดถึงเรื่องนี้ปุ๊บก็โมโหเหลือเกิน
กมลรีบเข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จับแขนของคมทิพย์และพูดว่า:"ต่อให้พี่ชายหนูวางอุบายน้าก็ตาม น้าเป็นถึงผู้ใหญ่เชียวนะถึงกับสู้เด็กคนนึงไม่ได้ น้ายังมีหน้ามาหาเรื่องพี่ชายหนูอีกหรอ?"
"เชอะ!"
คมทิพย์รู้สึกว่าตัวเองมีปากแต่แก้ตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เด็กน้อยคนนี้เป็นเด็กขี้ปกป้องอีกต่างหาก
"คนสวย หนูต้องเข้าใจสิจ้า พี่ชายหนูทำผิดเองนะ"
"หนูไม่สน น้าปล่อยพี่ชายหนูเลยนะ!ปล่อยสิคะ!"
กมลเขย่าแขนของคมทิพย์ แต่ว่าแขนของคมทิพย์ไม่กระทบกระทั่งเลยด้วยซ้ำ กมลโมโหจนหยิบปืนฉีดน้ำออกมาโดยตรงและฉีดเข้าไปที่หน้าของคมทิพย์
"ใครให้น้ารังแกพี่ชายหนู!และใครให้น้าไม่ปล่อยตัวพี่ชายหนู!"
คมทิพย์ตั้งตัวไม่ทัน ถูกปืนฉีดน้ำยิงใส่ตัวอีกครั้ง โกรธซะจนตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง
"นรมน เธอจะสั่งสอนลูกของเธอมั๊ย?ไปกันใหญ่แล้วนะ!"
นรมนเห็นกมลทำเกินไปแล้วจริงๆ รีบเอ่ยปากขึ้นมา
"กมล หยุดนะ!ห้ามทำแบบนี้กับน้าคมทิพย์!น้าเป็นผู้อาวุโสนะ!"
"แต่ว่าเธอรังแกพี่ชายนะคะ!"
กมลทำปากจู๋อย่างน้อยอกน้อยใจ รู้สึกว่าใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
กานต์เอ็นดูทันที
"กมลไม่เป็นไรนะ พี่กับน้าคมทิพย์แค่ล้อเล่นกันเฉยๆ ใช่มั้ยหล่ะครับคุณน้าทิพย์?"
แววตาของกานต์มองไปทางคมทิพย์แบบซึ่งๆหน้า
ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของคมทิพย์รึเปล่า จู่ๆเธอรู้สึกว่ากานต์ตรงหน้าเหมือนเป็นบุริศร์ที่ก๊อปปี้ออกมาชัดๆ ท่าทางนั้น แววตานั้น เหมือนกันอย่างกับแกะ!
เธออึ้งไปแป๊บนึงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นปล่อยตัวกานต์และพูดว่า:"ไอ้เด็กบ้าเอ้ย!"
คมทิพย์คมทิพย์ขยี้ผมของกานต์แรงๆ แรงนั้นทำให้กานต์โมโหแต่แสดงออกมาไม่ได้
กานต์ฟื้นฟูอิสระปุ๊บ รีบดึงกมลมาที่ข้างหลังตัวเอง จากนั้นก้มตัวลงไปทำความเคารพให้กับคมทิพย์และพูดว่า:"น้าทิพย์ครับ ขอโทษด้วยนะครับ ครั้งก่อนเป็นความผิดของผมเองผมขอโทษคุณน้ากับการกระทำของผมด้วยนะครับ รบกวนคุณน้าเห็นแก่ที่่ผมอายุยังน้อย และเป็นเด็กซึ่งไม่รู้เรื่องราว อย่าถือสาผมเลยนะครับ"
คำพูดเหล่านี้พูดซะจนคมทิพย์ไม่รู้จะตอบยังไงดี
หากเธอยังถือสากานต์ต่อไป เธอก็จะกลายเป็นคนขี้น้อยใจไปเลย หากว่าไม่ถือสา ไอ้เด็กบ้าคนนี้สีหน้าท่าทางไม่ได้ยอมรับผิดจากใจจริงเลยด้วยซ้ำ
คมทิพย์โมโหจนกัดฟันไว้ ยังไม่ได้พูดอะไร กมลชะโงกหัวออกมาจากข้างหลังกานต์ มองดูการต์ เห็นกานต์พยักหน้า ถึงพูดกับคมทิพย์ว่า:"น้าทิพย์ ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อกี้หนูไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณน้า คุณน้าอย่าโกรธหนูเลยได้มั๊ยคะ?"
