บทที่ 88 ลูกผู้ชายไม่ขี้อ้อนหรอก
กิจจาคิดไม่ถึงว่านรมนจะถามตัวเองเช่นนี้ อึ้งไปสักครู่ แต่ก็พยักหน้าอย่างมีสติว่า"ปกติแม่ของฉันงานยุ่งมาก คุณพ่อกลับมาแม่ถึงจะดีกับฉันบ้าง แม่ไม่เคยกอดฉันเหมือนที่น้ากอดฉันอย่างนี้มาก่อน คุณน้า คุณน้ากอดฉันหน่อยได้ไหม?"
พูดอยู่ กิจจาก็หันไปหานรมนและยื่นแขนออกมา
ทีนี้คนที่อึ้งไปคือนรมนแล้ว
ถูกลูกชายของศัตรูมาขอกอด ความรู้สึกนี้ช่างแปลกๆ?
เธอยังไม่ได้มีปฎิกิริยาอะไรออกมา กานต์ก็ช่วยเธอตัดสินใจแล้ว
" นี่ กิจจา เธอทำอะไรเนี่ย? นี่คือแม่ฉันนะ อ้อมกอดของแม่ฉันสำหรับฉันคนเดียวเท่านั้น เธออย่าแม้แต่จะคิด หลบไปเลย"
กานต์ผลักกิจจาไปข้างๆ
กิจจาทำปากจู๋ พูดอย่างหดหู่ว่า" เธอเป็นลูกพี่ฉันไม่ใช่หรือ? แม่ของเธอก็คือแม่ของฉันไม่ใช่หรือ? ฉันจะกอดจะทำไม? "
" นี่นี่นี่ อะไรนะแม่ของฉันก็คือแม่ของเธอ? ตัวเธอเองก็มีแม่นี่ อยากกอดแม่ก็ไปกอดแม่ของเธอสิ แม่ของฉันก็คือแม่ของฉัน"
พูดจบกานต์ก็กอดนรมนอย่างแน่นๆ เหมือนกลัวกิจจาจะมาแย่งนรมนไปจริงๆ สีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนกทำให้นรมนอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง
" เอาหล่ะ กิจจาก็แค่ล้อเล่นกับเธอ เป็นลูกพี่จริงก็อย่าขี้น้อยใจอย่างนี้"
นรมนพูดปลอบใจกานต์ ความรู้สึกแปลกๆที่มีต่อกิจจาไม่มีแล้ว
ยังไงซะเขาก็เป็นแค่เด็กไม่ใช่หรือ?
กานต์กลับมากอดขาของเธอแล้วพูดว่า" ไม่เอา ถึงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็ใช่ว่าต้องแบ่งปันทุกอย่างให้กัน แม่เป็นของฉัน ฉันไม่ยอมแบ่งให้กับใคร"
เห็นสีหน้าท่าทางที่จริงจังของกานต์ นรมนจึงหัวเราะขึ้นมา
"เอาหล่ะเอาหล่ะ ไม่กอดไม่กอด"
ทีนี้กานต์ถึงยิ้มแย้มออกมา
กิจจากลับพูดอย่างเสียใจว่า" ลูกพี่ขี้น้อยใจจริง"
" ขี้น้อยใจ ใครจะทำไม? ไม่พอใจมาตีฉันสิ หากชนะฉันจะให้กอดแม่ของฉัน"
กานต์ท้าทายกิจจาอย่างหยิ่งยโส
นรมนกำลังจะพูดว่าต้องสามัคคีกันไว้ ก็ได้ยินกิจจาพูดว่า"ตีก็ตีสิ ใครกลัวใคร มาเลย"
เขาดึงชายเสื้อขี้นมา และตะโกนวิ่งตรงมาหากานต์
นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
บอกจะตีก็ตีเลยมันยังไงกันเนี่ย?
ไหนบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันไม่ใช่หรือ?
"กานต์ กิจจา"
นรมนอยากห้ามปราม แต่กลับถูกกานต์ปล่อยตัวออกมา
"แม่ แม่ยืนดูอยู่ข้างๆพอ แม่ดูผลการฝึกซ้อมของลูกชายแม่เถอะ"
"อะไรนะ?"
นรมนยังไม่ทันตั้งตัว กานต์ก็รีบวิ่งไปตีกับกิจจาแล้ว จากนั้นก็ได้โยนกิจจาออกไป
เสียงดัง" ปั้ง" นรมนรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว
ฝุ่นละอองกระเด็นขึ้นมา ร่างของกิจจาล้มลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรง
เดิมทีนรมนคิดว่ากิจจาจะร้องไห้ แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้โมโหขึ้นมาจริงๆ ไม่สนใจว่าร่างกายเปื้อนดินรึเปล่า ลุกขึ้นมาทันที และวิ่งเข้ามาจู่โจมกานต์อีกครั้ง
"อ้า........ กานต์ ฉันต้องเอาชนะเธอ"
กิจจาพูดไปด้วย จู่โจมกานต์ไปด้วย
กานต์พูดอย่างเย็นชาว่า"ชนะฉัน อาหารเที่ยงในวันนี้ฉันยกให้เธอกิน ยังจะให้แม่ฉันกอดเธออีกด้วย หากแพ้ฉัน งั้นอาหารเที่ยงวันนี้ของเธอก็ตกเป็นของฉัน"
"ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ"
กิจจาพูดคำนี้ไว้ และวิ่งตรงมาหากานต์
นรมนดูออก สู้กับกิจจา กานต์ไม่ต้องเสียแรงมาก ที่สำคัญยังมีแรงเหลืออีกเยอะ แต่ว่าสำหรับกิจจามันถูกรังแกเกินไปรึเปล่า?
เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะห้ามปรามยังไง แต่กลับได้ยินแชมป์พูดเสียงต่ำว่า"ก่อนที่กานต์ยังไม่มา ฝีมือการต่อสู้ของคุณชายน้อยถือว่าไม่เลว แต่น่าเสียดายกานต์เป็นคนเก่งที่มีพรสวรรค์ การต่อสู้ทุกอย่างแค่ชี้แนะก็ทำได้หมด ทำให้คุณชายน้อยแพ้อย่างยับเยิน หากในอนาคตกานต์เป็นทหาร ต้องเป็นทหารที่เก่งกาจสามารถ"
ได้ยินแชมป์พูดเช่นนี้ นรมนอึ้งไปสักพัก
เธอไม่เคยคิดจะให้ลูกชายตัวเองเป็นทหารเลยแม้แต่น้อย
" ในอนาคตเขามีเส้นทางของเขาเอง"
นรมนพูดอย่างเสียงต่ำ
กานต์ต้องกลับไปพร้อมกับเธอที่อเมริกา ถึงแม้จะไม่ทำธุรกิจแต่ก็ไม่เป็นทหาร เพราะยังไงเธอก็ไม่คิดจะให้ลูกชายตัวเองเป็นทหารในต่างประเทศ ที่สำคัญเธอยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่
ตอนนี้การเป็นทหารอันตรายมาก ลูกชายเธอผ่านเรื่องเลวร้ายมาตั้งมากมายถึงคลอดออกมา และไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาบ้าง เธอจะให้ลูกคลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด
แชมป์มองหน้านรมนอย่างสงสัย ไม่เข้าใจความหมายของนรมน แต่ก็ยิ้มแย้มพูดว่า" มันก็จริง เขามีเส้นทางของตัวเอง"
ความหมายของทั้งสองคนต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่วินาทีนี้ใครก็ไม่พูดไม่จากัน
การต่อสู้ระหว่างกานต์กับกิจจา ฝั่งนึงได้ล้มลงไปแล้ว
ส่วนใหญ่กิจจาถูกกานต์กดทับไว้เป็นส่วนมาก แต่ว่านิสัยกิจจาก็ดื้อรั้นไม่เบา ไม่ว่าจะถูกล้มไปกี่ครั้ง ก็ยังไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นมาสู้กันอีกครั้ง
นิสัยที่ไม่ยอมแพ้เช่นนี้ทำให้นรมนเอ็นดูมาก
นิสัยเด็กคนนี้เหมือนใครนะ?
บุริศร์เป็นลูกที่ร่ำรวยมาโดยตลอด น้อยมากที่จะเห็นเขามีเรื่องลำบาก และน้อยมากที่บุริศร์เคยล้มเหลว เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าบุริศร์มีนิสัยที่ไม่ยอมแพ้เช่นนี้รึเปล่า แต่ว่าในตัวกิจจา นรมนเห็นจุดเด่นจุดนี้
หากไม่ใช่เป็นเพราะเธอ คมทิพย์และครูทั้งหมดที่นี่ก็ไม่ต้องมาลำบากเช่นนี้
"ขอโทษนะ คมทิพย์ ฉันทำให้เธอเดือดร้อน"
นรมนพูดเสียงต่ำ
คมทิพย์เข้าใจทันทีว่าความหมายอะไร
"โถ๋เฮ้ย ไม่เกี่ยวกับเธอ เธอไม่สามารถขัดขวางคนเลวทำชั่วซะหน่อยใช่ไหม? ใช่แล้ว เธอมาได้ไง? คนเลวคนนั้นส่งเธอมาหรือ?"
คนเลวที่คมทิพย์พูดถึงคือบุริศร์ นรมนเข้าใจดี
เธอส่ายหน้าและพูดว่า"ฉันเกิดเรื่อง จึงต้องมาที่นี่"
พูดอยู่ เธอก็เล่าเรื่องเมืองชลธีให้กับคมทิพย์
คมทิพย์อึ้งไปเล็กน้อย
" ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? รู้ไหมว่าใครมุ่งเป้ามาหาเธอ?
" ไม่รู้ มาที่เมืองชลธีคนที่ฉันมีเรื่องด้วยก็คือเขมิกาและบุริศร์เท่านั้น เขมิกาไม่มีความสามารถนี้แน่นอน"
" งั้นก็คือบุริศร์ ไม่แน่เขาแต่งเรื่องขึ้นมาเองและเล่นละครเอง จุดประสงค์ก็เพื่อให้เธอซาบซึ้งในบุญคุณของเขา จากนั้นก็ยอมเป็นของเขา คนเลวคนนี้ทำได้ทุกอย่าง? "
คมทิพย์ไม่มีความรู้สึกดีๆกับบุริศร์เเม้แต่น้อย ตอนนี้คนที่คิดได้เป็นคนแรกก็คือบุริศร์ที่กำลังทำชั่วอยู่
นรมนขมวดคิ้ว
" คงไม่ใช่หรอกมั้ง? "
" ไม่ใช่ได้ไง นรมน เธอคงไม่มีความรู้สึกดีๆกับเขาหรอกนะ? เธอคิดดู เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อบุริศร์สักนิดเลย แต่กลับกันเรื่องนี้ไปพัวพันกับศัตรูของเขาเจตต์ ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว เรื่องชั่วอย่างนี้ นอกจากคนเลวอย่างเขา ยังมีใครคิดเรื่องชั่วๆอย่างนี้ออกมาได้อีก? "
คำพูดของคมทิพย์ทำให้นรมนตกใจเล็กน้อย
เป็นอย่างนี้จริงหรือ?
เพื่อจัดการกับเจตต์ และเพื่อให้เธอรีบรับฐานะของตัวเอง และพาลูกกลับมาที่บ้านตระกูลโตเล็ก เขาต่ำช้าถึงเพียงนี้จริงหรือ?
อาจเป็นไปได้
ยังไงซะเขารู้จักกับทหารที่ค่ายดี
ส่วนฐานะของคุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา นอกจากคนอย่างบุริศร์สามารถสัมผัสถึง ยังมีใครที่สามารถจ้างเธอมาเล่นละครด้วย?
เขมิกาไม่มีสิทธิ์ เพราะฉะนั้นมีแต่บุริศร์ใช่หรือไม่?
คิดถึงตรงนี้ สีหน้านรมนก็เย็นชาขึ้นมาทันที
"หากเป็นเขาจริง ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่"
คมทิพย์กลัับทำเสียง"เชอะ" และพูดว่า"เธอโง่เหรอ หากเป็นบุริศร์ทำจริง เขาต้องทำอย่างเนียบเนียน ไม่ให้เธอจับร่องรอยได้หรอก เธอจะไปสืบอย่างไรว่าเป็นเขา?"
ได้ยินคมทิพย์พูดเช่นนี้ นรมนก็คิดถึงเจตต์ขึ้นมาอย่างกระทันหัน
เดิมทีเธอไม่เคยคิดจะร่วมมือกับเจตต์มาจัดการกับบุริศร์เลย แต่ว่าหากบุริศร์ต่ำช้าถึงเพียงนี้จริงๆ เธอก็จะทำให้ผู้บริสุทธิ์อย่างเจตต์ต้องมาเดือดร้อนด้วย ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมให้เจตต์มารับผิดแทนเธอแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...