บทที่ 545 ภรรยาของนายรออยู่ข้างนอก
“ใคร”
เจตต์จะลงมือ แต่อีกฝ่ายปิดปากเขาแน่น “อย่าเสียงดัง!”
เสียงที่คุ้นหูทำให้เจตต์ตะลึง ใช้ศอกกระแทกทีหนึ่ง อีกฝ่ายออกเสียงคราง ปล่อยเจตต์ทันที
เจตต์รีบหันไป จับแขนอีกฝ่ายทันที บังคับให้อีกฝ่ายมองตัวเอง “บุริศร์! ไอบ้า!”
เขาต่อยเข้าที่หน้าบุริศร์ แต่บุริศร์หลบหลีกทัน “นายบ้าไปแล้วหรือไง”
บุริศร์โมโห
“ฉันบ้าหรือ ฉันว่านายสิบ้า แมร่ง นายอยู่ที่นี่สุขสบายคนเดียว รู้มั้ยนรมนอยู่ที่บ้านเป็นห่วงนายแค่ไหน นายพร่ำบอกรักเธอ นายรักเธออย่างนี้หรือ ถ้านายไม่ทะนุถนอมเธอ ก็รีบปล่อยเธอไปซะ ให้ฉันดูแลครึ่งชีวิตที่เหลือของเธอเอง”
เจตต์แม้จะมาที่นี่เพราะบุริศร์ แต่เมื่อเห็นบุริศร์ไม่เป็นอะไร ความโกรธก็พุ่งพรวดขึ้นมา บุริศร์ยังไม่ทันพูดอะไร เด็กหญิงที่อยู่ข้างหลังเขาก็ดึงเจตต์ไว้ แล้วลากเจตต์ออกไป ตัวเองยืนบังบุริศร์
“โอ้โห! หนูน้อยอย่าบอกนะคิดอะไรกับเขา จะบอกให้นะ เขามีเมียมีลูกแล้ว!” คำพูดของเจตต์ทำให้บุริศร์สีหน้าบอกบุญไม่รับ
“นายพูดมั่วอะไร เธอเป็นเด็กที่สโมสรถูกขายมา ฉันพยายามช่วยพาเด็กกลับเมืองชลธีตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ”
“นายทำไม่สำเร็จ บุริศร์ นายหลอกใคร ว่ามาสิ นายเห็นว่าที่นี่ผู้หญิงสวยเยอะแยะ แถมตัวเองก็มีเงิน คิดจะเสวยสุขที่นี่ไม่สน นรมนแม่ลูกจะเป็นจะตายหรือ อย่าพูดยกหางตัวเองมีคุณธรรมขนาดนั้น ฉันไม่เชื่อ ถ้านายอยากออกไปจริงจะออกไม่ได้ ฝีมืออย่างนายใครจะขวางได้ เด็กน้อยนี่รู้จักกับนายมานานแค่ไหน ถึงได้ปกป้องนายขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเธอเสร็จนายแล้ว”
เมื่อได้ยินเจตต์พูดอย่างนี้ สีหน้าของบุริศร์ยิ่งบอกบุญไม่รับ แต่ยังไม่ทันอธิบายอะไร เด็กหญิงก็เดินเข้ามา กัดง่ามมือเจตต์แน่น ไม่ยอมปล่อย
“โอ๊ย เด็กบ้า ปล่อยนะ! ชิบหาย! เป็นหมาหรือไง อย่าลืม เมื่อกี้ฉันเพิ่งซื้อเธอมา ตอนนี้เธอเป็นคนของฉัน! ต้องช่วยฉันกัดคนอื่นสิ ไหงมากัดฉันล่ะ”
เจตต์แม้จะบ่นโวยวาย แต่ไม่ได้ลงมือกับเด็กหญิง ดูออกว่า เขาเป็นห่วงเด็กหญิงจริงๆ บุริศร์เห็นอย่างนี้ ก็รู้สึกขบขันมาก เพลย์บอยอย่างเจตต์ จะมีวันหนึ่งที่รับมือกับเด็กหญิงเล็กๆ ไม่ได้
เด็กหญิงกัดจนรู้สึกเจ็บฟันแล้ว ถึงค่อยปล่อย
เจตต์สะบัดมือเต็มแรง พูดอย่างโมโห “เชื่อไหมเดี๋ยวฉันจะขายหนูต่อให้ผับ ชาตินี้ออกมาไม่ได้”
เด็กหญิงตัวสั่น ท่าทางหวาดกลัวนั้นทำให้เจตต์รู้สึกเจ็บปวดใจ
เขาเหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กๆ ความอ้างว้าง อับจนหนทาง ถ้าไม่ใช่เพราะนรมนช่วยชีวิตเขาในครั้งนี้ บางทีเขาคงเลือกจบชีวิตตัวเองในกองเพลิงจริงๆ
เมื่อเห็นเด็กหญิงในตอนนี้ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองน่ารังเกียจ
กำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่าง จู่ๆ บุริศร์ก็ร้องคราง ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า สองมือกุมศีรษะแน่น ท่าทางเจ็บปวดทรมาน
“เฮ้ย นายเป็นอะไร ฉันบอกนายนะ อย่าแกล้งทำอ่อนแอต่อหน้าฉัน ฉันไม่สนนายจะเป็นจะตายหรอก”
เจตต์ย่นคิ้ว พูดจาฟังแล้วกระด้างหู
พวกเขาเป็นศัตรูความรักกัน เขาอุตส่าห์มาหาที่นี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังหวังให้เขาเจตต์ไว้หน้าเขาพูดดีกับเขาอีกหรือ
เด็กหญิงกลับเป็นกังวล รีบคุกเข่าลงอยากจะปลอบโยนบุริศร์ แต่ตัวเองทำไม่ได้ เด็กหญิงทำได้แค่หัน ออกเสียงอ้อแอ้ทำไม้ทำมืออะไรสักอย่างกับเจตต์
“หนูจะบอกว่าไง ฉันไม่เข้าใจ ขอร้องล่ะ หาที่ตรงไหนเขียนให้ดูได้ไหม”
เจตต์ไม่เข้าใจความหมายของเด็กหญิงจริงๆ ไม่เพียงแต่ร้อนใจ แต่บุริศร์เหมือนทุกข์ทรมานมาก เหงื่อผุดเต็มหน้าหยดติ๋งๆ
เขากัดริมฝีปากล่าง คล้ายกับพยายามควบคุมกำลังทั้งตัวอย่างเต็มที่
”บุริศร์ นายเป็นอะไรกันแน่”
เจตต์ในที่สุดก็สังเกตเห็นท่าทีของบุริศร์ไม่ค่อยปกติ
บุริศร์จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงฉานทำให้เจตต์ตกใจ “ชิบหาย! นายใส่บิ๊กอายหรือไง ไปใส่ตอนไหนมา เมื่อกี้หรือ”
“บุริศร์ นายตื่นสิ! ฉันคือเจตต์!”
เจตต์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบุริศร์อยู่แล้ว ตอนนี้บุริศร์ยังเหมือนถูกฉีดสารกระตุ้น กำลังจู่โจมรุนแรงกว่าปกติ เขาหลบไม่ทัน ถูกหมัดของบุริศร์ซัดเข้าให้ จนตัวเซไปทางหนึ่ง รู้สึกว่าไหล่จะหลุด
“ไอห่า! ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กินยาเพิ่มพลังหรือไง”
แม้เจตต์จะพูดอย่างนี้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าสภาพของบุริศร์เหมือนมีปัญหาจริงๆ สายตาของเขาไม่มีโฟกัส ต้องการโจมตีเขาอย่างเดียว
เขาเป็นอะไรกันแน่
หรือว่านี่คือสาเหตุที่บุริศร์ไม่ไปจากที่นี่ ไม่ติดต่อกับโลกภายนอก
เด็กหญิงพูดจาอ้อแอ้อะไรบางอย่างอยู่ข้างๆ ท่าทางร้อนใจ น้ำตาไหลพราก ขอร้องให้เจตต์ช่วยชีวิต
วันนี้ซวยชิบหาย
ถูกบุริศร์ต่อยก็แย่แล้ว ยังถูกเด็กหญิงทับอีก วันบ้าอะไรนี่
เด็กหญิงหน้าแดง ไม่รอเธอลุกขึ้น บุริศร์จับขาของเธอแล้วอยากจะโยนเธออีกครั้ง เจตต์เห็นความรุนแรงในสายตาของบุริศร์ รีบลุกพรวดขึ้น ส่งหมัดฮุกซ้ายจู่โจมบุริศร์ทันที
บุริศร์ถูกโจมตี ผลักเด็กหญิงเต็มแรง เจตต์ใช้มือข้างเดียวจับเธอไว้ได้ แต่อยากจะสกัดการโจมตีของบุริศร์นั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว
ไม่มีทางอื่น เจตต์กอดเด็กหญิงแน่น หมุนตัว หันหลังให้บุริศร์
หมัดแข็งแกร่งกระแทกเข้ากระดูกสันหลังของเขา เจตต์เจ็บจนเซไปข้างหน้า แต่ยังกอดเด็กหญิงแน่น
เด็กหญิงอารมณ์ระคนปนเป อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่แสดงออกไม่ได้ น้ำตาคลอดวงตา
เจตต์ไม่มีเวลามองอารมณ์ของเด็กหญิง เขากระซิบ “รีบหนีไปซะ หนูเป็นคนที่ฉันซื้อมา คนของเมืองใต้ดินไม่มีทางทำอะไรหนู เอาบัตรผ่านกับตราประทับของฉันไป ออกไปหาผู้จัดการ โรงแรมอิมพีเรียล เธอจะช่วยพาหนูกลับเมืองชลธี ถ้าไปถึงเมืองชลธีแล้ว หาทางไปหานรมน ที่อยู่ของเธอคือ 97 โรงพยาบาลทหาร อาคารสามวอร์ดหนึ่ง จำได้ไหม”
เขาพูดเร็วปรื๋อ เด็กหญิงความจำดีเยี่ยม พยักหน้ารับ
“จำไว้นะ ไปหานรมน รอฉันสามวัน ถ้าหลังจากนี้สามวันฉันยังไม่กลับไป หนูพานรมนมาที่นี่ หนูน้อย ฝากด้วยนะ”
ชีวิตนี้เจตต์ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องฝากความหวังทั้งหมดกับเด็กหญิงตัวน้อย แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
บุริศร์ผิดปกติ เขารับมือกับแรงจู่โจมขนาดนี้ไม่ได้ ถ้าเด็กหญิงยังอยู่ที่นี่ เขาคงไม่มีทางพาเธอออกไปได้แน่
ขอแค่เธอหาโรงแรมอิมพีเรียล เจอ เธอก็จะปลอดภัย
เจตต์วางเด็กหญิงลง รีบหันไปรับมือการโจมตีของบุริศร์ ขณะเดียวกัน เขาคำราม “ไป! ตอนนี้ข้างนอกคนพลุกพล่าน หนูรีบไป! ไปเร็ว!”
เด็กหญิงลังเล มองบุริศร์ แล้วหันมามองเจตต์ ในที่สุดก็กัดริมฝีปากวิ่งออกไป การ์ดข้างนอกวิ่งมาทางนี้แล้ว
เจตต์รู้ดี ถ้าตัวเองยังพัวพันกับบุริศร์ต่อ ไม่มีใครได้ออกไปแน่ ถ้าเป็นตัวเขาเอง เขาแค่วิ่งหนีไปเท่านั้น แต่เขารับปากนรมนแล้ว จะต้องพาบุริศร์กลับไปหาเธออย่างปลอดภัย เห็นชัดตอนนี้ บุริศร์มีปัญหา จะทิ้งเขาไว้อย่างนี้ก็ทำไม่ลง
เวลานี้เอง บุริศร์ชะงักกะทันหัน ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเริ่มมีความอบอุ่น เขาอยากจะควบคุมตัวเอง แต่ไม่มีแรงทำได้ หมัดที่พุ่งมายัง เจตต์ ไม่รู้ว่ามีมีดสั้นคมกริบสามเล่มเพิ่มขึ้นมาที่ง่ามนิ้วตอนไหน
แสงจ้าแยงตาของเจตต์ เขาถอยจนถอยไม่ได้แล้ว ได้แต่ยืนจ้องมองมีดสั้นของบุริศร์พุ่งมาทางอกของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...