บทที่ 349 ตาบอดใจก็บอดตามไปด้วย
“ไม่นึกเลยว่าพวกคุณจะมาที่นี่?แถมยังโรแมนติกจนสั่นสะเทือนด้วย!”
ตอนที่เสียงๆนี้ดังขึ้น บุริศร์ได้หยุดฝีเท้าไว้ นรมนก็จำเป็นต้องหยุดฝีเท้าด้วย พอหันหน้าปุ๊บก็ได้พบกับไมค์
“ไมค์? คุณมาอยู่นี่ได้ยังไงคะ?” นรมนค่อนข้างแปลกใจ
ไมค์พูดอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้:“ทำไมผมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?มาเมืองชลธีนานขนาดนี้แล้ว บุริศร์มัวแต่ดูแลคุณ ไม่สนใจผมเลยด้วยซ้ำ ผมจะเจอหน้าเขาทีนึงยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก”
สำหรับการแซวเล่นของไมค์ นรมนค่อนข้างเก้อเขิน
“ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบาย บุริศร์เลยค่อนข้างเป็นห่วงค่ะ”
“คุยพวกนี้กับเขาทำไม? คุณนึกว่าเขามาเมืองชลธีเพื่อมาระลึกวันเก่าๆจริงเหรอ?”
บุริศร์ไม่สนใจสีหน้าของไมค์เลยด้วยซ้ำ เขาพูดอย่างราบเรียบ:“เขาตามมาถึงนี่เพื่อผู้หญิงคนนึง แค่คนอื่นไม่สนใจเขาเฉยๆ เขาว่างๆไม่มีอะไรทำถึงนึกถึงผม คุณคิดว่าคนอย่างผมเป็นตัวสำรองหรือไง?”
พูดคำนี้ออกมาปุ๊บ สีหน้าของไมค์ก็อึดอัดขึ้นมาทันที แต่นรมนกลับค่อนข้างแปลกใจ
“ตามผู้หญิงคนนึงมาที่นี่? ใครกันคะที่เสน่ห์แรงขนาดนี้?”
“ตุลยา!”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งเล็กน้อย
“เป็นเธอได้ยังไงคะ?” นรมนรู้สึกแปลกใจมากจริงๆ
ถึงแม้อยู่อเมริกาก็รู้สึกไมค์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวของตุลยา แต่ไม่นึกเลยว่าคนอย่างไมค์จะชอบตุลยา นี่ทำให้เธอไม่ค่อยเข้าใจ
บุริศร์พูดเยาะเย้ยเหน็บแนม:“ก็คนบางคนตาบอด ใจก็บอดตามไปด้วยไง”
“บุริศร์ ฉันว่านี่นายหาเรื่องใช่มั้ย?”ไมค์ไม่ค่อยอยากฟังแล้ว
“ไสหัวไป วันนี้ไม่มีเวลาทรมานกับนาย ฉันจะไปซื้อเครื่องประดับกับภรรยาฉัน”
ระหว่างพูด บุริศร์ไม่สนใจไมค์เลย ก็โอบไหล่ของนรมนไปจดทะเบียนแล้ว
ตอนนี้ไมค์ว่างไม่มีอะไรทำ ทางฝั่งของตุลยาก็ไม่ให้เขาไป ตอนนี้กว่าจะเจอบุริศร์กับนรมนไม่ใช่ง่ายๆ เขาไม่อยากจากไปเลยด้วยซ้ำ จึงหน้าด้านตามเขาสองคนไป
“พวกนายวางแผนจะออกแบบเป็นแบบไหน? ฉันเคยถามแล้ว ร้านเครื่องประดับร้านนี้มีชื่อเสียงพอสมควร เดี๋ยวฉันก็ดีไซน์ชุดนึงด้วย”
“เตรียมให้นายกับตุลยาเหรอ? ฉันดูแล้วยากที่จะเป็นไปได้หว่า เตรียมไปก็เปล่าประโยชน์”
แค่คำพูดเดียวของบุริศร์ก็ทิ่มแทงใจไมค์เลย
“นายพูดจาเป็นมั้ยเนี่ย?”
“ฉันบอกเหรอว่าจะพูดจากับนาย? นายต่างหากที่ดันจะตามมาเอง”
บุริศร์คอยต่อปากต่อคำกับไมค์ไปด้วย และกรอกข้อมูลของตัวเองและนรมนให้เสร็จด้วย
นรมนฟังเขาสองคนต่อปากต่อคำกัน จู่ๆรู้สึกต่อไปมีชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันพนักงานให้บัตรสมาชิกใบนึงกับพวกเขา บุริศร์เติมเงิน จากนั้นก็เอาการ์ดให้นรมนโดยตรง
ตอนที่ทั้งสองเดินออกมาจากร้านเครื่องประดับ ไมค์ถามด้วยความใจร้อน:“หรือไม่ตอนเที่ยงฉันเลี้ยงข้าวพวกคุณ?”
“นายจะทำอะไรกันแน่?”
บุริศร์รู้ว่าไมค์คงจะเบื่อเซ็งแล้ว แต่มีความเป็นไปได้สูงว่ามียังมีความคิดอื่นด้วย
ไมค์พูดอย่างเกรงใจ:“ตอนนี้ฉันอยากเจอตุลยา แต่เธอไม่รับสายฉัน และไม่ออกมาด้วย ตอนนี้ฉันเจอพวกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? อยากถามพวกคุณดูว่ามีวิธีอะไรให้เราได้เจอกันหน่อยมั้ย”
“ไม่มี!” บุริศร์ปฏิเสธโดยตรงเลย
สำหรับตุลยาแล้ว บุริศร์คือสามารถเลี่ยงได้ไกลแค่ไหนก็เลี่ยงให้ไกลแค่นั้น และเขาก็ไม่อยากให้นรมนไปพัวพันกับตุลยาด้วย เพราะยังไงซะผู้หญิงคนนั้นมีจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์
สีหน้าของนรมนก็ไม่ค่อยดี เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งถูกตุลยาวางอุบาย ตอนนี้จะต้องเป็นแม่สื่อให้ไมค์ ขอร้องล่ะ เธอทำไม่ได้จริงๆ
“ไมค์ ฉันกับตุลยาก็ไม่สนิทกัน เพราะฉะนั้นต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ช่วยคุณไม่ได้” นรมนเปิดปากพูด
ไมค์อึ้งไปครู่นึง นึกถึงบุญคุณความแค้นระหว่างพวกเขาแล้วพูดเสียงต่ำ:“ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้ตุลยาทำเรื่องผิดต่อคุณ แต่นิสัยที่แท้จริงของเธอไม่เลว แค่บ้าอำนาจเกิน มีความคิดที่เอาแต่ใจและเอาตัวเองเป็นใหญ่จนชิน คุณวางใจได้ ผมจะเกลี้ยกล่อมเธอเอง”
“รอให้นายสามารถเจอหน้าเธอแล้วค่อยว่ากันเถอะ”บุริศร์พูดจบก็ไม่ราวีบไมค์ต่อ ดึงมือของนรมนไว้ก็จากไปเลย
เห็นพวกเขามีท่าทีที่เฉียบขาด ไมค์ก็อายที่จะไปพัวพันต่อ ทั้งสามก็ได้แยกจากกันอย่างนี้
เห็นหน้าตาหมดอาลัยตายอยากของไมค์ นรมนถอนหายใจ
บุริศร์มองเธอแว๊บนึง:“คุณคงไม่ใจอ่อน แล้วไปเป็นแม่สื่อให้ไมค์จริงๆหรอกนะ?”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกเสียดาย คนอย่างไมค์ ไม่นึกเลยว่าจะตกอยู่ในมือของตุลยา ตุลยาไม่คู่ควรกับเขา”
“สมกับเป็นผู้หญิงของผมจริงๆ มีความคิดตรงกับผมเป๊ะๆ”
เดิมทีบุริศร์นึกว่านรมนจิตใจดีงาม เห็นไมค์ทนทุกข์ทรมานไม่ได้ ตอนนี้ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ตัวเองก็วางใจแล้ว
ทั้งสองได้เดินช้อปปิ้งไปอีกรอบนึง บุริศร์ได้ซื้อเสื้อผ้าให้นรมนไปหลายตัว และซื้อของเล่นและอื่นๆให้ลูกทั้งสอง ทีนี้ถึงโทรให้พฤกษ์มารับพวกเขากลับบ้าน ที่เสียดายคือพฤกษ์บอกว่าคมทิพย์เกิดเรื่อง ตอนนี้เขายังมาไม่ได้
ช่วงเวลานี้ ความสัมพันธ์ของคมทิพย์กับบุริศร์ก็ได้ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้ว คมทิพย์ไม่เจาะจงหาเรื่องบุริศร์แล้ว บุริศร์ก็ยอมๆให้เธอ ตอนนี้ได้ยินคมทิพย์เกิดเรื่อง นรมนกังวลใจขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรไป? คมทิพย์เกิดเรื่องอะไร?”
“เหมือนจะเกี่ยวข้องกับคุณชายเจตต์ครับ ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปที่Moonlight Clubครับ”
นรมนก็ร้อนรนใจมาก แต่ว่ากลับส่งสัญญาณให้พฤกษ์อย่าใจร้อน
เขาวิ่งจนเหงื่อท่วมหัว แม้กระทั่งลมหายใจก็ยังยุ่งเหยิง ดูออกว่าพฤกษ์แคร์คมทิพย์มาก
การกดขี่ของบุริศร์ทำให้ผู้จัดการค่อนข้างแบกรับไม่ไหวแล้ว จึงจำเป็นต้องพูด:“คุณชายบุริศร์ครับ ไม่ใช่ผมจะขัดขวางคุณชายนะครับ ผมไม่ได้ใจกล้าขนาดนี้ และก็ขัดขวางไม่อยู่ด้วยครับ แต่คุณกับคุณชายเจตต์ผมล้วนไม่กล้าขัดใจทั้งนั้น ด้านบนคุณชายเจตต์ชอบผู้หญิงคนนึงเข้า เกรงว่าตอนนี้คงจะ.....คงจะ.......”
