บทที่ 569 เธอไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน
“ไม่มีแต่แล้ว รีบไปซะ!”
เกรทผลักพวกนรมนเข้าไปทันที
บอดี้การ์ดด้านหลังจะขวางไว้ แต่เกรทหันหลังไปกั้นพวกเขาทันที
“ไปสิ!”
เจตต์เหลือบมองเกรทอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็พูดกับนรมนว่า “ไป!”
นรมนรู้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ตัวเองมาลังเล ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นกับบุริศร์ เพื่อเจตต์และนภดล เธอก็ไม่สามารถหยุดอยู่ที่นี่ได้
เธอเหลือบมองไปทางด้านหลังอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็รีบแบกเจตต์ขึ้นบนหลัง แล้ววิ่งไปข้างหน้ากับนภดล
การสื่อสารเข้ามา
“หม่ามี้ ผมใช้ช่องโหว่คอมพิวเตอร์ติดตั้งกับดักสองสามอย่างไว้ด้านหลังพวกคุณ จะมีระบบท่อน้ำระเบิด พวกคุณรีบใช้โอกาสนี้วิ่งหนี”
“รู้แล้ว ช่วยแม่ดูหน่อยได้ไหมว่าการประมูลด้านหน้าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
นรมนวิ่งไปด้วยถามไปด้วย
กานต์รีบเปลี่ยนหน้า จากนั้นก็พูดขึ้น “ใกล้จะจบแล้ว แต่ห้องส่วนตัวของแม่ไม่มีคนแล้ว น่าจะออกไปแล้ว”
ได้ยินกานต์พูดแบบนี้ นภดลก็โล่งอก
“ฉัตรยาน่าจะกลัวดึงดูดความสนใจ เลยออกไปก่อน”
“การประมูลอนุญาตให้ออกก่อนเวลาเหรอ?”
นรมนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่เสมอ
“ให้ แค่มีเงินให้มากพอ ฉันคิดว่าเธอยังมีเงินอยู่ ถึงจะไม่ได้เยอะมาก แต่คนเฝ้าประตูน่าจะโอเค”
นภดลรู้นิสัยฉัตรยา
ได้ยินนภดลพูดแบบนี้ นรมนก็วางใจ
“เรารีบไปกันเถอะ”
พวกเขาเดินไปข้างหน้าตามถนนตลอดทาง ด้านหลังมีเสียงท่อน้ำพุ่งออกมา และเสียงวุ่นวายของผู้คน นรมนทำเป็นไม่ได้ยิน
ในใจเธออยู่ที่บุริศร์ตลอดเวลา
หลังจากกลุ่มคนวิ่งออกไปแล้ว มันคือริมแม่น้ำที่เอาตัวมายด์ขึ้นมาก่อนหน้านี้
“ที่แท้เมืองใต้ดินนี้ก็อยู่ก้นแม่น้ำ”
นภดลขมวดคิ้วเล็กน้อยพูดขึ้น
นรมนมองไปข้างๆ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ที่นี่มีรถคันหนึ่งอยู่ใกล้ๆ ฉันขับมาเอง ขาเจตต์ไม่ดี แต่ขับรถได้ คุณพาพวกเขากลับไป ช่วยฉันแจ้งโพนี่ ให้เขาช่วยดูแลลูกชายลูกสาวฉัน ส่วนแม่สามีฉัน ฉันจะให้ลุงเล็กช่วย”
“คุณจะกลับไปเหรอ?”
เจตต์มองนรมน เดาความคิดของเธอได้แล้ว
“ฉันคิดว่าคุณจะพาเราไปส่งที่เมืองชลธี ที่แท้คุณก็ปล่อยเขาไม่ลง”
“คนที่ฉันปล่อยไปไม่ได้คือบุริศร์ ฉันนัดหมายกับยมราชสามวัน ที่นั่นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังรอฉันกลับไปช่วยเหลือเธออยู่”
คำพูดนรมนทำให้เจตต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เด็กผู้หญิง? ใช่คนที่เป็นใบ้หรือเปล่า?”
“ใช่ เธอน่าจะรู้จักคุณ ตอนฉันพูดถึงคุณ เธอมีการตอบสนอง แต่ตอนนี้ไม่สามารถอยู่กับฉันได้”
“ทำไม?”
“ตอนฉันมาที่นี่ เธอโดนโยนลงแม่น้ำจมน้ำตาย โชคดีตอนมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย ฉันพาเธอไปส่งที่ยมราช ยมราชช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ฉันต้องจ่ายค่ารักษา”
คำพูดของนรมนทำให้เจตต์ขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง
“ถูกโยนลงแม่น้ำเหรอ? ฉันให้เธอไปที่โรงแรมอิมพีเรียลเพื่อตามหาแก้วตาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงถูกโยนลงน้ำได้?”
“เหมือนเธอจะโดนแก้วตาโยนลงน้ำนะ และความสัมพันธ์ของแก้วตากับเมืองใต้ดินนี้ไม่ได้ตื้นเขิน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแก้วตาเป็นอะไรกับคุณ แต่เจตต์ ทางที่ดีต่อไปนี้คุณติดต่อเธอให้น้อยลง เพราะฉันอาจจะต่อต้านเธอ”
นรมนมองเจตต์ สิ่งที่พูดออกมาทำให้เจตต์กังวลนิดหน่อย
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ มากสุดก็คือเคยติดต่อกันช่วงหนึ่ง หลังจากมาที่นี่สถานการณ์มันก็เร่งด่วน จู่ๆ ก็นึกได้ว่ามีคนคนนี้ นึกถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อฉัน ก็เลยให้เด็กคนนั้นไปช่วยเหลือ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอมีความสัมพันธ์กับเมืองใต้ดิน”
“เอาล่ะ คุณไม่ต้องอธิบายอะไรกับฉัน ฉันก็ไม่สนใจเหมือนกัน แค่จะบอกคุณว่าฉันเคยเจอผู้หญิงของคุณแล้ว”
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน!”
ตอนนี้เจตต์อธิบายอย่างไรก็ไม่ชัดเจน
ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว เขาจะไม่ให้มายด์ไปตามหาแก้วตา ตอนนี้เห็นนรมนเข้าใจผิด ในใจเขาก็รู้สึกแย่เป็นพิเศษ ถึงขนาดเกลียดตัวเองในอดีตด้วยซ้ำ ทำไมถึงหลายใจขนาดนั้น?
แต่นรมนพูดอย่างไม่สนใจ “เอาล่ะ ผู้หญิงของคุณหรือเปล่าฉันก็เคยทักไปแล้ว คุณรีบพาพวกเขาไปซะ พอกลับไปแล้วก็ให้ป้องช่วยดูขาให้คุณ ด้วยวิธีการของเขา คิดว่าจะรักษาคุณให้หายได้”
“เรื่องของฉันคุณไม่ต้องยุ่ง แต่คุณอยู่ที่นี่คนเดียวฉันไม่วางใจ”
เจตต์ไม่วางใจจริงๆ
ที่นี่เต็มไปด้วยอันตราย แม้แต่เขากับบุริศร์ก็ย่ำแย่อยู่ที่นี่ ผู้หญิงบอบบางอย่างนรมนจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายเธอก็ยังไม่ดี
นึกถึงสภาพร่างกายนรมน จู่ๆ เจตต์ก็ประหลาดใจขึ้นมา
“ร่างกายคุณหายดีแล้วเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? ทั้งๆ ที่โพนี่บอกว่าคุณ……”
“คุณก็เห็นแล้ว ฉันสบายดีมากไม่ใช่เหรอ? เอาล่ะ คุณไม่ต้องถามแล้ว รีบไปซะ เดี๋ยวพวกมันตามมาก็ดึกแล้ว ฉันคนเดียวคุณไม่ต้องกังวล มีกานต์ช่วยฉันอยู่ ยมราชก็อยู่ พวกเขาไม่กล้าให้ฉันเป็นอะไรหรอก ฉันได้ยินมาว่าที่นี่ ระหว่างเมืองใต้ดินกับยมราชต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งกันและกัน ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ ฉันจะไปซ่อนที่นั่น”
ประโยคนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ตกใจ นรมนรู้สึกอับอายจริงๆ
แต่นภดลพูดขึ้นเรียบๆ “ไม่เป็นไร ตั้งแต่ฉันเกิดมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีวันไหนที่ไม่เสี่ยง ถึงจะไม่อยู่ที่นี่ ออกไปข้างนอกฉันก็ถูกจับตามองเป็นเป้าหมายของการแย่งชิงอยู่ดี ฉันบอกว่าอยากคืนเงินให้คุณ นี่จริงจังนะ ถึงฉันจะต่อสู้ไม่ได้ แต่เลือดฉันมีประสิทธิภาพจริงๆ ฉันจะใช้สิ่งนี้สร้างความมั่งคั่งให้กับคุณ”
“ฉันไม่ต้องการ! ฉันไม่ต้องการให้ใครทำร้ายตัวเองเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับฉัน เรื่องเงิน ฉันไม่ขาด ฉันเคยบอกแล้วไง คุณเป็นอิสระแล้ว”
พูดจบ นรมนก็เดินไปทางยมราชทันที
ตอนนี้กลับไปที่โรงแรมอิมพีเรียลไม่ได้แล้ว
เนื่องจากตัวเองถูกเปิดโปงในเมืองใต้ดิน โรงแรมอิมพีเรียลทางนั้นก็ต้องตกเป็นเป้าหมายแรกในการค้นหาแน่นอน ตอนนี้สถานที่เดียวที่เธอซ่อนตัวได้คือโรงพยาบาลของยมราช
แค่เธอไม่รู้ว่าหลังจากบุริศร์ออกมาได้แล้วจะไปที่ไหน เธอควรติดต่อเขาอย่างไร
และการสะกดจิตล้มเหลวที่นำไปสู่การสูญเสียการควบคุมของบุริศร์นั้น ยมราชจะติดต่อได้ไหม?
ทุกอย่างนี้นรมนไม่แน่ใจ แต่มีความหวังสุดท้ายนิดหน่อย หวังว่าเธอจะทำได้
ถึงตอนนั้นยมราชจะต้องการชีวิตตน นรมนก็จะให้เธอ
นำพาความคิดแบบนี้ นรมนมาถึงประตูทางเข้าโรงพยาบาลยมราชแล้ว และนภดลก็ติดตามเธอมาตลอด
นรมนถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดขึ้น “คุณหาเรื่องใส่ตัวเหรอ? บอกคุณตามตรงนะ ฉันมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วัน เพื่อมาช่วยชีวิตคนในครั้งนี้ ฉันใช้ร่างกายที่เดิมทีสุขภาพไม่ดีจนเกินไป แม้ว่ากลับไปจะมีโอกาสได้รับการรักษาอีกครั้ง ก็น่าจะเหลือเวลาอีกไม่กี่ปี ฉันเคยบอกคุณแล้ว เรื่องเงิน ฉันไม่ขาดมัน คุณรีบไปดีกว่านะ ยังมีฉัตรยาที่รอคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ? คุณไปหาเธอเถอะ คุณติดตามฉันมาจนถึงตอนนี้ได้ ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน มันมากพอที่จะจ่ายเงินพวกนั้นแล้ว”
แต่ไม่สนว่านรมนจะพูดอย่างไร นภดลก็ไม่พูดอะไรสักคำ เดินตามเธออย่างแน่วแน่ และพูดขึ้นว่า “คุณตายไม่ได้ ฉันเคยบอกแล้ว เลือดฉันมีประสิทธิภาพ และสถานการณ์สามีคุณในตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ไม่แน่กลับไปแล้วฉันอาจจะช่วยได้”
“คุณ? คุณเป็นนักสะกดจิตเหรอ?”
นรมนค่อนข้างเกินความคาดหมาย และค่อนข้างดีใจ แต่นภดลส่ายหน้าพูดขึ้น “ฉันสะกดจิตไม่เป็น”
สีหน้าเธอหดหู่ทันที
“แล้วคุณหมายความว่าไง?”
“ให้ฉันไปด้วยเถอะ” ถึงเวลาที่ฉันต้องไปฉันจะไปแน่นอน
นภดลทำท่าทางเด็ดเดี่ยว ทำให้นรมนทำอะไรไม่ถูก
เธอพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ตามใจคุณแล้วกัน แต่ฉันเตือนคุณไว้นะ เดี๋ยวเข้าไปแล้ว ห้ามยุ่งกับหมอในนั้น ไม่งั้นฉันไม่เก็บคุณไว้แน่”
“รู้แล้ว”
หลังจากสองคนตกลงกันแล้ว นรมนก็ยกเท้าเดินเข้าไปในโรงพยาบาล สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเกินความคาดหมายคือ ในนี้ไม่เหมือนกับตอนเธอออกมาเลย
เกิดอะไรขึ้น?
มายด์ล่ะ?
จิตใจนรมนกังวลขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...