บทที่ 367 ไม่ว่าพิสูจน์ยังไงก็ไม่สามารถลบล้างความผิดได้
“เจตต์ นายอย่ามาแกล้งโง่ต่อหน้าฉันหน่อยเลย”
บุริศร์สังเกตพิรุธอะไรจากสีหน้าของเขาไม่ได้ แต่ก็ถามขึ้นอีกคำนึง
เจตต์อารมณ์ขึ้นทันที
“นายพูดอะไรกันแน่?อย่าพูดให้สับสนได้มั้ย?ฉันไม่รู้เลยว่านายจะเอาอะไรจากฉันกันแน่?รูปถ่ายอะไร?ฟิล์มอะไร?ฉันเคยถ่ายรูปกับนายงั้นหรอ?นายบุริศร์ นายพูดให้เคลียร์กับฉันเลยนะ ถึงฉันจะเป็นผู้ชายเจ้าสำราญ แต่ก็ไม่ใช่ว่านายจะมากล่าวหาแบบนี้ได้ง่ายๆ”
บุริศร์เห็นเจตต์โกรธแบบนี้ แล้วขมวดคิ้ว
ถ้าไม่ใช่เจตต์เป็นคนส่งจริง แล้วหมายความว่าจะให้เขายอมเอารูปเปลือยของนรมนให้เจตต์ดูทีนึงงั้นหรอ?
แค่คิดแล้ว บุริศร์ก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา
“นายแน่ใจนะ ว่าไม่เคยส่งอะไรให้คมทิพย์?โดยเฉพาะรูปถ่าย?”
“ฉันประสาทรึไง?ดึกดื่นแบบนั้นส่งรูปไปให้เธอ?ฉันว่างมากนั้นหรอ?แล้วฉันไม่รู้หรอ ว่าเธอเป็นเพื่อนรักของนรมนน่ะ?”
ที่เจตต์พูดมันก็มีเหตุผลอยู่ แต่บุริศร์ก็พูดอย่างเย็นชา:“นายรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนรักของนรมน นายก็ยังเกือบจะปล้ำเธอแล้วเลยไม่ใช่หรอ”
“เหี้ย!”
นี่มันเป็นความอัปยศสำหรับเจตต์ชัดๆ
จนถึงตอนนี้ เขายังไม่รู้ว่าคืนนั้น ตัวเองกลายเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างไงอย่างนั้น แต่พอหลังจากที่ไปสืบ ก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย
เจตต์โกรธจนใช้เท้าถีบเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าออก จากนั้นก็นั่งโกรธอยู่ในนั้น
บุริศร์เห็นว่าถามไม่ได้ความอะไร แล้วพูดอย่างเย็นชา:“พรุ่งนี้ นายไปบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์กับฉันหน่อย แล้วตรวจสอบค้นข้อความในวันนั้นออกมา แล้วนายก็ดูเองแล้วกัน”
“ไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้หรอก ไปตอนนี้เลย”
เจตต์ไม่อยากให้ตัวเองถูกกล่าวหาลอยๆแบบนี้
ตอนนี้ฟังความหมายของบุริศร์พูดแล้ว เห็นชัดว่าเรื่องทั้งหมดนี่เหตุเพราะรูปถ่ายรูปนึง แต่ในสมองของเขา จำเรื่องที่ส่งรูปให้กับคมทิพย์ไม่ได้เลยจริงๆ
เห็นเขายืนหยัดขนาดนี้ บุริศร์ก็ไม่พูดอะไร ทั้งสองคนรีบไปที่บ้านประธานแห่งบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ ใช้เส้นสายของตัวเอง บังคับคนอื่นไปช่วยพวกเขาตรวจสอบบันทึกสายเรียกเขาหรือข้อความที่ส่งเข้าออกดึกดื่น
ตอนที่เจตต์เห็นบันทึกสายเรียกเขาของตัวเองได้โทรหาคมทิพย์จริง และส่งข้อความภาพให้เธอจริง ตอนนั้น เขาอดรู้สึกอึ้งไม่ได้
“เป็นไปได้ยังไง?วันนั้น ฉันไม่ได้โทรหาเธอจริงๆนะ!”
“นั้นนายคิดว่า จู่ๆคมทิพย์จะวิ่งไปสาดเหล้าหน้านายโดยไม่มีเหตุผลงั้นหรอ?”
เห็นชัดว่าบุริศร์ไม่เชื่อคำพูดของเจตต์
เจตต์พูดด้วยความโกรธ:“ฉันเปล่าจริงๆนะ!ถ้าฉันเคยโทร ทำไมฉันต้องไม่กล้ายอมรับด้วย?ทำเรื่องแบบนั้นกับเธอยังทำไปแล้วเลย กับอีแค่แค่โทรศัพท์สายเดียว ฉันจะไม่กล้ายอมรับงั้นหรอ?เรื่องที่ฉันทำฉันก็กล้ายอมรับ แต่เรื่องที่ฉันไม่ได้ทำ ทำไมฉันต้องพูดโกหกด้วย?”
คำพูดนี้ ทำให้บุริศร์คิดอีกครั้ง
ก็ใช่นะ
ฉายาหนุ่มเจ้าสำราญของเจตต์ คนในเมืองชลธีรู้กันทั่ว ถ้าเขาเป็นคนโทรหาคมทิพย์จริง นั้นเขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ไม่กล้ารับ เป็นอย่างที่เขาพูด เรื่องปล้ำคมทิพย์เขายังทำไปแล้วเลย ยังจะกลัวคนอื่นพูดเรื่องกับแค่โทรศัพท์สายเดียวรึไง?
แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับรูปเปลือย ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เจตต์จะไม่ยอมรับ
คิดแล้ว บุริศร์ก็จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา ตาคู่นั้นราวกับมีดคมอย่างไรอย่างนั้น
เจตต์รู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างมาก
“เป็นรูปอะไรกันแน่?สามารถให้ฉันดูได้มั้ย?ฉันงงมาก ในมือถือของฉันไม่ได้บันทึกอะไรไว้เลย ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้?”
“มือถือของนายไม่มีงั้นหรอ?”
“ไม่มี!”
เจตต์เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง เลยยื่นมือถือของตัวเองให้บุริศร์ไปโดยตรง
“ไม่เชื่อนายก็ดูสิ”
บุริศร์ก็ไม่เกรงใจ รับมือถือไป เปิดคุ้นดูไฟล์รูปในมือถือจนทั่ว ก็ไม่เจอรูปของนรมนสักใบเดียว
หรือว่าเจตต์จะลบออกแล้วงั้นหรอ?
หรือว่ามีเหตุผลอื่น
“ไป!”
บุริศร์พาเจตต์จากไป ทำเอาประธานแห่งบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พูดอะไรไม่ออกเลย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
ดึกดื่นป่านนี้เรียกเขาออกมา ก็แค่เพื่อหาบันทึกสายโทรศัพท์สายเดียวเนี่ยนะ?ตอนนี้ ทั้งสองคนหมดเรื่องก็ไปเลย แต่เขากลับทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะไปหรือไม่ไปดี ?
ประธานแห่งบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยังไม่ทันจะอ้าปากถาม บุริศร์กับเจตต์ก็ขึ้นรถไป แล้วขับไปที่บ้านของเจตต์ไปเลย
บุริศร์ไม่เกรงใจเลยแม้แต่นิด เปิดคอมของเจตต์ขึ้นมาโดยตรง พวกรหัสอะไรพวกนี้ เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับบุริศร์มาก
เจตต์เห็นคอมของตัวเองถูกบุริศร์เข้าได้อย่างง่ายดาย แล้วอดไม่ได้พูด:“อย่างน้อย นายก็ควรจะเคารพในความเป็นส่วนตัวของฉันหน่อยได้มั้ย?”
บุริศร์ขี้เกียจจะพูดกับเขา เริ่มค้นหาอะไรบางอย่างจากคอมของเขาอย่างไม่เกรงใจ
ในคอมของเจตต์มีไฟล์และรูปภาพเต็มไปหมด น่าเกลียดจนทนดูไม่ได้ บุริศร์เห็นแล้วขมวดคิ้วจนแน่น แทบอยากจะล้างข้อมูลในคอมของเขาออกให้หมด
เจตต์ก็รู้สึกหน้าแดง
ไอ้ที่เขาจะดูภาพพวกนี้ตอนดึกดื่นยังไงก็ได้ ตอนนี้กลับถูกคนอื่นเปิดต่อหน้าแบบนี้ ฟังเสียงครางในนั้นแล้ว ดูรูปที่บาดตาพวกนั้น เจตต์รู้สึกหน้าตัวเองกำลังจะไหม้
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ตอนนั้น ฉันอารมณ์ไม่ดี เลยไปดื่มเหล้ากับเพื่อนหลายคน ดื่มจนเมามาก คมทิพย์ก็ปรากฏมา ต่อมาก็เรื่องอย่างว่า นึกถึงเรื่องวันนั้นแล้ว จนตอนนี้ ฉันก็ยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย จริงนะ บุริศร์ ฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับนรมนจริง และฉันก็ชอบเธอ ถ้าเธอไม่ใช่ภรรยาของนาย ฉันจะขอเธอมาเป็นแฟนให้ได้โดยไม่คิดอะไรอย่างแน่นอน แต่พอรู้ว่าเธอไม่มีใจให้ฉัน ฉันก็ไม่เคยคิดเกินเลยกับเธอเลยนะ ระหว่างฉันกับนรมนเราบริสุทธิ์ใจกัน!ฉันสาบานได้!”
เจตต์รีบยกมือขึ้น
ตามหลักแล้ว คำสาบานของคนเจ้าชู้อย่างเจตต์แล้วนั้น บุริศร์ไม่มีวันเชื่อแน่ แต่พอเห็นเขาในตอนนี้ บุริศร์กลับเชื่อในทันที
ถ้าที่เจตต์พูดเป็นความจริง แล้วใครกันแน่ ที่ใช้มือถือของเจตต์ส่งรูปให้คมทิพย์ล่ะ?
และอีกอย่าง รูปนี้ก็ไม่ใช่รูปที่อยู่ในมือถือของเจตต์ แต่ได้รับจากอีกคนที่ส่งมา
บุริศร์พยายามหาที่อยู่IPของอีกฝ่าย แต่ไม่สำเร็จ อีกฝ่ายเจ้าเล่ห์มาก ตอนนี้ แม้แต่ปัญชีWeChatก็ถูกปิดไปแล้ว ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เลย
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเก่งเรื่องคอมแล้ว เรื่องพวกนี้ คงตรวจสอบไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่บุริศร์ไม่พูดพวกนี้กับเจตต์ก็แค่นั้น
“นายจำได้มั้ยเลยหรอ ว่าคืนนั้นมีใครแตะต้องมือถือของนายบ้าง?”
คำถามของบุริศร์ ทำให้เจตต์รีบส่ายหัวทันที
“ใครจะแตะต้องมือถือของฉันได้?มือถือของฉันต้องใช้รอยนิ้วมือปลดล็อกถึงได้ นอกซะจากว่าพวกเขาใช้นิ้วของฉัน ถึงวันนั้นฉันจะดื่มหนักมาก แต่เรื่องนี้ฉันก็จำได้ดีอยู่”
เจตต์พูดจบก็อึ้งนิ่งไปครู่นึง
“ไม่ใช่สิ ระหว่างนั้น ฉันไปเข้าห้องน้ำอยู่ครั้งนึง วางมือถือไว้ที่โต๊ะ แต่ใครจะเปิดมือถือฉันได้ แล้วใช้มือถือของฉันส่งข้อความให้คมทิพย์ล่ะ?อีกอย่าง ไม่มีใครรู้ว่าฉันรู้จักกับคมทิพย์เลย ความสัมพันธ์ระหว่างคมทิพย์กับนรมนก็ไม่ได้ถูกเปิดเผย นอกจากคนข้างกายที่สนิทที่สุดถึงรู้ เพื่อนฉันแต่ละคนเป็นลูกคนรวยที่เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆทั้งนั้น ไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้แน่นอน”
ได้ยินที่เจตต์อธิบายแล้ว บุริศร์ก็รู้สึกว่ามีเหตุผลอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจอยู่ดี
“เรื่องวันนี้ ดีที่สุดนายกลืนลงท้องไปเลยนะ ถ้าให้ฉันรู้ว่าเรื่องออกจากปากของนาย ให้นรมนรู้แล้วละก็ ฉันเอานายตายแน่”
“นายหมายความว่า นรมนยังไม่รู้เรื่องนี้หรอ?”
แววตาของเจตต์สว่างขึ้นในทันที
มีหรอบุริศร์จะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่?
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“นายคิดว่านรมนไม่รู้เรื่องนี้ ก็จะคืนดีกับนายงั้นหรอ?สิ่งที่นายทำกับคมทิพย์ชาตินี้ เธอก็ไม่มีวันลืมมันได้ เจตต์ ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะ อยู่ให้ห่างจากเธอ ไม่อย่างนั้น……”
“แล้วจะยังไง?”
เจตต์อดไม่ได้ยั่วยุขึ้นมา
บุริศร์ก็แค่ยิ้มอย่างประชด กำลังคิดจะจัดการกับเจตต์อยู่นั้น มือถือของเจตต์จู่ๆก็สว่างขึ้นมา รูปได้ส่งมาที่มือถือของเจตต์ไม่หยุด
และคนในรูปก็เป็นนรมนทั้งนั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...