หัวใจของนรมนใกล้ตกไปที่ตาตุ่มอยู่แล้ว
“คงจะอะไร?ไอ้เหี้ยอย่างนายเจตต์ มันไม่รู้ว่าคมทิพย์เป็นคนของฉันเหรอ? ไม่นึกเลยว่าจะกล้าลงมือด้วย?”
ที่ผ่านมานรมนไว้วางใจเจตต์มาก เพราะเธอรู้ว่าเจตต์จะเห็นแก่เธอไม่ทำให้คมทิพย์ลำบากใจ แต่ตอนที่ได้ยินผู้จัดการพูดแบบนี้ ทันใดนั้นเธอก็ไม่สงบแล้ว
เจตต์มีสันดานยังไงเธอรู้ดีกว่าใครๆ
ก็แค่ไม่ลงมือกับเธอเฉยๆ ผู้หญิงที่พบเจอในเมื่อก่อนมีคนไหนที่รอดพ้นอุ้งมือมารของเขาบ้าง?
ถ้าหากคมทิพย์ชอบเขาก็ว่าไปอย่างนึง แต่ระหว่างคมทิพย์กับเจตต์มันเข้ากันไม่ได้จริงๆ ถึงเจตต์จะสร้างความลำบากใจให้คมทิพย์ ก็ไม่ควรจะทำอย่างนี้!
เมื่อเทียบกับความร้อนรนใจของนรมน พฤกษ์ยิ่งอดทนไม่ไหวแล้ว
“หลีกไป!ฉันจะเข้าไป!”
ช่วงนี้พฤกษ์กับมีใจให้คมทิพย์อย่างลับๆ รู้สึกถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะใจร้อนไปหน่อย แต่จิตใจดีงาม แถมจิตใจอ่อนนุ่มมาก เขามีใจให้เธอแล้ว แต่แค่อายที่จะพูดเฉยๆ
ตอนนี้ได้ยินคมทิพย์เกิดเรื่อง พฤกษ์ลืมไปเลยว่าฐานะของตัวเองในตอนนี้คืออะไรแล้ว มีบุริศร์กับนรมนอยู่ เขาจะมีสิทธิ์ออกหน้าเสียที่ไหน?
ตอนนี้เขาเป็นแค่ผู้ชายปกติที่ธรรมดาคนนึง
สีหน้าของบุริศร์ก็ค่อนข้างห้อยลงมาแล้ว
“เจตต์ดื่มเหล้ามา?”
“ใช่ครับ!”ผู้จัดการไม่กล้าปิดบัง
“ตอนที่คุณชายเจตต์มาก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อยแล้วครับ เหมือนอารมณ์ไม่ดี จากนั้นก็ไม่รู้เป็นอะไร ไม่นานก็มีสาวสวยคนนึงมาด้วยความโกรธ หลังจากมาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ได้ยกแก้วเหล้าเทใส่หัวของคุณชายเจตต์ คุณชายเจตต์ถึงได้โกรธโมโห อยากลงโทษผู้หญิงสักหน่อย ใครจะไปนึกว่าผู้หญิงคนนั้นกล้าหาญเหลือเกิน ตีจนคุณชายเจตต์ได้รับบาดเจ็บ จากนั้น จากนั้นก็ตีออกมาจากห้องVIP คุณชายเจตต์ได้กระชากเสื้อคลุมของผู้หญิงออก บอกว่าวันนี้ถ้าไม่ได้แอ้มผู้หญิงคนนี้ เขาก็จะไม่ใช้นามสกุลรัตติกรวรกุล คนของเขาถึงได้จองชั้นสองทั้งฟลอร์เลยครับ”
ผู้จัดการได้เล่าความเป็นมาของเรื่องราวไปรอลนึงอย่างติดๆขัดๆ
ถึงแม้นรมนไม่รู้ทำไมคมทิพย์ถึงมาหาเจตต์ด้วยความโกรธ แต่ต้องมีเหตุผลแน่นอน ตอนนี้เจตต์ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์กระตุ้นจนขาดสติไปอย่างสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องมิดีมิร้ายอะไรกับคมทิพย์หรือเปล่า?
“พวกเธอขึ้นไปนานเท่าไหร่แล้ว?”
“สักพักแล้วครับ ตอนที่คุณชายบุริศร์มาก็ได้ทะเลาะกันแตกคอที่ริมทางเดินแล้วครับ”
ผู้จัดการกำลังพูดอยู่ จู่ๆเสียงร้องโหยหวนดังมาจากชั้นสอง ทำให้นรมน บุริศร์และพฤกษ์ต่างก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...