16 : ท่านอยากเป็นหนูลองยาของข้าหรือไม่
หลี่เมิ่งเหยาเดินเข้าไปใกล้ ๆ กับน้องชาย ยกนิ้วขึ้นไล้แก้มนุ่มนิ่มของเขาอย่างแผ่วเบา
“ข้าไม่ได้ซื้อมาให้น้องชายอีกคนหรอก เอามาเผื่อยามเจ้าไม่อิ่มต่างหาก”
“เช่นนั้นรึ” เขาแลบลิ้นเลียผลชานจาสด ที่ถูกเคลือบด้วยน้ำตาลกรวดอย่างเอร็ดอร่อย
“แปลกจริง ยังไม่ถึงหน้าหนาวเลย มีผลชานจาแล้ว” นางนึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
“จริงด้วยขอรับ หรือว่าปีนี้จะหนาวเร็วกว่าทุกปี ผลชานจาเลยสุกเร็ว” จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง จนนางตามแทบไม่ทัน มองเขากินปิงถังหูลู่อย่างสุขใจ แต่แล้วเขาก็หยุดกินแล้วเอ่ยขึ้น
“พี่หญิงใหญ่”
“หืม”
“ข้าเอาไปแบ่งให้น้องชายได้หรือไม่”
เด็กน้อยช่างไร้เดียงสา เสี่ยวหยวนเป็นเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวมาตลอด จู่ ๆ เกิดมีน้องชายขึ้นมา เลยอยากแบ่งปันของกินให้ด้วย นางคุกเข่าลงตรงหน้าของน้องชาย จับไหล่น้อย ๆ ของเขาแล้วลูบลงตามลำตัว
“เสี่ยวหยวนน้องชายยังเล็ก อาจยังไม่มีฟันแข็งแรงพอ ให้แทะปิงถังหูลู่ของเจ้า เอาไว้ให้เขาโตขึ้นอีกหน่อย ค่อยแบ่งให้เขาดีหรือไม่” นางไม่เคยคิดแยกพี่แยกน้อง
“อื้ม” เสี่ยวหยวนพยักหน้าสุดแรงอย่างเข้าใจ
“เด็กดีน่ารักมาก”
นางลุกขึ้นเดินไปส่งเขาที่ห้องนอนของมารดา ไม่วายกำชับให้เขากินขนมให้หมดก่อน จากนั้นต้องไปแปรงฟันก่อนเข้านอน ป้าหลูเป็นคนคอยดูแลเขายามแปรงฟัน
“ท่านแม่เมื่อครู่นี้เสี่ยวหยวน อยากแบ่งขนมให้น้องชายด้วยล่ะ”
“เฮอะ ! แบ่งให้ทำไมกัน ฮูหยินใหญ่ใช่ว่าจะไม่มีเงิน บ้านเดิมนางร่ำรวยจะตายไป” เฉาซูหลิ่งเบ้ปากใส่บุตรสาว
“ท่านแม่ข้าเล่าให้ท่านฟัง เพราะอยากให้ท่านเข้าใจเสี่ยวหยวน เขายังเด็กความคิดยังไร้เดียงสา น้องชายอี้เอ๋อร์ก็เหมือนกัน ต่างเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ทั้งคู่ ท่านอย่าอคติต่อเด็กคนนั้น หากวันข้างหน้า เสี่ยวหยวนอยากทำความรู้จักกับน้องชายของตัวเอง ท่านจงปล่อยวางเสีย”
“ไม่ใช่เจ้าหรอกรึ บีบคั้นเอาหนังสือปลดปล่อยอนุภรรยาให้ข้า เหตุใดยามนี้มาบอกให้ข้าปล่อยวาง” เฉาซูหลิ่งไม่เข้าใจความคิดของบุตรสาว
“ข้าอยากบอกว่า เรื่องของผู้ใหญ่ก็ส่วนผู้ใหญ่ เรื่องของเด็กก็ส่วนเด็ก ท่านอย่างเอามาปนเปกันเด็ดขาด”
“ได้ ๆ ข้าเชื่อฟังเจ้า” นางประชดบุตรสาวเล็กน้อย “เจ้ารีบกลับห้องตัวเองไปเลยไป ยิ่งอยู่หูข้ายิ่งชา”
หลี่เมิ่งเหยามองมารดาราวเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ หากไม่มีนางสักคน คิดไม่ออกเลยว่ามารดาผู้นี้ จะอยู่รอดมาได้อย่างไรกัน นางส่ายหน้าเบา ๆ เดินกลับไปยังห้องนอนของตนเอง นางคงต้องนำยาที่ปรุงเอาไว้ ออกมาทดลองใช้บ้างแล้วล่ะ
หลายวันมานี้เสี่ยวหยวนเริ่มคุ้นชินกับเส้นทาง การเดินไปเรือนของหยวนเหวินเซียว เขาจึงไม่ได้ให้ลุงจงติดตามไปด้วย
วันนี้หลี่เมิ่งเหยามาดักรอน้องชาย ที่หน้าเรือนของมารดา บอกว่านางจะเดินไปส่งเขา ที่เรือนของหยวนเหวินเซียวเอง
“พี่หญิงใหญ่ข้าจดจำเส้นทางได้แล้ว”
“ข้าอยากรู้ว่ายามอยู่ที่เรือนของพี่เหวินเซียว เจ้าตั้งใจคัดตัวอักษรหรือไม่ ไม่ใช่มัวแต่เล่นซุกซนไปวัน ๆ”
“พี่หญิงใหญ่ใส่ร้ายข้า ไม่เชื่อข้าก็ถามพี่ชายหยวน หรือไม่ก็พี่หลินต๋ากับพี่ห้าวตงก็ได้” เสี่ยวหยวนน้อยทำหน้า เหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ข้าไม่ถาม ข้าต้องได้เห็นกับตา”
นางเดินตามหลังน้องชาย ผ่านภูเขาน้ำตกจำลอง ปกคลุมด้วยต้นไม้ร่มรื่น มีสะพานเล็ก ๆ สร้างเหนือสระน้ำด้านล่าง ปลาหลากหลายสีสันแหวกว่ายไปมา
สังเกตดูดี ๆ กลับพบว่าบรรยากาศสวยงามเหล่านี้ เพิ่งถูกเจ้าของเรือนสร้างขึ้นมาใหม่ หม่าหลินเฟยไม่ต้องการให้บุตรชายโดดเดี่ยวจนเกินไป จึงได้สร้างเสียงน้ำตกให้เขาได้ผ่อนคลาย ช่างเป็นมารดาที่น่านับถือจริง ๆ
ครั้นเปรียบเทียบกับมารดาของตัวเอง บุตรสาวหาเงินได้จากอะไร นางยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ขอเพียงนางไม่ลำบากเป็นพอ เทียบกันไม่ได้ ๆ
ฉีห้าวตงอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าพอดี ครั้นเห็นหลี่เมิ่งเหยา ตามน้องชายมาด้วยก็ตกใจ รีบเดินเข้ามาดักด้านหน้าของนาง “คุณหนูหลี่นี่เรือนของบุรุษนะขอรับ”
“ทำไมล่ะ น้องชายข้ามาที่นี่ทุกวัน ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาตั้งใจเรียนหนังสือ หรือว่าแค่เที่ยวเล่นไร้ประโยชน์ไปวัน ๆ” นางมองประเมินน้องชายไปด้วย
เสี่ยวหยวนเงยใบหน้ากลมน้อยขึ้นมองพี่สาว พลางคิดในใจ
พี่หญิงใหญ่ท่านใส่ร้ายข้าอีกแล้วนะ !
“เช่นนั้นให้ข้าไปเรียนคุณชายก่อนนะขอรับ” ฉีห้าวตงไม่อาจตัดสินใจเองได้
“เชิญ”
เสี่ยวหยวนกระตุกแขนเสื้อพี่สาวเบา ๆ
“มีอะไร”
“เรือนบุรุษสตรีไม่ควรเข้า เหตุใดพี่หญิงใหญ่ถึงอยากเข้าไปอีกเล่า ข้าจะเอาใบหน้าน้อย ๆ นี่ไปพบผู้อื่นได้อย่างไร พี่หญิงใหญ่ไร้ยางอายเกินไปแล้ว”
“เฮอะ ใบหน้าน้อย ๆ นี่ของเจ้า ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน ช่างพูดช่างเจรจาเสียจริง” นางบีบยืดแก้มซาลาเปาเขาเล่นไปมา เจ้าตัวน้อยได้แต่ร้องอืออาด้วยความเจ็บ
พี่หญิงใหญ่หอมข้าเหมือนเดิมก็ได้ ข้าไม่อยากถูกบีบแก้มอีกแล้ว
หลี่เมิ่งเหยาหยุดหยอกล้อน้องชาย หลังได้ยินเสียงฝีเท้าของคน เป็นฉีห้าวตงกำลังเดินมาทางนี้
“คุณหนูหลี่คุณชายอนุญาตให้ท่านเข้ามาในเรือนได้ แต่ว่าให้ไปที่ศาลาริมสระน้ำ เชิญทางนี้ขอรับ”
ฉีห้าวตงผายมือเชิญนางไปที่ลานริมสระ มีศาลาริมน้ำตั้งอยู่ที่นั่น เป็นลานเปิดโล่งไม่ลับตาผู้คน มีถนนที่ปูด้วยก้อนอิฐแผ่นใหญ่สม่ำเสมอ มองดูก็รู้ว่าเพื่ออำนวยความสะดวก ในการเข็นรถของหยวนเหวินเซียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง