บทที่ 510 เธอควรเชื่อใจบุริศร์
กานต์ร้องไห้เสียใจอยู่คนเดียว ไม่มีความรู้สึกมีเกียรติที่เคยเป็นผู้ที่ได้เปรียบคนอื่นอีกต่อไปแล้ว
เด็กผู้หญิงเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็ยื่นมือไปตบบ่าเขาอย่างช่วยไม่ได้
กานต์เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เห็นเด็กผู้หญิงยิ้มให้เขา ถึงขนาดหยิบช็อกโกแลตหนึ่งชิ้นที่ไม่รู้ว่าละลายไปตั้งแต่เมื่อไรออกมาจากในกระเป๋า
เด็กผู้หญิงลังเลเหมือนมันเป็นขุมทรัพย์ จากนั้นก็ยื่นให้กานต์
เป็นครั้งแรกที่กานต์รู้ ช็อกโกแลตชินนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นสมบัติทั้งหมดของเด็กผู้หญิง มันอาจจะเป็นเครื่องช่วยชีวิตสุดท้ายที่เธอเก็บไว้ด้วยซ้ำ
เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรรับไหม
จริงๆ แล้วเขาก็หิวนิดหน่อย
ถ้าเวลานี้ คุณย่าต้องให้คนทำอาหารอร่อยๆ แน่นอน ปล่อยให้เขาและกมลเลือกกินตามใจชอบ
แต่ตอนนี้เขามองช็อกโกแลตชิ้นนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เมื่อเทียบชีวิตในอดีตกับตอนนี้ มันต่างกันราวกับฟ้ากับดินเลย
พวกเด็กรอบๆ เห็นเด็กผู้หญิงทำแบบนี้ ก็ทำท่าทางให้กานต์กินช็อกโกแลตชิ้นนั้น
กานต์ร้องไห้อีกครั้ง
กานต์รู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่แล้วกลายเป็นคนอ่อนแอเป็นพิเศษ
พวกเด็กเหล่านี้พูดไม่ได้ แต่สีหน้าและการกระทำของแต่ละคนมันทำให้กานต์ประทับใจเล็กน้อย
“ฉันจะต้องพาพวกเธอออกไปให้ได้! ต้องทำให้ได้!”
กานต์พูดเสียงเบา
เขาไม่รู้ว่าเด็กพวกนี้ได้ยินหรือไม่ และไม่รู้ว่าโชคชะตาของตัวเองต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่เขารู้ว่าตอนนี้ เขาไม่อยากทิ้งเด็กพวกนี้
คุกใต้ดินที่กานต์อยู่ดูเหมือนจะถูกลืมว่าอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลก ไม่มีใครจดจำสถานที่แห่งนี้ได้ แม้แต่ครูฝึกสมชายก็ลืมไปว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่
เด็กเหล่านี้ถูกพวกมันเก็บมาจากข้างนอก หรือไม่ก็ซื้อมาจากพวกค้ามนุษย์ เงินที่ใช้ซื้อถูกมาก คุณภาพก็ไม่ดี
เหตุผลที่พวกมันยังเลี้ยงเด็กพวกนี้ ก็เพราะต้องการฝึกฝนพวกเขาให้เป็นเครื่องมือลอบสังหารสำหรับองค์กร
ที่นี่ พวกเขาไม่มีสิทธิมนุษยชน ไม่มีอิสรภาพใดๆ ด้านบนให้พวกเขาได้รับการฝึกฝนแบบไหนก็ต้องฝึกแบบนั้น
พวกเขาพูดไม่ได้ และไม่สามารถพูดได้ ทำได้แค่เป็นฝ่ายถูกกระทำยอมรับทุกสิ่งทุกอย่าง
กานต์ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับเข้ามา พวกมันไม่รู้แน่ๆ ว่ากานต์เป็นคนที่เบื้องบนตามหา แค่คิดว่าเป็นเด็กซนสักครอบครัวที่เข้าไปสร้างปัญหาในห้องทำงานผู้จัดการ
ตราบใดที่เอกสารผู้จัดการไม่สูญหาย ผู้จัดการไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาก็จะไม่ถูกลงโทษ
ดังนั้นคนพวกนั้นที่เข้าร่วมการจับกุมกานต์ ก็ร่วมมือกัน ไม่มีใครพูดเรื่องกานต์ออกมา
และพวกเด็กๆ ในคุกใต้ดินนี้มีไม่กี่คน จริงๆ แล้วก็ไม่มีคนสนใจ เพราะบางคนไม่สามารถอยู่รอดได้และตายจากไป บางคนก็เติมเข้ามา ไม่มีใครสนใจมากเกินไป
