บทที่ 641 พบเห็นไม่สู้คิดถึงกัน
ผู้หญิงไม่เห็นสีหน้าท่าทางของนรมนเลยสักนิด แค่โทรหาสามีของเธอ บอกว่าวันนี้ได้เงินมาหมื่นหยวนและอื่นๆ
นรมนได้ยินแล้วก็รีบเปิดประตูห้องน้ำ แต่เห็นแค่เงาหนึ่งแวบผ่านไป
เธอไม่เห็นคนคนนั้นชัดเจน แต่บุริศร์รู้สึกหัวใจเต้นเร็ว ราวกับทำอะไรบางอย่างที่เลวร้าย
นรมนมองสักพัก แล้วกลับไปที่ห้องน้ำ น่าเสียดายผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว
เธอรู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่กล้าซื้อของเช่นกัน รีบเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็วแล้วก็กลับไปที่ตระกูลเจริญไชยทันที
ระหว่างทางเธอมองด้านหลังอย่างระมัดระวังว่ามีรถตามตนมาหรือไม่
บุริศร์พบว่านรมนระวังตัวเกินไป บางทีเธออาจจะเห็นตนแล้ว
เขาเปลี่ยนไปหลายเส้นทาง โชคดีตอนที่นรมนขึ้นไปข้างบนเขาใส่ที่ติดตามไว้ที่รถนรมน ไม่อย่างนั้นจะตามเธอไม่ทันจริงๆ
นรมนถึงตระกูลเจริญไชยอย่างปลอดภัยแล้ว เขาก็วางใจ
นรมนลงจากรถแล้วก็หันศีรษะกลับไปโดยไม่รู้ตัว ไม่เห็นคนน่าสงสัย แต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่ถูกคนตามมาเหมือนติดเป็นเงาตามตัว เธอบังเอิญเห็นรถแปลกๆ จอดอยู่ที่นั่น ไฟของรถดับ มองไม่เห็นด้านใน แต่เธอรู้สึกว่าดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธอผ่านความมืดอยู่
นรมนรีบวิ่งไปหน้ารถ บุริศร์ที่อยู่ในรถก็รีบซ่อนเบาะหลังรถแล้วปีนลงมา หัวใจเต้นเหมือนฟ้าร้อง
เขาถูกจับได้จริงๆ แล้วใช่ไหม?
เขากลั้นหายใจ มองนรมนนอกหน้าต่างด้วยอารมณ์สับสนอย่างมากสักพักหนึ่ง
นรมนจ้องในรถอยู่นานมาก เธอขมวดคิ้ว จำเลขทะเบียนรถ จากนั้นก็หันศีรษะกลับไปที่ตระกูลเจริญไชยทีละก้าว
บุริศร์รอให้เธอเข้าไปแล้วก็โล่งอก เหงื่อผุดด้านหลัง เขารู้ว่าตัวเองอาจจะถูกจับได้ เขายิ้มอย่างขมขื่น คาดเดาไม่ได้เลยว่านรมนจะมีท่าทีแบบไหน
เขารู้การจากลาเป็นวิธีที่ไม่ถูกจับได้มากที่สุดในปัจจุบัน แต่เขาก็ไม่ต้องการ มันนอนหลับยากมากอยู่หลายเดือน มันทำให้เขาไม่มีทางทนกับความเหงาคนเดียวได้อีก ถึงแม้จะกั้นด้วยประตูใหญ่ แค่เฝ้าดูเธอ เห็นเธอได้ก็พอแล้ว
เมื่อนรมนกลับมา ก็เจอปัญญ์กำลังตามหาเธอพอดี
“พี่นรมน พี่ไปไหนมา?”
นรมนยิ้มแสดงท่าทางพูดขึ้น “ฉันออกไปเดินเล่น”
“ฉันตกใจแทบตาย ฉันคิดว่าคุณโดนลักพาตัวไปแล้ว เกือบระดมคนไปตามหาคุณแล้ว”
“ได้ยังไง?”
สำหรับความเป็นห่วงของปัญญ์ นรมนประทับใจมากจริงๆ
“พี่คุณล่ะ?”
นรมนไม่เห็นคมทิพย์ กลัวว่าเธอจะออกไปตามหาตนแล้ว ก็รีบแสดงท่าทางถามขึ้น
ปัญญ์ยิ้มแล้วพูดว่า “แฟนโทรมา เหมือนจะทะเลาะกันนิดหน่อย กำลังตะโกนเสียงดังอยู่ในห้อง”
นรมนตกตะลึงเล็กน้อย
พฤกษ์?
ใช่แล้ว
พฤกษ์เป็นผู้ช่วยบุริศร์ ตอนนี้จะตามหาตนผ่านคมทิพย์ไหมนะ?
นรมนกังวลเล็กน้อย
นรมนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานอีกครั้ง และความรู้สึกแปลกๆ ที่ถูกติดตาม
“พี่นรมน พี่เป็นอะไร?”
ปัญญ์เห็นวันนี้เธอเหม่อลอยบ่อย อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเป็นห่วง “คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? อยากให้ฉันเรียกหมอประจำครอบครัวมาดูคุณไหม?”
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร แค่คิดบางเรื่องน่ะ”
นรมนพูดขึ้นอย่างเกรงใจ
และในตอนนี้ คมทิพย์ก็เปิดประตูเสียงดัง “ปัง” เดินออกมาอย่างขุ่นเคือง
“โอ๊ยพี่ฉัน ทำไมวันนี้ฉุนเฉียวแบบนี้? แฟนนอกใจเหรอ?”
คำพูดปัญญ์ยั่วยุให้คมทิพย์กลอกตาแล้วดุด่าเสียงดัง
“ไปให้พ้น! แกสินอกใจ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
“โอ้ๆๆ ยังปกป้องอีก เป็นแบบนี้ก็ดี แล้วจะยังโกรธอีกทำไม? เขาไม่ได้ทำให้พี่รำคาญนี่”
ปัญญ์รู้นิสัยคมทิพย์
ในตอนแรก คมทิพย์สุภาพกับเขามากจริงๆ ไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาช่วยพวกนรมน คมทิพย์จึงมีท่าทีใกล้ชิดสนิทสนมกับปัญญ์ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเป็นกันเองขึ้นเรื่อยๆ
คมทิพย์ได้ยินถึงตรงนี้ สีหน้าก็ไม่พอใจอีกครั้ง
นรมนถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไร พฤกษ์มาที่เมืองB ไม่รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่เมืองB อยากให้ฉันไปเจอเขา ฉันยังไม่หายโกรธเลยนะ เขาช่วยบุริศร์รังแกคุณขนาดนี้ ฉันไม่ให้อภัยเขาง่ายๆ หรอก”
ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ หัวใจนรมนก็สั่นไหว
พฤกษ์มาที่เมืองB แล้วบุริศร์ล่ะ?
ตัวเองเห็นเงาคนคนนั้นที่แผงขายอาหารใช่เขาหรือเปล่านะ?
ถึงแม้รู้สึกว่ามันแปลกเล็กน้อย แต่บางครั้งสัมผัสที่หกของผู้หญิงก็แม่นยำมาก
ทันใดนั้นเธอก็วิ่งไปที่หน้าต่าง เห็นรถคันนั้นยังอยู่ อดไม่ได้ที่จะต้องการยืนยันสักหน่อย
ปัญญ์เห็นการเคลื่อนไหวเธอ ก็มองตามสายตาเธอไป เห็นแลนด์โรเวอร์น่าสงสัยคันหนึ่งจอดอยู่ที่นั่น อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“นั่นรถใคร? มาจอดหน้าบ้านเราทำไม?”
“ไหน?”
คมทิพย์รีบโน้มตัวมา
“ฉันจะออกไปดู”
คมทิพย์เดาได้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่
นรมนจับเธอไว้ ต้องการออกไปกับเธอด้วย
ปัญญ์พูดเสียงทุ้ม “ฉันไปกับพวกคุณด้วยดีกว่า ถ้าไปเจอคนที่ไม่น่าเชื่อถือ มันไม่ง่ายที่ผู้หญิงสองคนอย่างพวกคุณจะจัดการ”
เธอนอนขดตัวอยู่บนเตียง รู้สึกว่าหนาวมากๆ ราวกับตัวเองเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ ความรู้สึกเหงานั้นแม้จะอยู่ในเมืองที่วุ่นวายแต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาได้
แหวนในมือโดนเธอกำไว้จนเจ็บมือ แต่เธอก็ไม่คลายมัน
คำว่าบุริศร์สองคำนี้ ดูเหมือนจะถูกสลักไว้ในหัวใจ เมื่อสัมผัสมันก็เจ็บ
ปัญญ์ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ นรมนถึงเดินออกไป ตอนที่ผู้รักษาความปลอดภัยมาถึง ก็ยืนยันว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถของพวกเขา
คมทิพย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
เธอรีบโทรหาพฤกษ์
“บุริศร์มาที่เมืองBใช่ไหม?”
พฤกษ์ไม่ค่อยรู้ว่าควรตอบอย่างไร
“คมทิพย์ เรื่องนี้คุณไม่ยุ่งได้ไหม? จริงๆ นะ ประธานบุริศร์ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ตอนนั้นประธานบุริศร์ไม่อยู่บ้าน ทุกอย่างที่คุณนายต้องแบกรับประธานบุริศร์ไม่รู้เลย และคุณไม่รู้ว่าภายในหนึ่งเดือนกว่านี้ประธานบุริศร์ใช้ชีวิตยังไง?”
“ฉันถามนาย บุริศร์มาที่เมืองBใช่ไหม? นายแค่บอกฉันว่าใช่หรือไม่ใช่?”
ความแข็งกร้าวกะทันหันของคมทิพย์ทำให้พฤกษ์รู้ว่าเธอโกรธจริงๆ แล้ว
พฤกษ์คิดสักพักแล้วพูดขึ้น “เปล่า ประธานบุริศร์ไม่อยู่”
“พฤกษ์ นายพอได้แล้ว ไม่คิดว่าจะรู้จักหลอกฉันด้วย ก็จริงแหละ ในใจนาย บุริศร์เป็นคนที่สำคัญที่สุดใช่ไหมล่ะ? ฉันเป็นอะไรล่ะ เทียบกับบุริศร์แล้วฉันมันก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”
พฤกษ์ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ ก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย
“คุณมันไม่เหมือนกันไหม? ในใจของคุณ นรมนเป็นคนที่สำคัญที่สุด คุณเคยคิดถึงความรู้สึกฉันไหม? เพื่อช่วยเธอหลีกเลี่ยงประธานบุริศร์ คุณบล็อกฉันได้เลย ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ให้ฉันเลยด้วยซ้ำ คมทิพย์ ระหว่างเราสองคนใครไม่สนใจใครกันแน่?”
ทันใดนั้นคมทิพย์ก็รู้สึกจุกในลำคอ เธอรู้สึกแย่เล็กน้อย
“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็เลิกกันเถอะ สัญญาแต่งงานก็จบ ยังไงสำหรับนาย คนอย่างฉันมันก็ไม่คุ้มค่าที่นายต้องจ่าย”
พูดจบ คมทิพย์ก็วางสายทันที แต่ดวงตาก็แดงนิดหน่อย
ปัญญ์เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะจับบ่าคมทิพย์แล้วพูดขึ้น “พี่ พี่ยังมีฉันนะ ถึงชีวิตนี้พี่จะหาแฟนไม่ได้ ฉันจะเลี้ยงพี่เอง”
“ออกไป!”
ตอนแรกคมทิพย์ที่รู้สึกเศร้าใจนิดหน่อยเมื่อได้ยินปัญญ์พูดแบบนี้ใส่ ทันใดนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
เธอเห็นห้องนรมนเปิดไฟอยู่ ก็พูดขึ้นด้วยความเสียใจนิดๆ “ไปสืบมาว่าป้ายทะเบียนรถคันนี้เป็นของใคร? ถ้าเป็นของบุริศร์จริงๆ ฉันจะไม่ให้อภัยเขาเด็ดขาด”
“บุริศร์คือบุริศร์คนนั้นที่เมืองชลธีเหรอ?”
ปัญญ์ไม่รู้มาตลอดว่าคนในใจนรมนคือใคร แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้ได้ยินชื่อบุริศร์ที่คมทิพย์กล่าวถึง ก็อดจะตกตะลึงไม่ได้
คนที่มีชื่อเสียงขนาดนั้น ทำให้ผู้หญิงของตัวเองกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
คมทิพย์ไม่สนว่าบุริศร์จะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน จ้องมองปัญญ์ก่อนจะรีบกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องนรมน
“นรมน เปิดประตู เรามาคุยกันหน่อย”
แต่นรมนไม่มีเสียงเลยสักนิด
คมทิพย์เคาะอยู่หลายครั้ง ก็ยังคงไม่มีเสียงใดๆ เธอรีบให้พ่อบ้านมาเปิดประตูห้อง แต่กลับเห็นนรมนนอนขดตัวอยู่ตรงนั้น ทั้งร่างสั่นเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...