บทที่ 41 ฉันไม่ได้ชื่อสวัสดี
“ฉันไม่ได้ยินว่าเคยมีใครพูดถึงเด็กที่ชื่อกานต์คนนี้มาก่อนเลยค่ะ เป็นคุณชายของตระกูลไหนกันนะ?”
เขมิกาถามอย่างระมัดระวัง
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเบาๆ ว่า “ช่างเถอะ รอให้กิจจาไปถามเพื่อนร่วมฉันเรียนของเขาวันหลังเถอะ คุณต้องดูแลเขาให้ดี ครั้งนี้ แคทเธอรี นักวางแผนโครงการ เกิดอุบัติเหตุ ,บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดของพวกเราถูกผลักให้ไปอยู่ท่ามกลางจุดสนใจ
ผมต้องไปโรงพยาบาลเพื่อจัดการสักหน่อย”
พูดจบ บุริศร์ก็ลุกขึ้นและจากไป แต่เขมิกาดึงแขนเขาไว้
“บุริศร์ บริษัทมีคนตั้งมากมายสามารถไปจัดการได้ อีกทั้ง แคทเธอรี นักวางแผนโครงการ เธอก็เป็นผู้หญิง มันไม่ค่อยสะดวกหรอก ถ้าคุณซึ่งเป็นผู้ชายจะไปดูแลเธอ เอาแบบนี้ดีมั้ยคะ ให้ฉันจะไปดูแลเธอแทนคุณ?แล้วฉันเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ระหว่างฉันกับเธอมันก็จะไม่แปลก ใช่มั้ยล่ะ?”
ตาเขมิกาเป็นประกาย
แต่บุริศร์พูดเบาๆว่า “ไม่ต้องหรอก แม้คุณจะเป็นผู้หญิง แต่ระหว่างคุณกับแคทเธอรีมีเรื่องกันนิดหน่อย ทั้งเมืองชลธีต่างก็รู้กันหมดแล้วว่า ไม่ว่าคุณจะไปดูแลเธอก็ดี หรือไม่ไปก็ดี บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดของพวกเราก็อาจจะต้องถึงจุดจบแล้วจริงๆ คุณแค่อยู่บ้านดูแลกิจจาให้ดีๆก็พอแล้วล่ะ”
“แต่ว่า......”
“เอาล่ะ เอาอย่างนี้แหละ กิจจาคือทายาทของตระกูลโตเล็ก คุณดูแลเค้าให้ดีๆ น่ะถูกแล้ว”
บุริศร์ขัดจังหวะการพูดของเขมิกา,ลุกขึ้นแล้วก็ออกไป
เขมิกามองตามแผ่นหลังเขา รู้สึกว้าวุ่นไม่น้อย
ทำอย่างไรดี?
บุริศร์ออกมาจากบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กแล้ว,ไปที่บริษัทมาแล้วหนึ่งรอบพบว่าแผนกรักษาความปลอดภัยกำลังซ่อมแซมระบบรักษาความปลอดภัยหลังจากถูกบุกรุก จู่ๆก็ปวดหัวขึ้นมา
สุดท้ายแล้วปัญหาอยู่ที่ตรงไหนกันนะ?
ทำไมช่วงนี้ปัญหาถึงได้เยอะขนาดนี้นะ?
หรือว่านรมนมีส่วนเกี่ยวข้อง?
เวลาเขากลับมาถึงที่ห้องพักผู้ป่วย นรมนก็ยังหลับอยู่ พยาบาลพิเศษก็พูดว่าเธอพักอยู่จึงไม่ได้ระมัดระวังมากนัก
บุริศร์ไล่พยาบาลพิเศษออกไปและเข้ามาดูแลด้วยตัวเอง
หลังจากที่กานต์ไปที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว มองไปทางที่นั่งของกิจจาโดยบังเอิญ เมื่อไหร่ที่เขาเห็นว่าที่นั่งของกิจจาว่างอยู่ ความกังวลก็จะเคลื่อนผ่านดวงตาของเขา
“รู้มั้ยว่าทำไมวันนี้กิจจาถึงไม่มา?”
เขาถามทองเอก เพื่อนร่วมฉันที่นั่งข้างๆ
ทองเอกพูดเบาๆว่า “ได้ยินมาว่าเมื่อวานกิจจาถูกแม่ของเขาตี เป็นไข้ทั้งคืนเลย วันนี้คนของตระกูลโตเล็กมาลาหยุดให้ บอกว่าเขายังไม่ได้สติเลย”
จู่ๆ มือของกานต์ก็ประสานเข้าด้วยกัน
กิจจาป่วยหรอ?
เขารู้สึกผิดขึ้นมาทันที
ตลอดทั้งวันกานต์เอาแต่ใจลอย ในใจนึกถึงท่าทางใจดีและฉลาดของเขาไม่หยุด
จริงๆ แล้วนอกจากเรื่องที่เขาเป็นลูกชายของบุริศร์แล้ว ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ไม่ชอบไม่ใช่หรอ?
กานต์รู้สึกสับสนตลอดจนกระทั่งเวลาเลิกเรียน มาถึงโรงพยาบาลแล้วพร้อมกับทิพย์ ทันทีที่เห็นบุริศร์ กานต์ผงะเล็กน้อย เล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
บุริศร์คิ้วขมวดเล็กน้อย
“เธอเรียกฉันหรอ?”
“อื้ม”
“ฉันไม่ได้ชื่อสวัสดี ฉันชื่อบุริศร์ เธอเรียกฉันว่าคุณอาริสก็ได้หรือจะเรียกฉันว่าประธานบุริศร์ก็ได้”
บุริศร์ไม่พอใจกับท่าทางและการเรียกของกานต์เลย แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์ระหว่างเขากับเจ้าหนูคนนี้ให้ผ่อนคลายขึ้นได้ยังไง
แม้ว่ากิจจาจะเรียกเขาว่าพ่อ แต่ตั้งแต่เล็กจนโตภายใต้การอบรมสั่งสอนของเขมิกากิจจาจึงเอาแต่คิดว่าต้องเคารพเขา ยิ่งไปกว่านั้นในบางทียังรักษาระยะห่างกับเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงแทบจะไม่รู้เลยจริงๆว่าจะต้องเข้ากับเด็กยังไง
กานต์ขมวดคิ้วนิดหน่อย ท่าทางแบบนั้นช่างเหมือนกันกับบุริศร์เสียจริงๆ
“ได้ยินว่ากิจจาป่วยหรอครับ อาการหนักมั้ย?
กานต์ถามอย่างอึดอัดใจ
บุริศร์เห็นท่าทางของเขาแบบนี้แล้ว ก็ยิ้มออกมาทันที
“เธออยากไปเยี่ยมเขามั้ยล่ะ?”
“ผมยังไม่ได้คิดเลย คนทิ่มแบบนั้นมีอะไรน่าดู ผมก็แค่ถามดูเฉยๆ”
กานต์หันหน้าไปอย่างภาคภูมิใจ แต่มือเล็กๆนั้นกลับกุมชายเสื้อเอาไว้ แสดงให้เห็นถึงความกังวล
บุริศร์คิดว่าท่าทางแบบนี้ของกานต์ช่างเหมือนกับเด็กเล็กๆ คนนึง เงอะงะแต่ก็น่ารัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...