สุดท้ายกานต์ก็เอาช็อกโกแลตชิ้นนั้นมากิน
เขาต้องการแรงกาย ต้องการโอกาส พาเด็กพวกนี้ออกไปจากที่นี่
หลังจากกานต์กินเสร็จแล้ว เด็กรอบๆ เอาเลือดบนร่างกายตัวเองลูบบนร่างกายกานต์ บางคนเอาเลือดลูบหน้ากานต์ด้วยซ้ำ
เขารู้สึกว่ากลิ่นเลือดเต็มโพรงจมูก เกือบจะอาเจียน แต่ตอนนี้กานต์ตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าเด็กพวกนี้กำลังปกป้องเขาอยู่
พวกเขาวางแผนจะเอาเลือดตัวเองซ่อนกานต์
กานต์อยากร้องไห้อีกครั้ง
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เหล่าเด็กๆ ก็ล้อมรอบกานต์ไว้ด้านในสุด ล้อมรอบเป็นวงกลมเหมือนเดิม เหมือนเป็นร่มปกป้อง ทำให้กานต์รู้สึกประทับใจนิดหน่อย
เด็กผู้หญิงจับมือกานต์ตลอดเวลา
เธอชอบหัวเราะมาก แต่ไม่มีเสียง
ที่นี่คือโลกที่ไร้เสียง
ไม่ว่าคุณจะเจ็บปวดแค่ไหน ทนทุกข์แค่ไหน ต้องอดทนไว้ อดทนไม่ได้ก็ต้องอดทน เพราะคุณสูญเสียสิทธิในการเปล่งเสียงและการพูดคุยไปแล้ว
กานต์รู้ ก่อนที่บุริศร์จะตามหาตน เอาตนกลับไปที่ตระกูลโตเล็ก เป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะเป็นใบ้
ถึงจะบอกว่ามันยากมากที่จะยอมรับ แต่กานต์ก็ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว พยายามทำให้ตัวเองกลมกลืนไปกับเด็กๆ เหล่านี้
นรมนพากิจจากลับไปที่คฤหาสน์ ให้ธิดาและนาวินดูแลเขา ตัวเองยังไม่ค่อยวางใจต้องการออกไปต่อ แต่ก็ได้รับสายจากบุริศร์
“ห้ามออกจากบ้าน อยู่ที่บ้านเฉยๆ นั่นแหละ”
“แต่ฉันเป็นห่วงคุณ เป็นห่วงกานต์”
คำพูดนรมนทำให้บุริศร์รู้สึกแย่อยู่บ้าง
“ฉันก็เป็นห่วงสุขภาพคุณเหมือนกัน”
ประโยคนี้ทำให้นรมนพูดไม่ออก
จริงด้วย
สุขภาพเธอทนไม่ไหวแล้ว
เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีเส้นทางยาวไกลแบบนี้ ไม่มีกิจกรรมมากมายแบบนี้ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเซลล์ทั้งร่างกายเธอกำลังประท้วงอยู่
แต่ลูกชายเธอยังตามหาตัวไม่เจอ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าตัวเองไม่ไปตามหา เธออยู่บ้านก็ไม่สบายใจ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้ว่าตรินท์ต้องการฆ่าลูกชายเธอ เธอจะนั่งนิ่งได้อย่างไร?
“บุริศร์ ฉันนั่งนิ่งๆ อยู่บ้านไม่ได้หรอก คุณให้ฉันออกไปเถอะ”
“นรมน ตอนนี้กานต์อยู่ที่ไหนไม่รู้ คุณอย่าทำให้ฉันเป็นห่วงอีกได้ไหม? คุณเชื่อใจฉันกับกิมจินะ เราจะพยายามพาลูกกลับไปให้ได้”
นรมนไม่ใช่ไม่เชื่อใจคำสัญญาของบุริศร์ แค่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เสียใจอย่างมาก
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เขาเหลือบมองตรินท์แล้วพูดขึ้น “ฉันต้องการใช้คน”
“พี่ต้องการใช้คนในบ้านก็บอกได้เลยไม่ใช่เหรอ? จะมาบอกฉันทำไม”
ตรินท์รู้สึกว่าวันนี้บุริศร์แปลกนิดหน่อย
บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “ฉันอยากใช้คนของอาณาจักรรัตติกาล ฉันรู้ว่านรมนยืมกิมจิมา แต่คนอื่นๆ ของอาณาจักรรัตติกาลฟังคำสั่งของนาย ตอนนี้ฉันต้องการใช้พวกเขา”
“พี่ใหญ่จะทำอะไร?”
ตรินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจกับคำขอบุริศร์นิดหน่อย
บุริศร์กลับพูดเสียงทุ้ม “จู่ๆ ฉันก็นึกถึงที่หนึ่ง บางทีเจ้าเด็กแสบกานต์อาจจะไป แต่ฉันไปคนเดียวอาจจะไม่ค่อยดี ฉันต้องการพาคนของอาณาจักรรัตติกาลไปดูสักหน่อย”
“ที่ไหน?”
“ที่เล็กๆ ที่หนึ่ง นายไม่ต้องสนใจหรอก เราแยกกันตามหาดีกว่า เพื่อที่จะไม่พลาดเด็กๆ ตอนนี้พวกเขาออกจากบ้านหนึ่งวันกับอีกหนึ่งเช้าแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะมีเงิน แต่กลัวว่าจะไปเจอคนชั่ว ทางด้านแม่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง มีคุณหมอโพนี่คงไม่มีปัญหาอะไร เราพยายามตามหาเด็กกันเถอะ”
คำพูดบุริศร์ทำให้ตรินท์ไม่สามารถคัดค้านได้
เขาคิดสักพัก แล้วมอบคนของอาณาจักรรัตติกาลให้บุริศร์ทันที
ไม่ว่าอย่างไร อาณาจักรรัตติกาลก็เป็นของนรมนทั้งหมด เขาแค่ยังไม่มีสิทธิชั่วคราว ถึงแม้บุริศร์จะไม่ปรึกษาหารือกับเขา แค่นรมนออกคำสั่ง คนของอาณาจักรรัตติกาลก็จะเชื่อฟังนรมน
แต่ตอนนี้บุริศร์มาปรึกษากับเขา แสดงว่าเขายังมองว่าเขาเป็นน้องชาย
ดวงตาตรินท์เกิดคลื่นเล็กน้อย ความรู้สึกในดวงตาสับสน แต่ไม่พูดอะไร เดินออกไปจากตระกูลโตเล็กทันที
บุริศร์มองแผ่นหลังเขา ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรในชั่วขณะหนึ่ง
เขาพาคนของอาณาจักรรัตติกาลไปที่คลับยิงปืนโดยตรง และล้อมรอบคลับทันที
ผู้จัดการไม่เคยเห็นสงครามยิ่งใหญ่แบบนี้มาก่อน รีบวิ่งออกมา
“คุณชายบุริศร์ นี่คุณทำอะไรครับ?”
ถึงตรินท์จะหน้าตาคล้ายบุริศร์มาก แต่ผู้จัดการแค่แวบเดียวก็จำได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ตรินท์
นี่แค่ความแข็งแกร่งทางวิสัยทัศน์ มันทำให้บุริศร์เปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่
ดูเหมือนผู้จัดการคนนี้จะเป็นคนเก่าที่อยู่กับตรินท์มานานมาก ไม่อย่างนั้นคนปกติจะแยกความแตกต่างระหว่างพวกเขาสองพี่น้องไม่ออก
แม้แต่นรมนก็ช่วยผิดคนในตอนแรกไม่ใช่เหรอ?
ความคิดของบุริศร์แวบเข้ามา แต่พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาทันที “พวกคุณที่นี่มีครูฝึกชื่อสมชายไหม?”
“มีครับ คุณชายบุริศร์ แต่ครูฝึกสมชายมีธุระออกไปข้างนอก ไม่อยู่ครับ”
ผู้จัดการไม่รู้ว่าจู่ๆ บุริศร์มาตามหาสมชายมันหมายความว่าอย่างไร แต่เขายังคงเป็นห่วง หรือว่าสมชายตามหากานต์เจอแล้วทำอะไรบางอย่างกับกานต์ซึ่งถูกบุริศร์รู้เข้า?
ตอนนี้บุริศร์จึงระดมพลเพื่อบุกมาประณามอีกฝ่ายถึงที่เลยใช่ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...