บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง นิยาย บท 12

12 : สามีที่ดีคือสามีใหม่นะท่านแม่

หลังจัดแจงที่พัก ให้ครอบครัวของเฉาซูหลิ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่นมหูยกของว่างกับน้ำชา มาให้หม่าหลิงเฟยในห้องนั่งเล่น

“ฮูหยินท่านใจอ่อนไปแล้วนะเจ้าคะ”

มีความห่วงใยในน้ำเสียงของแม่นมหู

หม่าหลิงเฟยอมยิ้มในหน้า

“ท่านก็กังวลเกินเหตุ ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าเรือนหลังนี้เงียบเหงาเกินไป หากมีเสี่ยวหยวนคอยวิ่งเล่นรอบตัวของเหวินเซียว อาจทำให้เขามีความสุข มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้” นางยังจำภาพรอยยิ้มบาง ๆ ตอนบุตรชายอุ้มเสี่ยวหยวนได้

“เช่นนี้นี่เอง”

แม่นมหูพยักหน้าลงเบา ๆ นางถึงแปลกใจว่าเหตุใด ผู้เป็นนายถึงยอมให้เพื่อนบ้าน ที่รู้จักกันเพียงไม่กี่วัน เข้ามาอยู่อาศัยด้วย เป็นเพราะต้องการให้รอบตัวของบุตรชาย ไม่เงียบเหงาจนเกินไปนี่เอง

หม่าหลิงเฟยยกถ้วยชาขึ้นจิบ นอกจากนั้นยังรู้สึกถูกชะตากับเฉาซูหลิ่ง นางดูไร้พิษสงอีกทั้งยังเป็นเพียงอนุ ที่ถูกผู้อื่นหลอกใช้ จนทำให้ตัวเองกับบุตรสาวต้องลำบาก นี่มันไม่ได้ต่างอันใดกับตัวนางเลยสักนิด ต่างก็ถูกทอดทิ้งทั้งแม่ทั้งลูกเหมือนกัน

สามคนแม่ลูกได้พักอยู่ในเรือนหลังของสตรี หม่าหลิงเฟยใจดี รับป้าหลูกับลุงจงเข้ามาอยู่ด้วย ให้คนจัดหาที่พักฝั่งบ่าวรับใช้ให้อยู่ เฉาซูหลิ่งไม่อยากรบกวนพวกเขามากนัก จึงให้บุตรชายนอนห้องเดียวกับตน อีกห้องให้บุตรสาวนอนคนเดียว

“เหยาเอ๋อร์เจ้ามานั่งคุยกับข้าก่อน”

“เจ้าค่ะท่านแม่”

“เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่กันเล่า ไม่ใช่ว่าเจ้ามีกิจการค้าขายอยู่ในเมืองหรอกหรือ”

แม้ไม่มั่นใจว่าเงินทองของบุตรสาวมีมากน้อยเพียงใด แต่เฉาซูหลิ่งคิดว่านางต้องมีมากพอ เลี้ยงดูตนเองกับบุตรชายได้แน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่สั่งให้คนเก็บของ เตรียมย้ายออกมาเช่นนี้

“ข้าก็บอกไปแล้ว ยามนี้หาซื้อเรือนคงยาก ข้าอยากซื้อที่สักแปลงแล้วสร้างเรือนขึ้นมาใหม่”

“ซื้อที่สร้างเรือน ?”

นี่เจ้ามีเงินเท่าใดกันแน่

“ใช่แล้ว เรื่องพวกนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปใจร้อนไม่ได้ อยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ข้าจะพยายามหาที่สร้างเรือนให้ได้เร็วที่สุด ท่านแม่วางใจได้”

“หากคนตระกูลหลี่รู้ว่าเจ้ามีเงินทองเช่นนี้”

“เกี่ยวอันใดกับข้า พวกเขาทอดทิ้งเราครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขึ้นยึดเรือนขับไล่ออกมา ท่านแม่คิดว่าข้าจะมีใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พวกเขารึ” นางเสียงแข็งคล้ายไม่พอใจ

“คนอื่นข้าไม่รู้ แต่บ้านเดิมฮูหยินใหญ่ของพ่อเจ้า ตระกูลจี้ค่อนข้างมีฐานะมั่นคง ข้าคิดว่าพวกเขาต้องส่งเงินทอง มาให้ฮูหยินใหญ่เป็นแน่”

“นั่นเป็นเรื่องของผู้อื่น ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”

“ข้าสงสารก็แต่เสี่ยวหยวน” นางเหลือบตาไปมองบุตรชาย ที่กำลังนั่งวาดรูป อยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าต่างห้อง

“เมื่อเติบโตขึ้นเขาจะเข้าใจถึงความหวังดีของข้า ท่านแม่เองก็ต้องเข้าใจด้วย ครอบครัวเช่นนั้นข้าไม่อยากได้หรอก ข้ายังหวังให้ท่านแม่ ได้พบเจอกับบุรุษที่ดีสักคน สามีที่ดีคือสามีใหม่นะท่านแม่”

“เจ้าไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหนกัน อย่าไปเอ่ยให้ผู้อื่นได้ยินเข้า เขาจะได้จับข้าเข้ากรงหมูไปถ่วงน้ำ”

“ท่านไม่ใช่อนุของใครแล้ว ตอนนี้ท่านคือสาวโสด จำเอาไว้ให้ดี ๆ ล่ะ”

“จริงด้วย”

เฉาซูหลิ่งแค่นขำให้ตัวเองเบา ๆ กระทั่งหนังสือปลดปล่อยอนุภรรยาอยู่ในมือ นางยังคิดว่าตัวเองเป็นอนุของหลี่หย่วนเจ๋ออยู่อีก

สักพักใหญ่ ๆ สาวใช้ผู้หนึ่งได้เข้ามาเชิญพวกนาง ไปกินข้าวร่วมกันกับเจ้าของเรือน

“หม่าฮูหยินท่านทำเช่นนี้ข้ากับลูก ๆ เกรงใจนะเจ้าคะ ให้พวกข้ากินข้าวในเรือนก็ได้ ท่านจะได้กินกับคุณชายอย่างสบายใจ” เฉาซูหลิ่งนึกเกรงใจเจ้าของเรือนเป็นอย่างมาก

“นั่งลงก่อนเถอะ นี่หยวนเหวินเซียวบุตรชายของข้าเอง” หม่าหลิงเฟยเผยมือไปทางบุตรชาย ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้านข้าง

“เหวินเซียวคำนับท่านน้าขอรับ”

เขาทำเพียงค้อมศีรษะลงเล็กน้อย เขาเรียกอีกฝ่ายตามที่มารดาบอกไว้ก่อนหน้า

“เกรงใจคุณชายหยวนแล้วเจ้าค่ะ เจ้าสองคนมาทักทายคุณชายหยวนเร็วเข้า” นางหันไปกวักมือเรียกลูก ๆ ให้เข้ามา

“เสี่ยวหยวนคำนับพี่ชายหยวนขอรับ”

หลี่เหวินเซียวถึงกับอมยิ้มทันที เขาจำเสียงเจ้าตัวน้อยแสนซุกซนคนนั้นได้ วางมือไปที่เก้าอี้ตัวด้านข้าง “เสี่ยวหยวนมานั่งข้างข้าเร็วเข้า”

เสี่ยวหยวนน้อยหันไปมองหน้ามารดากับพี่สาว ครั้นเห็นพวกนางพยักหน้าให้จึงรีบเอ่ย “ขอรับพี่ชายหยวน”

“เหยาเอ๋อร์เงียบทำไมล่ะ” เฉาซูหลิ่งเห็นบุตรสาวยืนนิ่งจึง กระตุกแขนเสื้อนาง

“เมิ่งเหยาคำนับคุณชายสามเจ้าค่ะ”

หลี่เมิ่งเหยาอธิบายไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร คนผู้นี้เดิมทียืนตัวตรงเป็นสง่า พอได้เห็นใบหน้าของเขาถึงได้จำได้ ว่าหน้าตาเป็นเช่นนี้จริง ๆ

เพียงแต่ตอนนี้เขามีริ้วรอย แห่งความบอบช้ำทางจิตใจ ทั้งยังมีผ้าพันรอบดวงตาเอาไว้ ร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นเช่นนี้

“เจ้าคือเด็กผู้นั้นเมื่อห้าปีก่อนหรือ”

หยวนเหวินเซียวหันหน้าไปทางทิศเสียงของนาง นึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นหน้าของนาง ยามเติบโตเป็นผู้ใหญ่

“เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”

“เรียกคุณชายสามอันใดกัน เจ้าเรียกข้าว่าท่านป้า เช่นนั้นต้องเรียกเขาว่า พี่เหวินเซียวถึงจะถูก” หม่าหลินเฟยเอ่ย

นี่ไม่สนิทสนมเกินไปหรือ

บทที่ 12 1

บทที่ 12 2

บทที่ 12 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง