บทที่ 49 เขมิกาไม่ใช่ผู้หญิงของผม
“คุณต้องเดินไปหรอ?”
จู่ๆ บุริศร์ก็ไม่พอใจกานต์เล็กน้อย ความรู้สึกแบบนี้ช่างขัดแย้งกันจริงๆ และก็ยังทำให้สับสนมากด้วย รู้ดีว่าตอนนี้ผลตรวจยังไม่ออกมา แต่ส่วนตัวก็เชื่อไปแล้วว่าเขาคือลูกชายของตัวเอง ไม่อย่างนั้นทำไมเขาต้องพุ่งเป้ามาที่ตัวเองด้วยล่ะ?
ดูเหมือนว่ามีเพียงการคิดแบบนี้เท่านั้น หัวใจของเขาจึงจะสงบลงได้บ้าง ความรู้สึกผิดและความเสียใจจึงจะสามารถลดลงได้อีกนิด
กานต์มองไปที่มือของเขาถือเสื้อโค๊ทอยู่ก็รู้ว่าเขากำลังจะออกไปข้างนอก ทำแค่เพียงพยักหน้า
กิจจาวิ่งออกมาจากในห้อง วิ่งไปพลางตะโกนไปพลางว่า “ กานต์ พรุ่งนี้เธอต้องมาเยี่ยมฉันอีกนะ!”
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นบุริศร์ยืนอยู่ตรงนั้น ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
“คุณพ่อ”
กิจจารีบยืนอยู่นั่นเหมือนเด็กที่เชื่อฟัง
กิจจารีบลบล้างความเป็นเด็กให้หายไป ทำให้เหมือนกับแบบแผนของสังคมอยู่ที่นั่น
กานต์เห็นเขาแบบนั้น แล้วพูดเบาๆว่า “ปฏิบัติกับลูกคุณให้ดีอีกหน่อยเถอะครับ แม้ว่าคุณเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็ต้องมีคุณลักษณะของความเป็นพ่อด้วย”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินไป
บุริศร์ตกตะลึงเล็กน้อย เขาถูกเจ้าหนูนี่สั่งสอนหรอ?”
เด็กสี่ขวบตัวเล็กๆคนนึง บ่อยครั้งที่พูดออกมาช่างแก่เกินตัวอะไรขนาดนั้น?
“กลับไปนอนพักเลยไป! อีกสักพักแม่ของนายก็จะกลับมาแล้ว ให้เธอทำอะไรอร่อยๆให้นายกิน ฉันออกไป ตอนบ่ายก็ไม่กลับมาแล้วล่ะ”
คำพูดพวกนี้คือคำพูดที่พูดกับกิจจา แต่บุริศร์เดินหน้าแล้วไม่อยากถอยหลังกลับ เหมือนอยากต้องการจะไล่ตามกานต์ไป
“อื้อ”
กิจจามองตามหลังกานต์ไปอย่างเศร้าสร้อย โบกมือไปมา
เขาอยากจะไปส่งกานต์ด้วยจริงๆ
แต่ออร่าของพ่อมีอำนาจมาก
ช่างเถอะ เขากลับไปนอนเล่นเกมที่กานต์ออกแบบให้เขาดีกว่า
กานต์ออกไปแล้ว ทิพย์ก็รอเขาอยู่ที่ประตูพอดี
“เจ้าหนูน้อย เล่นเพลินจนไม่อยากกลับเลยสิ ไม่กลัวฉันและแม่ของเธอจะกังวลเลยหรอไง?”
ขณะที่พูด บุริศร์ก็กำลังเดินออกมา
“กลับไปโรงพยาบาลด้วยกันเถอะครับ”
เขาพูดพร้อมกำลังจะไปจูงมือกานต์ แต่ถูกทิพย์ดึงมือไปก่อนแล้ว
“ประธานบุริศร์ คุณว่างขนาดนั้นเลยหรอคะ? นี่ก็ใกล้จะบ่ายแล้ว คุณอยู่บ้านทำกับข้าวเถอะ พวกเราและแคเธอรีไม่ต้องการคุณ”
มือของบุริศร์คว้าความว่างเปล่า สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย แต่ทิพย์ไม่สนใจเขา ดึงกานต์ไปขึ้นรถทันที
“คุณนี่น้า อายุก็ยังน้อยๆ ช่างไม่รู้เอาซะเลยว่าอารมณ์คนช่างอันตรายขนาดไหน รถของใครคุณก็ไม่กล้านั่ง คุณคงไม่กลัวถูกคนอื่นขายไปแล้วหาแม่ไม่เจอหรอกหรอ?”
คำพูดนี้ของทิพย์ขัดหูนิดหน่อย
ความโกรธของบุริศร์สะสมไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไร ขึ้นรถตัวเองทันที สตาร์ทรถแล้วก็ขับออกไป
กานต์ต่อปากต่อคำกับทิพย์ ตลอดทางกลับไปโรงพยาบาลอย่างมีความสุข
พวกเขาเพิ่งจะเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย ก็รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยไม่ดีเอาซะเลย
ความกดอากาศต่ำทั่วทั้งร่างกายของบุริศร์ทำให้อุณหภูมิทั้งห้องเหมือนตกลงไปถึงจุดเยือกแข็ง
“งดงามมาก นรมนยังมีชีวิตอยู่มั้ย?”
ทิพย์ตกใจจนพูดไม่ปะติดปะต่อกัน
กานต์ก้าวเดินตามเข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าวใหญ่
เมื่อเขามองเห็นรอยมือและรอยบวมแดงบนหน้าของนรมน ตาทั้งคู่ของเขาก็โกรธขึ้นมาทันที
“คุณไอ้คนสารเลว! คุณกล้าตีแม่ของผมหรอ!
กานต์เหมือนสิงโตตัวเล็กที่กำลังวิ่งเข้าไปหาบุริศร์ หลังจากนั้นก็เริ่มใช้มือและเท้าเตะตีบุริศร์
บุริศร์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น อดทนต่อความโกรธของกานต์ ทิพย์วิ่งตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว มองดูนรมนในตอนนั้นก็รู้สึกโกรธ
“บุริศร์ คุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่มั้ย?ทำกับผู้หญิงได้ คุณนี่มันขยะสังคมจริงๆ!”
นรมนดูปฏิกริยาตอบสนองทั้งเล็กและใหญ่ตรงหน้า แล้วพูดไม่ออก
“ไม่ใช่เขาที่เป็นคนทำหรอก กานต์ หยุดนะ!”
นรมนตะโกนครังนึง แต่กานต์ไม่หยุด เขาเดินไปข้างหน้าคว้ามือบุริศร์ ยกขึ้นมากัดไปหนึ่งที
ฟันของเจ้าหนูน้อยนี่คมจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...