บทที่ 634 ผมช่วยพี่จัดการก็ได้แล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หมอ!”
คมทิพย์ลนลาน
ทำไมไม่มีเสียง?
ทำไมกัน?
เมื่อหมอได้ยินคมทิพย์ตะโกนเรียกจึงรีบกลับเข้ามา
“คุณคมทิพย์ เกิดอะไรขึ้น?”
“กล่องเสียงเธอเป็นอะไร? ทำไมไม่มีเสียง?”
คมทิพย์จับคอเสื้อหมอแล้วเอ่ยถาม
หมองงงวยไปเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทางของนรมน ทั้งร่างก็ชะงักไป
“ผมไม่รู้ ตรวจดูแล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร นอกจากจะเกิดจากปัจจัยภายนอก”
“ปัจจัยภายนอกหมายความว่าอะไร?”
“หมายความว่าอาจจะกินยาอะไรเข้าไป”
ได้ยินที่หมอพูด คมทิพย์ก็รู้สึกว่าทั่วทั้งตัวลุกไหม้ไปด้วยโทสะ
บุริศร์ตายแล้วเหรอ?
คิดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้นรมนบาดเจ็บจนกลายเป็นแบบนี้!
คมทิพย์คว้าคอหมอแล้วเอ่ยขึ้น “รักษาให้ฉัน ไม่ว่าจะเท่าไหร่ ก็ต้องรักษาเธอให้ดีขึ้นให้ได้!”
“ครับ ครับ คุณคมทิพย์ผมจะพยายามเต็มที่ โรงพยาบาลนี้คุณพ่อของคุณก็มีหุ้นส่วน คุณวางใจได้ ผมจะทำให้เต็มที่”
“ฝากคุณด้วย”
คมทิพย์น้ำตานองหน้า
นรมนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ตลอดทางที่เธอเดินมา คมทิพย์มองแล้วใจสั่นอย่างหวาดกลัว เจ็บใจเป็นอย่างมาก
หมอรีบรับปาก
นรมนถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไปเพื่อตรวจดูอีกครั้ง
คมทิพย์ปวดใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“คมทิพย์ อยู่ไหน? ทำไมยังไม่กลับบ้าน?”
น้ำเสียงของคนมีอายุดังขึ้น
หลังจากที่ได้ยินคมทิพย์เงียบครู่หนึ่งไปก่อนจะเอ่ยขึ้น “วันนี้หนูไม่กลับไปแล้ว หนูมีเพื่อนคนหนึ่งมาเมืองB คืนนี้อยู่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
“เพื่อนอะไร? พามาที่บ้านได้ไหม พ่อครัวที่บ้านก็ทำอาหารอร่อยดีไม่ใช่เหรอ? พากลับมาให้พ่อดูหน่อย โอเคไหม?”
คนแก่พูดต่ออย่างอ่อนโยน
คมทิพย์ยกมือทาบอก พูดเสียงเบา “เธอไม่สบาย รอเธอดีขึ้นค่อยว่ากัน ตอนนี้หนูพาเพื่อนมาโรงพยาบาล คุณน้าจินดาอาจจะพูดอะไรบางอย่าง”
“ลูกไม่ต้องสนใจเธอ ลูกเป็นลูกสาวของพ่อ! หลายปีมาแล้ว พ่อไม่ได้รับผิดชอบในฐานะพ่อเลย วันนี้ลูกกลับมาแล้ว พ่อจะไม่ทำให้ลูกลำบากใจอีก”
คำพูดของคนแก่กลับทำให้คมทิพย์เศร้าสลดเล็กน้อย
“ไว้ค่อยคุยกันนะคะ หนูวางสายก่อน”
พูดจบคมทิพย์ก็วางสายไป
เธอมองไปที่ห้องฉุกเฉินของนรมน ทั้งใจอึดอัดเป็นอย่างมาก
ตอนที่เธอกับพฤกษ์ออกจากเมืองชลธี ก็พบกับนารธิปข้างนอกโดยบังเอิญ
เธอไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าตนเองยังมีพ่ออีกคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย
เพราะเรื่องด่วนพฤกษ์จึงกลับเมืองชลธีไป เธอจะแต่งงานกลับพฤกษ์อยู่แล้ว นารธิปก็ปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้
เขาบอกว่าคมทิพย์หน้าตาเหมือนกับภรรยาเขาที่ตายไปแล้วมาก ขอให้คมทิพย์ตรวจดีเอ็นเอทดสอบความเป็นพ่อลูกกับเขา
คมทิพย์งงงัน แต่ก็ทำ
คิดไม่ถึงว่าผลการตรวจดีเอ็นเอคือพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน!
