แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 484

บทที่ 484 ใครใช้ให้ฉันเป็นคุณนายตระกูลไฮโซล่ะ

คมทิพย์ทำท่าทางอย่างกับว่า ถ้าวันนี้เธอไม่พูดเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน ฉันก็จะไม่มีทางปล่อยให้เธอออกไปแน่

นรมนทอดถอนใจออกมาทีหนึ่ง “ก็ได้ ฉันบอกเธอก็ได้ วันนี้เป็นวันที่กานต์และกมลจะไปเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว ฉันอยากจะไปส่งพวกเขาด้วยตัวเองได้หรือเปล่า? เธอบอกว่าตอนนี้สีหน้าของฉันไม่ค่อยดี แล้วถ้ายังไม่ไปซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ มาประดับซะหน่อย ก็จะทำให้พวกเด็ก ๆ ขายหน้าแล้วนะซิ?”

พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ คมทิพย์ก็จ้องเธอเขม็งทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ด้วยรูปโฉมของเธอแบบนี้ ใครจะกล้าพูดว่าทำให้พวกเขาสองคนขายหน้ากันล่ะ?”

“เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันเป็นคนที่เป็นแม่คนแล้ว เธอไม่เข้าใจหรอก รอให้เธอมีลูกแล้วเธอก็จะเข้าใจเองแหละ รีบไปช่วยฉันทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเร็ว!”

นรมนรีบผลักคมทิพย์ออกไปเลย

ในตอนแรกนั้นคมทิพย์ไม่อยากจะตอบตกลง แต่พอลองคิดดูแล้ว ก็ไปที่ห้องทำงานของโพนี่ก่อนดีกว่า กะว่าจะไปถามให้ชัดเจน ว่านรมนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้จริง ๆ แล้วเหรอ

แล้วถือในช่วงเวลาที่ว่างนี้ นรมนก็เรียกพฤกษ์เข้ามา

“คุณนายครับ คุณมีอะไรจะรับสั่งครับ?”

นรมนจ้องมองพฤกษ์ที่อยู่ข้างหน้า แล้วอยู่ ๆ ก็พูดอย่างเข้มงวดขึ้นว่า “คุณมีวิธีให้คมทิพย์จากไปพร้อมกับคุณไหม ทางที่ดีที่สุดก็คือออกไปจากเมืองชลธีในช่วงนี้เลย”

พฤกษ์อึ้งไปเล็กน้อย

“คุณนายครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วเหรอครับ?”

พฤกษ์ความรู้สึกไวมาก เขาสามารถรู้สึกได้ว่านรมนมีเรื่องอะไรปิดบังทุกคนไว้ แต่ว่าในเมื่อนรมนไม่พูด เขาก็จะไม่ถาม แต่ว่าตอนนี้ถึงกับจะให้พาคมทิพย์จากไปเลย พฤกษ์จะไม่ถามก็ไม่ได้แล้ว

นรมนจ้องมองพฤกษ์ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ช่วงหลายวันนี้บุริศร์เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ตอนนี้ฉันยังไม่มีวิธีที่จะพูดกับคุณให้ชัดเจน วันนี้เขาจะกลับมา แล้วพวกเราจะทำเรื่องบางอย่าง คมทิพย์อยู่ทางนี้จะไม่ปลอดภัย เพราะฉะนั้นฉันหวังว่าคุณจะพาเธอออกไปจากที่นี่ซะ”

“แต่ว่าผมเป็นผู้ช่วยพิเศษของประธานบุริศร์ ผมไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ ผมสามารถรับปากกับคุณนายได้ว่าจะพาเธอไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยสักแห่ง แต่ผมจะกลับมา”

“พฤกษ์”

อยู่ ๆ นรมนก็เปิดปากพูดขึ้น

“ฉันรู้ความรู้สึกและความซื่อสัตย์ที่คุณมีต่อบุริศร์ แต่ว่าถ้าหากว่าคุณหวังดีต่อพวกเราจริง ๆ ก็เชื่อฟังฉัน ปกป้องคมทิพย์ให้ดี แล้วก็หยุดสนใจเรื่องทั้งหมดของเมืองชลธีไปก่อนชั่วคราว ต่อไปบุริศร์จะติดต่อคุณไปเอง ตอนนี้คุณก็จำศีลไปก่อน การพาคมทิพย์ไปจากเมืองชลธีก็ถือได้ว่าเป็นป้ายเบิกทางอันหนึ่ง ต่อไปบุริศร์จะได้ทำงานสะดวกได้ เข้าใจไหม?”

พอนรมนพูดมาแบบนี้ ถึงแม้ว่าพฤกษ์จะไม่ชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ว่าก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้า

“อันนี้พูดง่าย จะให้พาเธอจากไปนั้นผมมีวิธีแน่นอน เพียงแต่ว่าถ้าผมจากไปแล้ว คุณตัวคนเดียวถ้าหากเจอกับอันตรายเข้าจะทำยังไงล่ะ?”

“ไม่มีทางหรอก ฉันติดต่อกิมจิแล้ว กิมจิจะมาคุ้มกันฉันเอง”

คำพูดของนรมนทำให้พฤกษ์มีความวางใจขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

“ประธานบุริศร์ไม่ต้องให้ผมไปรับเหรอครับ?”

“ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองก็พอแล้ว อีกเดี๋ยวฉันกับคมทิพย์จะไปเดินซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า คุณช่วยคิดวิธีหนึ่งมาพาคมทิพย์จากไปหลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้ว แล้วก็พูดว่าทุกอย่างเป็นความคิดของฉันเอง บอกว่าที่ฉันให้เธอจากไปก่อนเพราะว่าพอผ่านไปช่วงหนึ่งแล้วจะได้ต้อนรับฉันที่ข้างนอกได้ สำหรับเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้น คุณก็บอกว่าตัวคุณเองก็ไม่รู้ ฉันไม่ให้คุณรู้ แล้วก็ไม่ให้เธอถามมากด้วย พฤกษ์ ฉันเอาคมทิพย์ฝากฝังไว้กับคุณแล้ว ถ้าหากว่าเธอเกิดอันตรายอะไรขึ้น ฉันจะไม่มีทางให้อภัยคุณแน่ คุณจะต้องรู้ไว้นะว่า เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”

นรมนนั้นทนทำใจให้คมทิพย์จากไปไม่ได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถให้คมทิพย์อยู่ต่อไปได้จริง ๆ

เมืองชลธีในตอนนี้เธอดูไม่เข้าใจเลยสักนิด

ถ้าหากว่าแม้แต่บุริศร์ก็ยังสามารถโดนคนปองร้ายอย่างไม่มีร่องรอยสักนิดได้ ถ้าอย่างงั้นคมทิพย์ที่ใสซื่อทำไมถึงจะโดนคนหลอกใช้ไม่ได้ล่ะ?

ในเมื่อคนที่รู้ว่าเธอและคมทิพย์มีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อกันนั้นมีอยู่ไม่น้อย

ถึงแม้ว่าพฤกษ์จะไม่อยากจากไปอยู่บ้าง แต่ว่าพอเห็นท่าทางที่ระมัดระวังเช่นนี้ของนรมนแล้ว ก็อดที่จะพยักหน้าไม่ได้

“คุณนายคุณวางใจเถอะ ผมจะดูแลเธอให้ดีเอง เธอเป็นแฟนของผม เป็นภรรยาในอนาคตของผม ผมจะใช้ชีวิตของผมไปปกป้องเธอเอง แต่ว่าทางด้านคุณกับประธานบุริศร์ ถ้าหากว่าต้องการความช่วยเหลือจากผม ก็จะต้องบอกผมนะครับ”

“วางใจเถอะ บุริศร์แยกออกจากความช่วยเหลือของคุณไม่ได้หรอก”

หลังจากที่นรมนสั่งกำชับหมดแล้ว ก็กลัวว่าพอคมทิพย์กลับมาจะมารู้เรื่องพวกนี้เข้า ก็เลยรีบให้พฤกษ์ออกไปก่อน

ถือโอกาสในช่วงที่คมทิพย์ยังไม่กลับมา นรมนก็เขียนจดหมายให้คมทิพย์ฉบับหนึ่ง หลังจากนั้นก็หาโอกาสยัดใส่มือพฤกษ์ไว้

“อีกเดี๋ยวพาเธอจากไปแล้วค่อยให้เธอดูนะ”

“ได้ครับ!”

หลังจากที่จัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นรมนก็นั่งรออยู่บนเตียง

เวลาที่บุริศร์บอกกับเธอว่าจะกลับมาถึงประเทศคือช่วงสายเวลาสิบโมง

ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่า ทั้งสองคนไปซื้อเสื้อผ้า แล้วเธอก็ยังทันไปส่งลูก ๆ เข้าโรงเรียนอนุบาลได้

นี่เป็นวันแรกที่พวกเขาไปโรงเรียนอนุบาล นรมนนั้นไม่อยากจะทำหน้าที่นี้ขาดไป

โรงเรียนอนุบาลในครั้งนี้เป็นโรงเรียนที่คุณนายตระกูลโตเล็กใช้ความสัมพันธ์หามา คนทั้งหมดต่างก็เป็นคนใหม่

ฟังจากที่แม่ของเธอพูดมานั้น ตอนที่กมลรู้ว่าตัวเองจะได้เข้าโรงเรียนอนุบาลก็ดีใจมากเป็นพิเศษเลย

นรมนลองนึกภาพที่ลูกสาวดีใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ตอนที่คมทิพย์กลับมาถึงนั้น ก็เห็นนรมนนั่งยิ้มอยู่บนเตียง

“กำลังคิดอะไรอยู่? กลางวันแสก ๆ ยิ้มหวานซะขนาดนี้”

“คิดถึงกมลน่ะ เด็กคนนี้ตั้งแต่เกิดมาก็มีเพื่อนอยู่ไม่เท่าไหร่ ตอนนี้พอได้ยินว่าจะได้ไปโรงเรียนแล้ว ก็ดีใจอย่างกับอะไรดี”

คำพูดนรมนทำให้คมทิพย์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า “เธอติดต่อกับแม่ของเธอแล้วเหรอ?”

“อืม จะมาปิดบังแม่ฉันตลอดก็ไม่ได้ ฉันก็แค่บอกกับแม่ว่าช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก ก็เลยมานอนโรงพยาบาลอยู่ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ให้เธอไม่ต้องเป็นห่วงนัก”

“แม่ของเธอคงจะว่าเธอแล้วล่ะซิ?”

คมทิพย์รู้ว่านรมนนั้นรักและเป็นห่วงแม่ ไม่มีทางบอกเรื่องที่ตัวเองโดนจับตัวไปแน่ แต่ว่าระดับความใส่ใจที่แม่นรมนมีต่อนรมนนั้น ก็คงจะต้องว่าเธอสักชุดแน่

“ยังไงก็เป็นเธอที่เข้าใจแม่ฉันที่สุด”

นรมนยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไรมาก

“ฉันมีความสุข”

“ได้ ได้ ได้ เธอมีความสุข เธอมีเงิน เธอจะต้องผลาญเงินให้ได้ ทำไมฉันจะต้องไม่ยอมรับด้วยล่ะ? ไปเถอะ พวกเราไปเดินดูกัน ฉันจะบอกเธอไว้นะ ถ้าฉันชอบแล้ว เธออย่ามาเสียดายไม่อยากจ่ายเงินล่ะ”

“ไม่มีทางอยู่แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นราคาเท่าไหร่ฉันก็จะซื้อให้เธอทั้งนั้น”

นรมนมองดูคมทิพย์แล้ว ในแววตามีแต่ความทนทำใจไม่ได้

แต่น่าเสียดายที่คมทิพย์เป็นคนหยาบกระด้างแบบนี้ จึงมองไม่เห็นปฏิกิริยาที่อยู่ในแววตาของนรมนเลยสักนิด

ทั้งสองคนเดินดูไปรอบหนึ่ง นรมนเลือกชุดเรียบง่ายสบาย ๆ ได้ชุดหนึ่ง ราคาถือว่าไม่ได้แพงมาก เป็นแบบใหม่ที่ราคาไม่กี่ล้าน

คมทิพย์ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะซื้อแบบไหนกัน เลือกไปครึ่งวันก็เลือกไม่ได้สักที แล้วก็เห็นนรมนยื่นชุดกระโปรงแบบสาวหวานมาให้เธอชุดหนึ่ง

“นรมน เธอล้อเล่นใช่ไหม? เธอก็รู้ว่า คนอย่างฉันนั้นเป็นสาวห้าวมาก เธอจะให้ฉันแต่งตัวเป็นสาวหวานคนหนึ่ง นี่มันดูไม่เป็นความจริงเลยนะ”

คมทิพย์ปฏิเสธการไปลองใส่

นรมนกลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เคยเห็นภาพที่เธอใส่กระโปรงมาก่อนเลย เธอใส่ให้ฉันดูหน่อยซิ”

“ฉันใส่เข้าไปแล้วจะต้องไม่เหมือนแน่เลย”

คมทิพย์ยังคงรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง

“ไปลองใส่ดูก่อนซิ”

นรมนยังคงให้เชียร์ต่อไป

แม้แต่พฤกษ์ก็ยังไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เลย ในตอนที่เห็นกระโปรงนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ใส่ให้ผมดูหน่อยเถอะ เหมือนว่าผมก็ไม่เคยเห็นภาพที่คุณใส่กระโปรงเลยนะ”

ใบหน้าของคมทิพย์ก็แดงขึ้นมาทันทีเลย

“ทำไมคุณก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยล่ะ?”

“ลองใส่ดูเถอะ”

พฤกษ์นั้นอ่อนโยนอย่างนี้มาตลอด จนทำให้คมทิพย์รู้สึกอายขึ้นมาเลย

“ก็ได้ อีกเดี๋ยวถ้าไม่สวย พวกคุณห้ามหัวเราะเยาะฉันนะ!”

ในใจของคมทิพย์ยังคงมีความไม่มั่นใจอยู่บ้าง

นรมนพูดอย่างให้กำลังใจเธอขึ้นว่า “ไม่มีทาง รีบไปลองใส่เถอะ”

พอเห็นว่าทั้งสองคนต่างก็รอคอยเป็นอย่างมาก คมทิพย์ก็กึ่งผลักกึ่งดันหยิบกระโปรงแล้วก็เข้าไปในห้องลองชุด

แล้วก็ในเวลานี้ นรมนก็เห็นว่ากิมจิมาถึงแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น ที่ข้างหลังของกิมจิยังมีคนอีกคนหนึ่งตามมาด้วย

หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่กลับไม่มีท่าทีใด ๆ แสดงออกมา เพียงแต่ในแววตามีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย