บทที่ 370 ฉันไม่แพร่งพรายออกไปแน่
“ผมรู้สึกป่วยท้องหน่อย คุณกับลูกๆหาที่นั่ง ทานอะไรไปก่อน ผมอาจจะนานหน่อยนะ ไม่ต้องรีบ”
หลังส่งเสร็จ บุริศร์รู้สึกร่างกายเพลียไปหมด
ตอนนี้เขาเพลียมากจริงๆ
หลังจากนรมนเห็นข้อความของบุริศร์แล้ว ก็รู้สึกเป็นห่วง
“คุณเป็นอะไรมั้ยคะ?”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ ไม่ต้องสนใจผมหรอกนะ เดี๋ยวผมไปหาพวกคุณเอง ”
ตอนนี้ บุริศร์กลัวว่านรมนจะมีวิธีรักษาพิเศษอะไรอีก เขาคงรับไม่ไหวอีกแล้วจริง
เป็นถึงประธานทั้งคน กลับถูกภรรยาตัวเองบังคับจนกลายเป็นแบบนี้ เขาไม่รู้จะโทษใครได้จริงๆ
นรมนเห็นบุริศร์พูดแบบนี้ เด็กๆเองก็ตื่นเต้นอยากจะเข้าไปกันจนรอไม่ไหวแล้วเลยพูด:“ได้ค่ะ เดี๋ยวคนเข้ามาหาเรานะคะ ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายจริง ต้องรีบบอกฉันนะคะ ฉันจะตามหมอมาให้ค่ะ โรคบางโรคจะปกปิดโดยที่ไม่ไปรักษาไม่ได้นะคะ”
“ผมรู้แล้ว ภรรยาที่รักดีที่สุดเลย”
บุริศร์คุยกับนรมนต่ออีกหลายคำ ถึงวางโทรศัพท์
ไม่นานป้องก็มาถึง
เขาได้เข้าไปที่ห้องน้ำตามที่บุริศร์สั่งโดยตรง พอเห็นสีหน้าของบุริศร์ในตอนนี้แล้ว ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“นี่คุณหิวขนาดไหนกัน?ถึงขั้นกำเดาไหลได้”
“อย่าเอาแต่พูดประชดอยู่เลย รีบช่วยฉันรักษาเร็ว เช้านี้ ไม่รู้ว่าภรรยาฉันให้ฉันทานน้ำซุปยาอะไรลงไป รู้สึกร้อนทรมานไปทั้งตัว เหมือนจะระเบิดได้เลยอย่างไรอย่างนั้น”
บุริศร์ถอนหายใจโล่งได้ซะที
ป้องเป็นตระกูลแพทย์แผนจีน เลยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก
“นี่คุณเป็นอะไรงั้นหรอ?พี่สะใภ้ถึงให้คุณทานยาบำรุงซะขนาดนี้?ไม่กลัวว่าจะบำรุงจนเสียสุขภาพเลยรึไง?”
ป้องรีบทำการตรวจให้เขา ตอนที่สังเกตเห็นเศษซากที่เหลืออยู่ในร่างกายแล้ว หัวเราะจนลุกไม่ไหว
“อย่าบอกฉันนะ ว่านายแค่อายุสามสิบไตก็ไม่ดีแล้ว ?ทั้งหมดนี้มันเป็นอาหารบำรุงไตชั้นดีเลยนะ”
“หุบปากไปเลย!”
นี่เป็นครั้งแรกที่บุริศร์เสียหน้าขนาดนี้ แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นภรรยาของตัวเอง เขาจะทำยังไงได้ล่ะ?
“ไหนรองพูดมาซิ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ป้องรู้สึกอยากรู้เป็นพิเศษ
“นายรักษาได้มั้ย?”
“คุณไม่บอกกับผมๆจะรู้ได้ไงว่าจะรักษาคุณยังไง?”
เห็นชัดป้องตั้งใจอยากจะรอหัวเราะเยาะบุริศร์ชัดๆ
ตอนนี้ บุริศร์ทรมานแทบตาย ไม่มีเวลามาสนใจว่าป้องจะหัวเราะเยาะแล้ว ราวเรื่องทั้งหมดของที่บ้านอย่างติดๆขาดๆให้ป้องฟังหมด
หลังได้ฟังจบป้องก็ไม่ได้หัวเราะต่อ
เมื่ออดีต ภรรยาของเขาก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ความขมขื่นใจนั้นเขารู้ดีกว่าใครๆ
“เรื่องนี้ คุณไม่กะให้พี่สะใภ้รู้เลยหรอ?”
