15 : พี่หญิงใหญ่นางค่อนข้างจะร่ำรวย
หลี่เมิ่งเหยามองเห็นความโลภในดวงตาของเขา พวกเถ้าแก่เป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่
“ใครก็ช่วยหาไม่ได้หรอก มีเพียงข้าเท่านั้นที่เข้าไปสถานที่แห่งนั้นได้” สมุนไพรบางตัวมีอยู่บนยอดภูเขา ในกำไลหยกโลกันตร์เท่านั้น ไหนเลยนางจะรู้ได้ว่า ข้างนอกนี่มีหรือไม่
“เช่นนั้นรึ เรามาว่าเรื่องของราคากันเถอะ”
เถ้าแก่จางเกรงว่านางจะเปลี่ยนใจ ยิ่งได้รู้ว่านางนำยามาขายให้เพียงห้าเม็ดเท่านั้น จึงเสนอราคาไปที่เม็ดละหนึ่งพันตำลึง ซึ่งนางก็ไม่ได้ต่อรองราคาแต่อย่างใด มอบยาแล้วรับเงิน จากไปในทันที กระทั่งสัญญาซื้อขายก็ไม่คิดเขียนด้วยซ้ำ
“พิลึกคนจริง ๆ เจ้าตามสะกดรอยนางไป ข้าอยากรู้ว่านางอยู่ที่ใดกันแน่” เขาหันไปสั่งคนของตัวเอง
หลี่เมิ่งเหยาที่ฝึกฝีมือ ในเรือนโลกันตร์มาตลอดห้าปีเต็ม อีกทั้งมีลุงจงคอยสอนวรยุทธ์อยู่ด้านนอก มีหรือจะถูกสะกดรอยได้ง่ายดายปานนั้น นางหลบหนีเขาพ้นได้อย่างง่ายดาย
ความอยากรู้อยากเห็นไม่เลือกคนสินะ
ฝ่ายคนที่ไล่ตามนาง กลับไปรายงานด้วยสีหน้าสลด เถ้าแก่จางรีบโบกมือให้เขาออกไป ดวงตาฉายแววไม่สบายใจขึ้นมา หากแม่นางหลี่โกรธ จนเลิกค้าขายกับตนเล่า หาเรื่องใส่ตัวเองเข้าแล้ว
หลี่เมิ่งเหยาเปลี่ยนเสื้อคลุม เก็บหมวกตาข่ายเอาไว้ นางไปรอที่ภัตตาคารที่นัดหมายกับลุงจง ราวสองเค่อลุงจงก็ปรากฏตัว พร้อมกับแผนที่ ของสถานที่ที่นายหน้าพาไปดู
“ข้าเห็นว่าสองผืนนี่กำลังเหมาะขอรับคุณหนู” ลุงจงชี้นิ้วไปบนแผนที่ตรงหน้า
“อืม ตรงนี้ข้าเคยเห็นแล้วแม้จะทำเลดี แต่ผู้คนรอบข้างไม่ดีเท่าใดนัก กลางคืนจะมีพวกนักเลงอันธพาล มามั่วสุมกันบ่อย ๆ เกรงว่าจะไม่เหมาะ”
นางรู้เพราะเคยพลัดหลงไปทางนั้น ในคืนเทศกาลหยวนเซียวเมื่อปีก่อน นางเลยปัดที่แรกทิ้งไป เหลือเพียงที่อีกผืนที่นางยังไม่เคยสำรวจ “พาข้าไปดูที่นี่”
ทำเลที่ลุงจงพามาดูนั้น อยู่ห่างจากตอกหนิงอันไปราวสองลี้ นับว่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากเรือนหลังเดิม
“ที่นี่คือตรอกหลันเซ่อขอรับ เดิมทีเป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัยของตระกูลเศรษฐีในเมืองฉาง แต่ยามนี้ตระกูลพวกนั้น ต่างย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียงบ่าวไพร่เก่าแก่ดูแลเรือนอยู่ที่นี่ นับไปแล้วมีเรือนอยู่ราวสี่หลังขอรับ หลังที่เปิดขายอยู่ด้านในสุด เป็นของตระกูลกู้เขามีบุตรสาวเพียงคนเดียว ออกเรือนไปอยู่กับตระกูลสามีที่เมืองหลวง บิดามารดาล้วนเป็นห่วง จึงได้ขายเรือนย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงด้วยกัน ข้าเห็นว่าเรือนยังมีสภาพดีอยู่ บางทีคุณหนูอาจไม่ต้องสร้างใหม่ก็เป็นได้” ลุงจงชี้แนะด้วยความหวังดี
“เป็นจริงดังที่ลุงจงว่ามา เรือนอีกสามหลังยังมีบ่าวไพร่อยู่ดูแล คงไม่เงียบเหงาเหมือนตรอกหนิงอัน” นางเดินสำรวจตลอดทั้งตรอกแล้ว พบว่าเป็นสถานที่ที่ดีอยู่ไม่น้อย
“ขอรับคุณหนู”
“เข้าไปดูในเรือนได้หรือไม่ ข้าอยากรู้ว่าภายในเป็นอย่างไร มองแค่ภายนอกยังดูไม่ออก”
“ได้ขอรับข้านัดนายหน้าไว้แล้ว สักครู่เขาคงมาถึง”
เมื่อนายหน้ามาถึง ก็พาทั้งคู่ตรวจดูสภาพของเรือนทุกซอกทุกมุม เรือนมีขนาดใหญ่กว่าเรือนในตรอกหนิงอันเกือบเท่าตัว สภาพดูใหม่ราวกับได้รับการดูแลมาอย่างดี
“หากพวกท่านตัดสินใจซื้อเลย ข้าขายให้ในราคา หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงขอรับ” นายหน้ารีบเสนอราคา
หลี่เมิ่งเหยาย่นคิ้วเล็กน้อย “หนึ่งพันตำลึงเป็นอย่างไร”
“แม่นางท่านเอ่ยมา ก็ต่อรองราคาถึงห้าร้อยตำลึง ข้าจะมีหน้าไปตอบเจ้าของเรือนได้อย่างไร” นายหน้าทำท่าหนักอกหนักใจขึ้นมา
แสดงได้ดี
“เรือนเก่าก็คือเรือนเก่า ไม้พวกนี้ถูกปลวกเจาะข้างในหรือไม่ใครจะรู้” นางเดินไปเคาะเสาไม้เบา ๆ ทำท่าเหมือนไม่ค่อยอยากได้เท่าไร “เฮ้อ หากซื้อแล้วยังต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ ต้องเสียเงินอีกมากโข”
นางปัดมือที่เปื้อนฝุ่นเบา ๆ มองไปรอบ ๆ คล้ายไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
“แม่นางท่านกำลังทำให้ข้าลำบากใจนะขอรับ”
“หนึ่งพันตำลึงถ้วน หากไม่ใช่ราคานี้ข้าไม่ซื้อ” นางขยิบตาให้ลุงจงคุยต่อ ส่วนตัวนางเดินออกไปนั่งรออยู่ในรถม้า
เป็นดังคาดลุงจงตกลงกับนายหน้าค้าที่ ได้ที่หนึ่งพันตำลึงจริง ๆ นางกล้าต่อรองเพราะก่อนหน้า เคยสอบถามราคาเรือนของเมืองฉางมาบ้าง ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่หนึ่งพัน ถึงหนึ่งพันสามร้อยตำลึงจริง ๆ แต่หากร้อนเงินต้องการขายด่วน ก็ควรถูกกว่านั้นเล็กน้อย
“เรือนยังอยู่ในสภาพดี แค่ปรับปรุงเรื่องต่อน้ำมาใช้ กับทำห้องสุขาใหม่ก็พอ”
“ขอรับคุณหนู”
ลุงจงเข้าใจในคำพูดของหลี่เมิ่งเหยา ตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่กับนางได้ราวครึ่งปี นางก็วาดภาพห้องสุขาแบบใหม่ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน นางทำท่อไม้ต่อน้ำเข้ามาใช้ในห้องครัว อีกทั้งความสะดวกสบายมากมายตามมา
“คุณหนูขอรับเมื่อหลายวันก่อน พ่อบ้านหลัวมาถามข้า เรื่องการใช้น้ำกับห้องสุขาในเรือนด้วย ข้าไม่ได้เรียนคุณหนูไว้ ว่าข้าเข้าไปอธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว”
ลุงจงภายนอกเหมือนคนหน้าตาดุร้าย แต่ภายในจิตใจดีมากเลยทีเดียว เขาคิดว่าในเมืองนี้น่าจะมีเรือนคุณหนูเรือนเดียว ที่ใช้น้ำกับห้องสุขาแปลกใหม่เช่นนี้ กระทั่งตัวเขายังได้รับผลพลอยได้ตามไปด้วย
“ข้าไม่ว่าอะไรหรอก อย่างไรเสียก็สายเลือดเดียวกันกับข้า ลุงจงทำถูกแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง