บทที่ 471 ไม่เข้าใจก็ถูกแล้ว
นรมนเห็นทีท่าของธรณี เธอก็ไม่อาจใจร้ายตำหนิอะไรเขา เพียงแค่เอ่ยเสียงเรียบ “ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไม่ว่ายังไง ใครจะทำร้ายฉันก็ได้ แต่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่มีทางคิดทำร้ายฉัน ต่อให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่ชอบฉัน เธอก็คงไม่มีทางยืนมองฉันไปตายต่อหน้า เพราะงั้นเรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ ฉันถูกโจมตีแถวบริเวณคลับCrown แต่กลับมาอยู่ที่คลับเฮาส์ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ในนี้มีความเกี่ยวข้องยังไงกันแน่ฉันยังคิดไม่ออก ฉันบอกได้แค่ว่าคุณไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ ตอนนี้ร่างกายฉันอ่อนแอมาก หลายเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจ รออีกสักวันสองวันจนร่างกายฉันดีขึ้น ฉันจะสืบหาความจริงของเรื่องนี้กับคุณ”
ธรณีรู้สึกเจ็บปวดใจ กับประโยคที่นรมนได้กล่าวออกมา
“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำผิดต่อเธอจริงๆ ผมหยุดการกระทำของท่านแม่ไม่ได้ ไม่สามารถกักตัวตุลยาเอาไว้ได้ ปล่อยให้เธอหนีออกไปได้ ทำให้เธอมีสภาพแบบนี้ เธอวางใจได้เลย ฉันสั่งคนออกไปตามหากมลแล้ว หากมีความคืบหน้าอะไร ฉันก็จะ…..”
“กมลไม่เป็นอะไร เธอกลับบ้านแล้ว”
นรมนไม่คิดเลยว่าธรณีจะยังเป็นห่วงเรื่องของกมลอยู่อีก
ทีแรกที่บุริศร์ตัดสินใจทำเช่นนั้น เธอเสียใจจริงๆ นั่นแหละ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากอะไรอีกต่อไปแล้ว
เมื่อธรณีได้ยินคำของนรมน เขานิ่งไปอย่างฉงนเล็กน้อย แต่ก็้เข้าใจในเล่ห์กลในนี้อย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นเพียงแผนการ? ที่บุริศร์ได้วางเอาไว้งั้นเหรอ?”
“ใช่ ต้องขอโทษด้วย ที่ทำให้พวกคุณเป็นห่วง”
เรื่องนี้ นรมนเองก็รู้สึกว่าบุริศร์ทำเกินไป และเธอเองก็ติดคำขอโทษตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆ
ใช่สิ!
หากกมลถูกลักพาตัวจริงๆ บุริศร์จะไปจากเมืองชลธีในเวลานั้นได้อย่างไร?
หากไม่ใช่เพราะกมลถูกลักพาตัว นรมนเธอไม่มีทางไปเอาเรื่องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแน่ และตุลยาเองก็ไม่มีทางเผยธาตุแท้ออกมา คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองก็ไม่มีทางรู้ถึงสาเหตุที่ร่างกายเธออ่อนแอเช่นนี้จนวันตาย
เพราะงั้นหากจะบอกว่าถือโทษงั้นเหรอ?
ธรณีไม่สามารถถือโทษได้เลย
“บุริศร์ไปจากเมืองชลธีเพราะเรื่องนี้เหรอ?”
“ฉันไม่รู้”
นรมนไม่รู้จริงๆ อันที่จริงเธอไม่เข้าใจเลยต่างหาก ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ที่จะทำให้บุริศร์ไปจากเมืองชลธีโดยไม่สนใจอะไรเลยทั้งสิ้น
คมทิพย์ฉงนกับสิ่งที่ได้ยิน เธออดที่จะถามไม่ได้ “พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจเลยสักประโยค?”
“ไม่เข้าใจก็ถูกแล้ว”
นรมนเอ็นดูคมทิพย์ที่เป็นเช่นนี้อยู่มาก
ใสซื่อ มีความเพียร มักจะออกหน้าปกป้องเพื่อนพ้องโดยไม่กลัวตายเสมอ สำหรับเธอยิ่งรับรู้น้อยเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อตัวเธอเอง และปลอดภัย
หากแต่คมทิพย์กลับรู้สึกว่าตนเองเหมือนกับไอ้โง่ ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
ธรณีเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ผมแค่ไม่เข้าใจ ว่าบุริศร์ทำยังไงจะได้เล่นอะไรฉากใหญ่กับคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ขนาดนี้?”
“ได้ข่าวว่าเพราะคนขับรถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ครอบครัวของเขามีคนป่วย ต้องการใช้เงินด่วน บุริศร์ถึงได้ถือโอกาสนี้ เป็นเขาเองที่ไม่ขาวสะอาดพอ ฉันต้องขอโทษแทนเขาด้วย”
ความห่างเหินของนรมนทำให้ธรณีรู้สึกเจ็บปวดใจ
จากคนที่ใกล้ชิดที่สุด ตอนนี้กลับแปลกหน้าไปเสียขนาดนี้ แม้แต่เจตต์เขาก็ยังเทียบไม่ได้
ธรณีเอ่ยอย่างเสียใจ “ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเองต่างหากที่ต้องขอโทษเธอ แต่ว่านรมน เธอเป็นลูกหลานของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา สายเลือดย่อมตัดไม่ขาด”
“พอได้แล้ว คุณชายธรณี คุณจะพูดเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันแน่?”
นรมนไม่ได้พูดอะไรออกมา หากแต่คมทิพย์เองที่ทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป
“สายเลือดที่คุณว่า การกระทำความคิดทั้งหมดอยู่ในมุมมองของพวกคุณเอง เคยนึกถึงมุมมองของนรมนบ้างไหม? คุณรู้สึกว่าตนเองลำบากมากเลยใช่ไหม? หรือแม้แต่ขัดข้อกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเพื่อนรมน คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันมากพอแล้วใช่ไหม?”
ประโยคของคมทิพย์ทำให้นรมนคาดเดาถึงคำต่อไปที่เธอจะสื่อ เธอกระตุกชายเสื้อของคมทิพย์
แต่คมทิพย์ไม่แยแสแต่อย่างใด พลันเอ่ยเสริม “คุณคิดว่าแค่นี้เพียงพอแล้วจริงๆ น่ะหรือ? หากคุณมองนรมนเป็นสายเลือดครอบครัว หากเธอเป็นลูกสาวของคุณ คุณจะปล่อยให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดารับตุลยาเป็นหลานสาวไหม ตั้งแต่ต้น คุณก็คอยแต่จะตามใจคุณนาย อ้างว่าคุณทำเพื่อปกป้องนรมน ด้วยความรัก อันที่จริง คนที่คุณอาลัย และรักมากที่สุดคือแม่ของคุณต่างหาก! หากคุณยืนกรานที่จะห้ามคุณนายรับตุลยาเป็นหลานสาวตั้งแต่แรก จะมีเรื่องบ้าๆ ตามหลังนี่เกิดขึ้นไหม? หากคุณยืนยันปกป้องนรมน ตั้งแต่ที่เธอคิดวางแผนพวกนี้ เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับคุณนายฟัง ไม่ใช่การตามใจคุณนาย เรื่องทุกอย่างจะมาถึงจุดนี้ไหม? คุณนายของคุณบีบบังคับนรมนทุกวิถีทาง นอกจากที่คุณกลับไปโหวกเหวกสองสามประโยค คุณยังได้ทำอะไรอีกไหม? เพราะงั้นอย่าทำเสมือนว่านรมนไร้เยื่อใย ทำผิดต่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาก เป็นตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเองต่างหากที่ไม่ได้มองเธอเป็นครอบครัวแต่แรก!”
“คมทิพย์!”
นรมนรู้สึกว่าที่เพียงคนอย่างคมทิพย์ที่ไม่กลัวฟ้าดิน ถึงได้กล้าพูดสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าธรณี
แถมตอนนี้มาพูดเรื่องพวกนี้ยังมีความหมายอะไรงั้นเหรอ?
แม้ว่าสิ่งที่เธอพูดไปทั้งหมดจะเป็นความจริงก็ตาม
ธรณีนิ่งอึ้งอยู่กับที่
เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมดนี่ ดูเยือกเย็นในสายตาคนอื่น และไร้ค่าถึงเพียงนี้
เขารู้สึกว่าตัวเขาทำเพื่อนรมนมากมายเหลือเกิน แม้กระทั่งต่อต้านผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าก็ตาม แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่คมทิพย์เล่า เขากลับรู้สึกตัวขึ้นมา ว่าสิ่งที่คมทิพย์ว่ามานั้นเป็นเรื่องจริง ตั้งแต่แรกเริ่ม เขาก็ไม่ได้ปกป้องนรมนสุดความสามารถ แม้เขาจะรับรู้ถึงความลำบากใจของเธอ เธอไม่ผิด แต่ในใจเขา มารดาของเขาครอบครองตำแหน่งที่สำคัญในใจเขา คมทิพย์พูดถูก หากเขาปิดกั้นความสัมพันธ์ของมารดาเขาและตุลยาอย่างแน่วแน่ บางทีอาจจะไม่เกิดเรื่องราวหลังจากนั้นขึ้น
เพราะงั้นคิมเธอเสียใจและผิดหวังมากถึงได้จากไปงั้นเหรอ?
ธรณีรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์
เขาที่เป็นแบบนี้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเช่นนี้ จะให้นรมนยอมรับได้อย่างไร? และจะให้นรมนให้อภัยได้อย่างไรกัน?
ที่แท้เรื่องทุกอย่างนี้เป็นความผิดของพวกเขาเอง เป็นพวกเขาเองที่ทำลายความรู้สึกที่นรมนมีให้กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจนทีละน้อยจนไม่เหลือ
คมทิพย์เจ็บปวดใจ เมื่อเห็นสภาพอิดโรยใบหน้าขาวซีดของเธอ
“เข้าใจแล้ว คุณนาย”
นรมนหยอกล้อคมทิพย์อยู่สักพัก จนเธอเริ่มรู้สึกง่วง
เธอหยิบยาขึ้นกิน ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน
เมื่อเห็นว่านรมนดีขึ้นบ้างแล้ว คมทิพย์จึงห่มผ้าให้กับเธอ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เธอ
องครักษ์ส่วนตัวเห็นฉากนี้เข้า รู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดก็หยิบผ้าขึ้นห่มกายเธอ
โพนี่ที่เข้ามาตรวจสุขภาพ เห็นภาพตรงหน้าเข้า เธอรู้สึกชอบคมทิพย์ขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมห่างจากนรมนเลย ดูก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งคู่แน่นแฟ้นอย่างมาก
ในขณะที่เธอทำการตรวจ นรมนลืมตาตื่นขึ้นกะทันหัน เมื่อเห็นโพนี่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเห็นเธอตื่นตระหนก โพนี่รู้สึกเห็นใจเล็กน้อย “ด้านนอกมีแต่ตนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลโตเล็ก คุณไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ พักผ่อนเถอะ ร่างกายของเธอไม่พักผ่อนไม่ได้”
“ไม่เป็นไรหลอก”
นรมนส่งยิ้มให้กับเธอ โพนี่ชื่นชมในความอดทนของเธอ
ผู้หญิงทั่วไปหาเจอเหตุการณ์เช่นนี้เข้า ต้องรู้สึกแย่และเสียใจมากแน่ แต่เธอไม่เคยเห็นนรมนเรียกร้องใดๆ เลยทั้งสิ้น ตรงข้าม เธอดูเข้มแข็ง จิตใจไม่หม่นหมองเลยแม้แต่น้อย “เธอดูดีมากเลย สิ่งสำคัญของคนป่วยคือจิตใจ หากจิตใจดี ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ไม่น่ากลัวทั้งนั้น”
นรมนพยักหน้ายิ้มรับประโยคของโพนี่
“คุณหมอโพนี่ ฉันอยากจะถามอะไรคุณหน่อย”
“ว่ามาเลย”
“ร่างกายฉันเป็นอะไรกันแน่?”
นรมนไม่ได้โง่ ตัวเธอเป็นแบบนี้กะทันหัน เป็นไปได้ว่าอาจจะได้รับบาดเจ็บจากการถูกลักพาตัว แต่นรมนก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
เธอไม่อยากคิดมาก แต่ตอนนี้ย้อนคิดกลับไป
หลังจากที่ประจำเดือนครั้งนี้มา เธอรู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติ
แล้วคนอย่างโพนี่มาดูแลเธอด้วยตนเอง หลังจากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัดกว่า14ชั่วโมง ได้ยินคมทิพย์บอกว่า ตนอาจจะมีอันตรายถึงชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างนี้แสดงว่า
ร่างกายของเธอผิดปกติ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...