นารธิปบอกคมทิพย์ว่าแม่ของเธอคลอดเธอ ตอนถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ เพื่อปกป้องเธอ แม่ของเธอโยนเธอออกมาข้างนอก หวังว่าจะมีคนดีมาเก็บเธอไป แต่ตัวเธอกลับถูกทรมานตอนโดนลักพาตัวไปจนเสียชีวิต
นั่นคือความเจ็บปวดชั่วชีวิตของเขา
ชีวิตสั่งคนตามหาคมทิพย์อยู่หลายปีแต่ก็ไร้วี่แวว ต่อมาเขาก็แต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบันจินดาตามคำแนะนำของคนอื่น จากนั้นก็มีลูกชายหนึ่งคน น่าเสียดายที่ใจของเขายังคงคิดถึงลูกสาวตนโต
ในที่สุดฟ้าก็มีตา ตอนที่นารธิปหาคมทิพย์เจอก็ดีใจร้องไห้น้ำตานองหน้า
คมทิพย์คิดไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เจอกับพ่อแท้ๆ ของตนเอง เคียดแค้นพ่อแม่แท้ๆ ของตนเองอยู่หลายปี พอรู้ความจริงก็สลายหายเป็นปลิดทิ้ง
เธอกลับมาที่เมืองBกับนารธิป คิดจะบอกพฤกษ์ แต่พฤกษ์กลับดูเหมือนยุ่งอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้โทรกลับหาเธอเลย
เธอกลับไปที่ตระกูลเจริญไชยกับนารธิป กลับพบว่าในบ้านนั้นตัวเองราวกับเป็นคนนอก
จินดาดีกับเธอมาก น้องชายต่างแม่ปัญญ์ก็ดีกับเธอ โดยเฉพาะนารธิปนั้นดีกับเธอมาก แต่เธอกลับรู้สึกว่านั่นไม่ใช่บ้านของเธอ น่าอึดอัดเป็นอย่างมากแม้ว่านารธิปจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเธอ
ถ้าหากเธอยังไม่กลับไป ตระกูลเจริญไชยก็จะไม่เริ่มทานข้าว ตรงจุดนี้ทำให้คมทิพย์ซาบซึ้งใจมาก
เมื่อคิดถึงเรื่องอาหาร คมทิพย์เอาแต่พะวงอยู่กับนรมน กลับลืมไปเสีย
คำพูดของคมทิพย์ทำให้ปัญญ์อดไม่ได้ที่จะมองไปทางห้องฉุกเฉินแล้วเอ่ยขึ้น “เพื่อนที่สำคัญแค่ไหน? สำคัญกว่าผมกับพ่อไหม?”
“สำคัญมาก สำคัญยิ่งกว่าญาติพี่น้องจะพูดแบบนั้นก็ได้ ไม่มีเธอก็ไม่มีพี่ตอนนี้ เพราะความช่วยเหลือจากเธอจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย ตอนที่พี่ผ่าตัดไม่มีใครดูแล เธอก็มาอยู่เป็นเพื่อนทุกคืน และช่วยเหลือพี่ตอนที่พี่อับจนหนทางที่สุด โดยไม่ร้องขออะไรตอบแทน เธอเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิต สนิทที่สุด วันนี้เกิดเรื่องขึ้นกับเธอ พี่ไม่สามารถทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้วไม่สนใจไม่ได้ พี่ทำไม่ได้!”
น้ำตาของคมทิพย์ไหลออกมาทันที
ปัญญ์เห็นคมทิพย์เป็นแบบนี้จึงรีบเอ่ย “พี่ ไม่ต้องร้อง เพื่อนของพี่ก็คือเพื่อนของผม ในเมื่อพี่บอกว่าเธอมีบุญคุณกับพี่มาก ก็เท่ากับว่ามีบุญคุณกับตระกูลเจริญไชยของเรา เธอป่วยหนักมากเลยเหรอ?”
“หมอบอกว่าแผลโดนลวกที่หลังร้ายแรงมาก เพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อาจจะต้องปลูกถ่ายผิวหนัง ต้องเจ็บมากแน่นอน แล้วเธอก็ดูเหมือนว่าจะพูดไม่ได้แล้ว”
“โหดร้ายขนาดนั้นเลย”
ปัญญ์ลูบคางไปมาแล้วพูดขึ้น “งั้นเอาอย่างนี้ไหม ผมจะใช้ความสัมพันธ์ของครอบครัวเราหาหมอที่ดีที่สุดให้เธอ พี่จะได้วางใจ”
“ความสัมพันธ์ครอบครัวเรา?”
คมทิพย์มองหน้าปัญญ์อย่างงงงวย
แม้ปัญญ์จะเป็นน้องชาย แต่เมื่อเห็นท่าทางของคมทิพย์ในตอนนี้แล้ว จึงยิ้มแล้วยื่นมือไปดีดหัวเธอก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะ “พี่คงยังไม่รู้ถึงอิทธิพลเราเมืองB ผมจะบอกพี่ให้ พี่ได้กำไรมากแล้ว ตระกูลของพวกเราเป็นอันดับหนึ่งของเมืองB เสียงของครอบครัวเราร่วมมือกับแคนาดา ไม่ว่าพี่ต้องการอะไร แค่พี่พูดออกมา ผมก็จะหามาให้พี่ได้ จะกี่บาทก็ไม่สำคัญ พี่รู้ไหม? ครอบครัวเราต่อให้จนแล้วเงินก็ยังเหลือ”
“หา?”
คมทิพย์อ้าปากกว้าง ชะงักไปทั้งร่าง
เธอคิดว่าตระกูลเจริญไชยไม่มีอะไรมากไปกว่านักธุรกิจที่ร่ำรวย แต่ตอนนี้ปัญญ์พูดแบบนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสบายใจ
อยู่ๆ ซินเดอเรลล่าก็กลายเป็นเจ้าหญิง ทำให้เธอรู้สึกชินไม่ได้จริงๆ
ปัญญ์เห็นเธออ้าปากค้างด้วยท่าทางน่ารักก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ดูพี่สิ ทั้งน่ารักทั้งซื่อ อย่าปล่อยให้ผู้ชายเลวๆ มาล่อลวงไปนะ”
“เป็นไปไม่ได้! นายต่างหากโง่และซื่อ”
คมทิพย์ได้สติกลับมาทันที
เธอถูกน้องชายอายุน้อยกว่าสามปีหยอกเอาซะแล้ว
คมทิพย์อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปที่ห้องฉุกเฉินก็ยังคงถอนหายใจเอ่ยออกมา “ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าจะสามารถแบกรับความเจ็บปวดไว้แทนเธอได้ เธอนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ”
“พูดอะไรน่ะ? จะให้พี่สาวผมแบกรับความเจ็บปวดแทนได้อย่างไร? พูดตามตรง มีเรื่องอะไรน้องชายจัดการเอง มีเรื่องอะไรน้องชายจัดการให้พี่ก็เรียบร้อยแล้ว เป็นอย่างไร? พี่ ผมหาผู้เชี่ยวชาญให้เธอไหม?”
“ได้ไหม?”
คมทิพย์มองปัญญ์ด้วยสีหน้ารอคอย
“แน่นอนว่าได้สิ”
ปัญญ์ตบหน้าอกเป็นการรับรอง
ในตอนนั้นเอง ไฟห้องฉุกเฉินก็ดับลง นรมนถูกเข็นออกมา สีหน้าเคร่งเครียดของหมอทำให้ใจของคมทิพย์เด้งกระดอนขึ้นมาถึงคอในทันที
“หมอ คอของเธอเป็นอย่างไรบ้าง? ยังสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...