“ให้เธอรู้แล้ว จะทำอะไรได้?มีแต่จะให้เธอเสียใจเปล่าๆ คุณหมอบอกว่า อาการจะฟื้นฟูได้ถึงแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ภายในปีสองปีนี้ พยายามอย่ามีลูก ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นอันตรายทั้งผู้ใหญ่และลูกในท้องได้ เรื่องบางเรื่อง ผู้ชายอย่างเราแบกรับไว้คนเดียวก็พอ”
บุริศร์จุดไฟบุหรี่ขึ้นมาม้วนนึง แล้วสูบลมหายใจลึกๆทีนึง
ป้องเข้าใจหัวอกของเขาดี ก็ไม่พูดอะไร แล้วฉีดยาให้เขาไปเข็มนึง ปล่อยให้ความร้อนในตัวได้ระบายออกมา
“การที่คุณทำแบบนี้ ก็ไม่ใช่วิธีที่แก้ปัญหาเลยนะ ในเมื่อพี่สะใภ้เธอคิดว่าคุณเป็นโรคแบบนี้แล้ว ต่อจากนี้หลายวัน ยาบำรุงไม่ขาดสายแน่ ท่านประธานบุริศร์คงไม่ใช่จะให้ผมมาช่วยถอนสารพิษทุกวันหรอมั่งครับ?”
ปัญหาที่ป้องพูดออกมานั้นถูกต้องเลย ทำให้บุริศร์พูดไม่ออกเลย
“นั้นจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?ถ้าไม่ได้จริงๆ ฉันก็ออกไปหลบ”
“แล้วคุณจะหลบไปไหนได้?พวกคุณสองคนเป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านเดียวกัน คุณจะไม่เจอหน้าพี่สะใภ้ได้ตลอดงั้นหรอ ?ไม่กลัวว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์สามีภรรยากันนั้นหรอ?”
คำพูดของป้องทำให้บุริศร์รู้สึกหดหู่
“แล้วนายว่าทำยังไงล่ะ?”
“เอาอย่างนี้มั้ยล่ะ ในเมื่อช่วงนี้ คุณก็ไม่คิดจะมีอะไรกับพี่สะใภ้อยู่แล้ว ผมจะจ่ายยาให้คุณไปกิน คุณก็จะมีอาการเหมือนอย่างที่คุณว่า พอพี่สะใภ้ให้คุณทานน้ำซุปยา คุณก็ทานไป แต่คุณจะไม่ทรมานได้คิดเรื่องนั้นอีก”
ป้องหยิบยาออกมาแล้วยื่นให้บุริศร์ไป
“นายหมายความว่า ช่วงนี้ฉันก็จะนกเขาไม่ขันจริงๆงั้นหรอ?”
“ถ้าคุณอยากจะเอา ก็ได้ ก็แค่หยุดทานยา แต่ฉันขอบอกคุณไว้ก่อนเลยนะ ยานี้มีผลข้างเคียง มากสุดทานได้แค่เดือนเดียว หลังจากหนึ่งเดือน คุณก็ต้องหยุด ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวกลายเป็นนกเขาไม่ขันถาวรแล้วล่ะก็ พอถึงตอนนั้น ผมยังต้องช่วยรักษาคุณอีก”
ป้องรีบเปิดปากพูด
บุริศร์รีบพยักหน้าแล้วพูด:“รู้แล้ว เรื่องวันนี้……”
“วางใจเถอะ ผมไม่แพร่งพรายออกไปแน่”
ป้องรู้ว่าบุริศร์กังวลเรื่องอะไรอยู่
“ใช่แล้ว อีกอย่าง ถ้ามีเวลาพาพี่สะใภ้มาให้ผมดูหน่อย ถ้ายังไม่ดี เดี๋ยวผมจะช่วยจัดยาให้ไปบำรุงด้วย ปกติยิ่งต้องระวังให้มาก อย่าเดินโดยเท้าเปล่าที่พื้น ยิ่งตอนที่ประจำเดือนมายิ่งต้องห้ามเลยนะครับ และต้องให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา อย่าไปทานของเย็น นิดเดียวก็ไม่ได้ ตอนนี้ เธอต้องดูแลเป็นพิเศษนะครับ”
“ขอบใจมากนะ”
บุริศร์เห็นว่าเวลานานแล้ว กลัวว่านรมนกับลูกๆจะรอนาน ถึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบา:“เอาไว้เราค่อยคุยกัน วันนี้ ฉันพาลูกๆมาด้วย เดี๋ยวจะรอนานไป”
“ได้ครับ เดี๋ยวคุณกำลังกายสักหน่อย ให้เหงื่อออกก็น่าจะไม่มีอะไรแล้วครับ”
“อืม!”
บุริศร์เดินออกจากห้องน้ำอย่างไว รู้สึกตัวเบาเป็นพิเศษ
เขาไปหาที่ๆนรมนและเด็กๆอยู่ แล้วรีบวิ่งเข้าไปหา
“เป็นอะไรมั้ยคะ?”
นรมนเป็นห่วงแทบแย่ แต่อยู่กับเด็กๆก็พูดอะไรไม่ได้ ตอนนี้เห็นบุริศร์วิ่งมาเลยรีบถาม
“ผมไม่เป็นไร”
บุริศร์ปลอบใจเธอด้วยรอยยิ้ม รู้สึกอบอุ่นในใจ
นี่ช่างเป็นภาระที่หวานชื่นจริงๆ!
เด็กๆเห็นบุริศร์กลับมา ก็ทำท่ารอไม่ไหวแล้ว
“แด๊ดดี้คะ หนูจะนั่งม้าหมุนคะแด๊ดดี้พาหนูไปได้มั้ยคะ?”
กมลมาที่นี่ครั้งแรก รู้สึกว่าที่ตรงนี้เป็นเหมือนโลกแห่งเทพนิยายเลย
บุริศร์อุ้มกมลมาถึงหน้าห้องน้ำ แต่เสียดายเขาเป็นผู้ชายตามกมลเข้าไปในห้องน้ำหญิงไม่ได้ เลยพูดด้วยเสียงเบา:“กมลคะ ลูกเข้าไปคนเดียวได้มั้ยคะ?”
“ได้ค่ะ !แด๊ดดี้รอหนูอยู่ที่หน้าประตูก็พอค่ะ”
“ได้ พอออกมา แด๊ดดี้จะรออยู่นี่นะ”
“ค่ะ”
กมลเข้าไปในห้องน้ำอย่างเชื่อฟัง
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาเข้าห้องน้ำสาธารณะที่มีคนเยอะขนาดนี้ ต้องเข้าแถวด้วย
กมลเชื่อฟังมาก รอเธอเข้าห้องน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ บุริศร์ยังคุยโทรศัพท์อยู่
เธอมองบุริศร์ทีนึง แล้วเห็นที่ไม่ไกล มีเด็กผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกับเธอ กำลังซื้อไอศครีมอยู่ข้างๆ
กมลเลยอดไม่ได้ตามไปโดยไม่รู้ตัว
“พี่คะ ของอันนี้อร่อยมั้ยคะ?”
กมลจู่ๆก็ถามขึ้นมา ทำให้เด็กผู้ชายตกใจ หันมาก็เจอเด็กผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตาพอร์ซเลนยืนอยู่ข้างๆ จ้องไอศครีมในมือของเขาเหมือนอยากจะกินมาก
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม:“ฉันเลี้ยงเธอเอามั้ย?”
“แด๊ดดี้ของหนูบอกว่า เพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ทานของเย็นไม่ได้ เดี๋ยวจะปวดท้อง หนูแค่ดูเฉยๆคะ จะถามพี่ว่าอร่อยมั้ย ?ถ้าอร่อย เดี๋ยวหนูค่อยซื้อค่ะ”
เสียงแบ๊วหวานนุ่มของกมลน่าฟังมาก
เด็กผู้ชายพูดด้วยรอยยิ้ม:“เธอเป็นเด็กเชื่อฟังมากเลย เอาอย่างนี้มั้ย ฉันซื้อให้เธอก่อน เธออย่าเพิ่งกิน รอเธอพักเสร็จแล้วค่อยกินดีมั้ย?”
“แต่ว่าหม่ามี้กับแด๊ดดี้เคยพูดว่า ห้ามกินของๆคนแปลกนะค่ะ หนูแค่ดูพี่กินก็พอค่ะ พี่กินเสร็จแล้วบอกหนูว่าอร่อยมั้ย ได้มั้ยคะ มันเป็นรสชาติอะไรดีมั้ยคะ?”
คำพูดของกมลทำให้เด็กผู้ชายอึ้งไปครู่นึง
“เธอไม่เคยกินหรอ?”
“ไม่เคยค่ะ หนูไม่สบายตั้งแต่เด็ก อยู่ในโรงพยาบาลตลอด กินของพวกนี้ไม่ได้ ตอนนี้หนูหายดีแล้วแต่ก็ต้องระวังค่ะ”
ตอนที่กมลพูดพวกนี้ รู้สึกเศร้าใจอย่างเห็นได้ชัด
เธอรู้สึกว่าพี่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าดูใจดีจัง เธอชอบคุยกับเขา
อีกอย่าง เขาหน้าตาดีมาก เหมือนพี่กานต์เลย
เสียงของเขาก็น่าฟังมาก อ่อนโยนเหมือนแด๊ดดี้เลย
กมลเลยรู้สึกดีกับเด็กผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว
เด็กผู้ชายได้ยินว่ากมลร่างกายไม่ดีตั้งแต่เด็ก เลยรีบพูด:“ผู้ปกครองของเธอไม่มาด้วยหรอ?”
“มาค่ะ แด๊ดดี้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ เดี๋ยวหนูค่อยกลับไปหาเขา”
“นั้นพวกเราไปนั่งตรงนั้นก่อน”
คำเสนอของเด็กผู้ชายกมลรีบพยักหน้ารับปาก
“ดีค่ะ!”
เด็กสองคนซื้อไอศครีมไปชิ้นนึง แล้วเดินจากบุริศร์ไปอย่างเฉยๆแบบนี้
ตอนที่บุริศร์คุยโทรศัพท์เสร็จเวลาก็ผ่านไปสิบกว่านาทีแล้ว แต่ยังไม่เห็นกมลออกมา เขาเลยอดไม่ได้เป็นห่วงขึ้นมา
เด็กคนนี้คงไม่ใช่เกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำหรอกนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...