บทที่ 390 สุดท้ายลูกเป็นเด็กนรก
กมลได้ยินคุณนายตระกูลโตเล็กพูดว่าการรู้ว่าทำผิดแล้วแก้ไขคือเด็กดีจึงรีบพาหญิงชราไปที่ห้องดอกไม้ทันทีแล้วชี้ไปที่กระถางดอกโบตั๋นสองต้นที่คุณนายโปรดปรานมากที่สุดพร้อมกับพูดว่า : “ตอนนั้นหนูโกรธมากเกินไปค่ะ ดังนั้นถึงได้ทำแบบนี้”
ตอนแรกเริ่มคุณนายตระกูลโตเล็กไม่ได้คิดว่าดอกไม้สองกระถางนี้มีอะไรที่ผิดปกติ แต่หลังจากที่พิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วพบว่า รากของดอกไม้ถูกกมลถอนออกมาแล้วจากนั้นแสร้งวางไว้ด้านบนไปแบบนั้น
มองผ่านแวบเดียวดูเหมือนว่ามีสภาพดี แต่ว่าดอกโบตั๋นเป็นสายพันธุ์ชนิดบอบบางใช่ไหม?
ดึงออกมาขนาดนี้แล้วจะยังมีชีวิตรอดได้ยังไง?
นี่คือดอกโบตั๋นสองต้นที่หญิงชราชอบมากที่สุด
หัวใจของคุณนายตระกูลโตเล็กนั้นกำลังมีเลือดหลั่งริน!
“คุณย่าคะ ย่าเคยพูดว่า รู้ว่าผิดแล้วแก้ไขจึงเป็นเด็กดี ตอนนี้หนูรู้ตัวว่าทำผิด คุณย่าไม่โกรธได้ไหมคะ?”
กมลกระพริบตากลมโตที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาทำให้คนโกรธไม่ลงจริงๆ แต่ว่าดอกไม้ของเธอล่ะ!
เธอปวดใจที่สุดเลย!
“ไม่ได้สิ กมลจ๊ะ หนูโกรธแด๊ดดี้หนู แล้วทำไมถึงดึงดอกไม้ของย่าล่ะ?”
ตรงจุดนี้หญิงชราคิดไม่ออกจริงๆ
กมลพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อยว่า : “หนูวางแผนไว้ว่าหลังจากแด๊ดดี้กลับมาจะให้มาที่นี่ค่ะ จากนั้นจะบอกย่าว่าเขาเป็นคนทำ ถึงตอนนั้นย่าจะได้ลงโทษเขายังไงล่ะคะ”
ได้ยินกมลพูดแบบนี้แล้ว หัวใจของคุณนายตระกูลโตเล็กก็มีเลือดไหล
นี่มันคือทฤษฎีอะไรกันเนี่ย
“หนูคิดว่าระดับเชาว์ปัญญาของหนูจะเล่นงานแด๊ดดี้ได้เหรอ?”
“แด๊ดดี้รักหนูมากนะคะ ขอเพียงแค่หนูขอให้เขาพาหนูเข้ามา เขาต้องพาหนูเข้ามาแน่ๆค่ะ พอถึงเวลาหนูก็จะพูดว่าเขาเป็นคนทำ”
กมลพูดเป็นเหตุเป็นผลอย่างฉะฉาน คุณนายตระกูลโตเล็กที่ดูอยู่แทบจะอยากตบสาวน้อยคนนี้สักฉาด
ทั้งหมดนี้คือทฤษฎีอะไรเนี่ย?
พวกเขาพ่อกับลูกสาวสองคนงอนกัน แต่ดอกไม้ของเธอกลับต้องมาพลอยทุกข์ทรมานไปด้วย มันทำให้เธอปวดใจจริงๆ
“คุณย่า คุณไม่โกรธใช่ไหมคะ?”
กมลดึงคุณนายตระกูลโตเล็กอยู่ที่มุม และมองไปที่เธอด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา
คุณนายตระกูลโตเล็กจะพูดอะไรได้ล่ะ? หรือว่าจะพูดว่าเธอปวดใจมาก?
แล้วเด็กอายุสี่ขวบจะรู้อะไร
คุณนายตระกูลโตเล็กถอนหายใจและพูดว่า : “ต่อจากนี้ไม่อนุญาตให้อาดอกไม้ของย่ามาระบายอารมณ์อีกแล้วรู้ไหม?”
“รู้แล้วค่ะ”
กมลถอนใจยาวอย่างโล่งอก
ยังดียังดี คุณย่าไม่โกรธ
เธอแลบลิ้นใส่หลังของคุณนายตระกูลโตเล็ก แล้ววิ่งหายวับไปกับตาออกมาจากห้องดอกไม้
คุณนายตระกูลโตเล็กมองดอกโบตั๋นที่ตายไปแล้วอย่างเจ็บปวดใจ แต่ก็ต้องจำใจให้คนมาเอาต้นโบตั๋นสองต้นนี้ออกไปโยนทิ้ง
ในตอนที่บุริศร์กับนรมนออกมาก็เห็นคนรับใช้สองคนแบกกระถางดอกโบตั๋นสองใบออกไปโยนทิ้งข้างนอกพอดี
นรมนยังจำได้ว่าเมื่อไม่นานนี้ตนเองยังพรวนดินให้กับดอกไม้ต้นนี้อยู่เลยจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ดอกไม้นี้เป็นอะไรไป? ทำไมย้ายออกมาแล้วล่ะ?”
“คุณนาย ดอกไม้นี้ถูกคุณหนูน้อยดึงออกมาเลยไม่รอดแล้ว คุณนายตระกูลโตเล็กจึงให้เราโยนออกไป คุณไม่รู้หรอกว่า คุณนายเจ็บปวดใจอย่างที่สุดเลย!”
ทันทีที่ได้ยินคนรับใช้พูดเช่นนี้แล้ว นรมนและบุริศร์ก็มองหน้ากันราวกับไม่อยากเชื่อว่ากมลจะทำเรื่องนี้
“นายบอกว่ากมลทำงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วครับ คุณหนูน้อยวางแผนโยนความผิดให้กับคุณชายใหญ่ คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ คุณหนูน้อยรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยเป็นฝ่ายเริ่มยอมรับผิดกับคุณนาย คุณนายบอกไว้ว่า ถ้าหากว่าเด็กเริ่มที่จะยอมรับความผิดก็ไม่สามารถลงโทษได้ จึงปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปแบบนี้”
มุมปากของบุริศร์กระตุก
“นายบอกว่าเด็กน้อยคนนั้นอยากจะวางกับดักฉันงั้นเหรอ? ฉันจะทำเรื่องปัญญาอ่อนขนาดนั้นได้เหรอ?”
“เอาล่ะค่ะ”
นรมนรู้สึกว่าจุดสำคัญที่บุริศร์เอาใจใส่นั้นไม่ถูกต้อง
“หันไปมองดูแล้วก็ซื้อใหม่คุณแม่อีกสองกระถางเถอะค่ะ ฉันมองออกว่าคุณแม่ชอบดอกโบตั๋นสองกระถางนี้มากที่สุด ลูกสาวของคุณเองเหมือนกัน ทำไมจู่ๆถึงได้น่าเป็นห่วงขนาดนี้นะ?”
นรมนรู้สึกว่ากมลยังถือว่าเป็นเด็กที่ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆเธอจะสามารถทำเรื่องประเภทได้ ดูเหมือนว่าสุดท้ายลูกจะกลายเป็นเด็กนรกไปแล้ว!
“เข้าใจแล้ว”
บุริศร์ไม่มีอะไรจะพูดอีก
ทั้งครอบครัวไปที่ห้องทานข้าว โดยตรินท์และกิจจากลับมาพอดี กมลมีความสุขมากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองเห็นกิจจา
“พี่กิจจา หนูคิดถึงคุณจะตายอยู่แล้ว”
เธอตรงเข้าไปกอดกิจจาใหญ่
กิจจายิ้มกว้างจนไปถึงใบหูด้านหลังอย่างมีความสุข เขาลูบหัวกมลแล้วพูดว่า : “ได้ยินว่าพวกหนูไปเที่ยวสวนสนุกแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะ เสียดายที่คุณไม่อยู่ ครั้งหน้าจะพาคุณไปด้วยดีไหมคะ?”
“ตกลง!”
กิจจารีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่กานต์ลงมาจากชั้นบนนั้นดูมีเรื่องหนักอกหนักใจอย่างเห็นได้ชัด
“เฮียครับ คุณอยู่ที่นี่หลายๆวันไม่ได้เหรอ?”
กิจจาชอบอยู่กับกานต์เป็นพิเศษ
กานต์มองไปที่บุริศร์
บุริศร์ยิ้มและพูดว่า : “โอเค ลูกกับกมลอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าได้อีกสองสามวันก็แล้วกัน”
“ตกลงครับ”
หาได้ยากที่กานต์จะไม่ต่อต้าน ตรงกันข้ามมันกลับทำให้กิจจารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เฮีย เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“กินข้าวกัน!”
กานต์ไม่อยากพูดมากกว่านี้ เขาไม่อยากที่เอาเรื่องโง่ๆที่เขาทำมาบอกกิจจาหรอก
ทั้งครอบครัวกินข้าวอย่างมีความสุข
ตุลยาวิตกกังวลขึ้นมาทันที
แต่ว่าตอนนี้คนที่จะช่วยเธอได้มีน้อยเกินไปจริงๆ
ถ้ากลับอเมริกาตอนนี้ เธอก็ไม่ค่อยไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
ในขณะที่ตุลยาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขวางทางของเธอ
“ต้องการให้นรนชื่อเสียงป่นปี้จนไม่มีเวลาดำเนินคดีกับคุณหรือเปล่า? ฉันมีวิธีที่ดีว่าพวกเราจะร่วมมือกันได้อย่างไร?”
ตุลยามองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“คุณคือใคร?”
“คุณไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันคือใคร ขอเพียงแค่ร่วมมือกับฉัน คุณก็จะไม่เป็นอะไร และยิ่งไปกว่านั้นคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็จะให้ความช่วยเหลือคุณต่อไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกอย่างไร ถ้าหากคุณไม่ร่วมมือกับฉัน นรมนอาจส่งวิดีโอให้กับสถานีตำรวจในวันพรุ่งนี้ พอถึงเวลาคุณอยากจะหนีก็สายไปแล้ว ฉันต้องบอกคุณว่า ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ทำลายความสัมพันธ์กับนรมนอย่างเป็นทางการเพราะเรื่องของคุณ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อหญิงสาวพูดออกมา ดวงตาของตุลยาสว่างขึ้นในทันทีทันใด
“คุณบอกว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาตัดความสัมพันธ์กับนรมนเพื่อฉันงั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง เพราะฉะนั้นคุณยังมีสถานะอยู่ในใจของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาอย่างแน่นอน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกยังไง ทำเสร็จแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นลูกบุญธรรมตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆแล้วก็ได้ทั้งชื่อเสียงกับผลประโยชน์คู่กัน แล้วยังทำให้นรมนเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกด้วย ถ้าหากคุณไม่ร่วมมือ ฉันก็ไม่มีอะไรจะเสีย ก็เพียงแค่มองดูนรมนได้รับการปกป้องจากคนของตระกูลโตเล็กต่อไปแล้วก็มีชีวิตที่ดีกว่าคุณเท่านั้นเอง”
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะร่วมมือกับคุณ”
ทันทีที่ตุลยาได้ยินว่านรมนจะมีชีวิตที่ดีกว่าตนเอง เธอก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว
ทั้งๆที่เกิดมาจากแม่คนเดียวกันแล้วทำไมโอกาสของคนสองคนถึงได้ต่างกันมากขนาดนั้น?
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคิดถึงบุริศร์ที่อยู่ข้างกายเธอ ผู้ชายแบบนั้นถึงจะเป็นคนที่เธอต้องการ
หญิงสาวยิ้มให้อย่างสวยงามแล้วส่งของบางอย่างให้กับตุลยาและกระซิบว่า : “คุณคิดวิธีที่จะเผยแพร่ของเหล่านี้ออกไป ฉันกล้ารับประกันเลยว่าในช่วงระยะเวลาสั้นๆนรมนจะไม่มีเวลาสนใจเรื่องที่คุณฆ่าคิมอย่างแน่นอน”
ตุลยารู้สึกแปลกใจและอดไม่ได้ที่จะเปิดดูอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสีหน้าก็มีความประหลาดใจ
“ทำไมคุณถึงมีของพวกนี้?”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจ แล้วฉันจะติดต่อคุณอีกครั้ง”
หญิงสาวหันหลังแล้วเดินเข้าไปท่ามกลางฝูงชนหลังจากพูดจบ
ตุลยามองดูของที่อยู่ในมือแล้วริมฝีปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
ดูเหมือนกับว่าเธอมองเห็นชีวิตและชื่อเสียงที่ป่นปี้ของนรมนแล้ว
นรมน!
จะไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง! ฉันตุลายาขอยืนยัน!
เธอรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว พอมองไปรอบๆแล้ว ตอนที่เห็นว่าไม่มีใครมองเห็นภาพนี้จึงได้รีบเร่งจากไป
ในตอนที่ไมค์พบตุลยาอีกครั้ง เธอกำลังนั่งร้องไห้อยู่ริมถนน ร้องไห้ชนิดที่เรียกว่าทุกข์ระทม ร้องจนหัวใจของไมค์แทบสลาย
“ตุลยา คุณเป็นอะไรไป?”
“นรมนต้องการจะฆ่าแม่ของฉัน! แต่ถูกคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาเห็นเข้า ดังนั้นคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจึงได้ตัดความสัมพันธ์กับนรมน แม่ของฉันเองหัวใจสลายเช่นกัน และหนีออกจากบ้านไปแล้ว ตอนนี้ยังหายไปไร้ร่องรอย ไมค์คะ คุณบอกฉันทีว่าทำไมชีวิตถึงได้ขมขื่นขนาดนี้? แม่ของฉันจะไปที่ไหนได้ล่ะ? เธอจะปลงไม่ตกจนฆ่าตัวตายหรือเปล่า?”
ตุลยาน้ำตาไหลอยู่ในอ้อมแขนของไมค์ คำที่พูดออกมาทำให้ไมค์นิ่งอึ้งไปทั้งตัว
นรมนฆ่าคิม!
เป็นไปได้ยังไง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...