ครั้งนี้คมทิพย์ถือว่ามองออกแล้ว ที่แท้กานต์เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับกมล และเพื่อไม่ให้นรมนลำบากใจถึงได้ขอโทษให้กับตัวเอง
มองเห็นกานต์ที่่เข้าอกเข้าใจและรู้เรื่องราว ความโมโหในใจของคมทิพย์ก็หายไปแล้ว
"น้าไม่ได้โกรธ ก็พูดไปแล้วนี่น่ะ ล้อเล่นกับพี่ชายหนูเฉยๆ หนูชื่อกมลใช่มั๊ย?"
"ค่ะ!"
กมลพยักหน้า ยังกลัวๆอยู่บ้าง
คนที่เธอสัมผัสมีไม่มาก ยิ่งกว่านั้นกลัวคนแปลกหน้ามาก ถ้าหากไม่ใช่คมทิพย์เข้ามาปุ๊บก็จับคอเสื้อของกานต์ซะทีเดียว คาดว่ากมลก็ไม่ออกมาและมุ่งไปที่คมทิพย์หรอก
ตอนนี้เธอเหมือนถอยกลับไปในเปลือกไข่ของตัวเอง ตาโตๆคู่นั้นมีความไม่สบายใจแฝงด้วย
คมทิพย์เห็นอาการของกมล ตอนนี้เห็นเด็กคนนี้เป็นแบบนี้ เอ็นดูโดยไม่รู้ตัว
"รู้จักกันใหม่อีกครั้งนะจ๊ะ น้าชื่อคมทิพย์ เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณแม่หนูนรมน หนูเรียกน้าว่าน้าทิพย์ได้เลย และเรียกน้าว่าแม่บุญธรรมได้อีกด้วย!"
คมทิพย์ชอบกมลเป็นพิเศษ
หน้าตาที่อ่อนแอของเธอทำให้คนเอ็นดูมากเลยทีเดียว
"แม่บุญธรรม?"
กมลเรียกไปหนึ่งครั้งด้วยความสงสัย ทำให้คมทิพย์ดีอกดีใจสุดๆ
"จ้า!ลูกบุญธรรม!ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ ดีกว่าพี่ชายหนูเยอะเลย!"
คมทิพย์ดีใจจนเกือบอุ้มกมลขึ้นมา
เห็นหน้าตาที่ดีอกดีใจของเธอ กานต์พูดแบบดูถูกดูแคลนว่า:"กมลแค่สอบถามไปซ้ำๆเอง ไม่ได้เรียกน้าด้วยความใจจริงหรอก คุณน้าทิพย์ครับ!"
"ไอ้เด็กบ้า ไม่พูดจาได้ไหมเนี่ย?ฉันนี่แปลกใจจริงๆเลย เกิดออกมาจากพ่อแม่เดียวกันแท้ๆ น้องสาวนายทำให้คนชอบขนาดนี้ ทำไมนายถึงได้ทำให้คนเกลียดขนาดนี้นะ?"
คมทิพย์เชอะเสียงหนึ่งครั้ง เข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและอุ้มกมลขึ้นไปบนเตียง และวางไว้ข้างกายนรมน
"ขอบคุณนะคะแม่บุญธรรม!"
กมลยิ้มให้กับคมทิพย์ด้วยรอยยิ้มที่หวานชื่น กระชากวิญญาณของคมทิพย์ไปซะแล้ว
"เด็กดี นรมน ลูกสาวเธอคนนี้โตขึ้นมาต้องเป็นสาวสวยแน่ๆเลย ถึงตอนนั้นยิ้มแย้มออกมาทำให้คนหลงจนหัวปักหัวปำ!"
"อย่าพูดเหลวไหลนะ"
นรมนตะคอกใส่เธอหนึ่งครั้ง กลับเห็นกมลอ้าแขนออกมาโดยตรงและกอดนรมน
ร่างกายเล็กๆของเธอยังมีกลิ่นยา เพียงแต่ว่าจางหายไปเยอะมากแล้ว กมลในวันนี้สวมใส่ชุดกระโปรงเจ้าหญิง ดูๆไปแล้วสวยเป็นพิเศษ
"หม่ามี้คะ กมลกอดหม่ามี้นะคะ อาการป่วยของหม่ามี้จะได้หายไวขึ้นใช่มั๊ยคะ?"
"ใช่จ้า"
นามนกอดกมลไว้บนตักของตัวเอง
ลูกสาวอ้วนกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย ดูท่าคนที่บ้านตระกูลโตเล็กดูแลได้ดีมากเลยทีเดียว
"หม่ามี้ขา หม่ามี้คิดถึงหนูรึเปล่าคะ?"
"คิดถึงสิจ้า!หม่ามี้คิดถึงหนูทุกวันเลยจ้า"
นรมนพูดคำนี้จบจู่ๆก็สังเกตเห็นแววตาที่แซวเล่นของคมทิพย์ ทันทีนั้นรู้สึกที่แก้มแสบๆร้อนๆ
หลายวันมานี้เธอมีบุริศร์คอยอยู่เป็นเพื่อน ไม่ค่อยคิดถึงลูกๆสักเท่าไหร่จริงๆ
"เคอะเคอะ!" เสียงไอ
นรมนไอออกมาหนึ่งครั้งโดยไม่รู้ตัว
กมลกลับไร้เดียงสามาก จูบนรมนไปหนึ่งครั้ง และพูดอย่างแย้มว่า:"กมลก็คิดถึงหม่ามี้ค่ะ หม่ามี้ต้องรีบหายไวๆนะคะ!แม่พูดเองนะคะว่าจะพาเราไปเที่ยว!"
"จ้าลูก"
นรมนมองดูกมลด้วยความรัก รู้สึกว่าสามารถครอบครองชีวิตในปัจจุบันนี้ช่างดีมาก และช่างไม่ง่ายดายเลยจริงๆ
กานต์เห็นกมลดีอกดีใจขนาดนี้ พูดอย่างยิ้มแย้มว่า:" หม่ามี้ครับ คุณตาคุณยายก็มาด้วยนะครับ เพียงแต่ว่าพูดคุยกับคุณบุริศร์ที่ข้างล่างเดี๋ยวพวกเขาก็ขึ้นมาเยี่ยมหม่ามี้แล้วครับ ได้ยินว่าหม่ามี้ไม่สบาย คุณยายร้องห่มร้องไห้เลยนะครับ"
"เหรอครับ?แล้วนายได้ปลอบใจคุณยายรึเปล่าหล่ะครับ?"
"ผมปลอบใจไปแล้วครับ!หม่ามี้วางใจได้เลย ตอนนี้อารมณ์ของคุณยายดีขึ้นมากแล้วนะครับ ดูแลผมกับกมลทุกวัน ดีใจสุดๆไปเลยครับ"
คำพูดนี้ของกานต์ทำให้นรมนรู้สึกชื่นใจบ้าง
"มาที่หม่ามี้ทางนี่ลูก ให้แม่ดูลูกหน่อย"
นรมนยื่นมือไปหากานต์
กานต์ลังเลอยู่แป๊บนึง จู่ๆเกิดเขินอายและยกขาก้าวไปข้างหน้า หยุดนิ่งที่ขอบเตียงของนรมน ตาเฉี่ยวคมที่ดูดีคู่นั้นมีความคาดหวังกระพริบอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...