นางหยุดสักครู่แล้วพูดต่อ “ข้าเชื่อว่าเสด็จพ่อคือผู้บริสุทธิ์ ต่อให้ข้าจะไปจากจวนอ๋อง ก็ควรรอให้คดีของจวนเยียนอ๋องกระจ่างเสียก่อน”
“ข้าคือบุตรีเพียงคนเดียวของอดีตฮ่องเต้ เป็นถึงองค์หญิง หากข้าถูกประกาศจับ จะเสื่อมพระเกียรติไปถึงเสด็จพ่อของข้า”
นางเลือกกลับจวนเยียนอ๋อง และยังคงเป็นสะใภ้ใหม่ของเยียนอ๋องซื่อจื่อ สมควรเรียกเหล่าไท่จวินว่าท่านย่า
พระชายาผู้เฒ่ามองนางอย่างเปี่ยมเมตตา พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนโยน “องค์หญิงละม้ายอดีตฮ่องเต้มากนัก มีเมตตาปรานีและมีคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่”
“เสียดายที่ซื่อจื่อ...เฮ้อ! เขาไม่มีวาสนาเอง”
พระชายาเยียนอ๋องดึงมือซือเจ๋อเยว่ “วันนี้องค์หญิงช่วยจวนเยียนอ๋องเอาไว้ ทั่วทั้งจวนซาบซึ้งในพระคุณยิ่งนัก”
นางมองดูซือเจ๋อเยว่ แล้วนึกถึงเยียนอ๋องซื่อจื่อที่เสียไปแล้ว น้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสาย
ในยามปกติที่สำนักเต๋า ซือเจ๋อเยว่มักพบเจออาจารย์ทั้งหลายที่หน้าด้านและนิสัยประหลาด
ผู้ที่อ่อนโยนราวสายน้ำอย่างพระชายาเยียนอ๋อง นางไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว ชั่วขณะนั้นจึงวางตัวไม่ถูก ได้แต่หันไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าไท่จวิน
เหล่าไท่จวินสูดหายใจเข้าลึก “วันนี้จวนเยียนอ๋องถูกล้อม หนิวกงกงบุกเข้ามาหาเรื่อง ต้องได้รับคำสั่งมาแน่นอน”
“สถานการณ์ในตอนนี้ พวกเราต้องคิดหาวิธีรับมือให้เร็วที่สุด”
ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านย่าพูดถูก ตอนนี้จวนเยียนอ๋องถูกล้อม ทั่วทั้งจวนตกอยู่ในยามคับขัน”
“หนิวกงกงบอกว่าจวนอ๋องเกี่ยวข้องเรื่องขายชาติ แต่ตอนนี้แค่ล้อมจวนไว้แต่ไม่จับตัวผู้ใด แสดงว่าในมือเขาไม่มีหลักฐานที่จวนเยียนอ๋องขายชาติ”
เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเข้ม “ตามขั้นตอนในอดีต ฮ่องเต้ต้องส่งคนของศาลต้าหลี่มาสืบคดีในจวนแล้ว”
“เหวยอิ้งหวนผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เป็นคนเที่ยงตรง หากเขาทำคดี จะมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด”
ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้น “จวนเยียนอ๋องรักษาชายแดนมาหลายปี มีผลงานมากมาย”
“ครั้งนี้เสด็จพ่อออกรบจนตัวตาย ทำให้ทุกคนทั่วแคว้นต้าฉู่ จับตามองจวนเยียนอ๋องเป็นพิเศษ”
“หากฮ่องเต้อยากให้ประชาชนยอมรับ คงต้องส่งคนที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคนมาสืบคดีจวนเยียนอ๋อง”
“ขอเพียงมีหลักฐานแน่นหนา ถึงจะลงโทษจวนเยียนอ๋องได้อย่างแท้จริง”
พระชายาเยียนอ๋องพูดทั้งดวงตาแดงก่ำ “บนสนามรบเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ที่ว่าเพลี่ยงพล้ำเป็นเพียงข้ออ้าง จะเอาหลักฐานมาจากไหน?”
ซือเจ๋อเยว่กอดอกแล้วเอ่ยขึ้น “คำว่าหลักฐานแน่นหนา ต้องแน่นหนามากพอ จึงจะเป็นหลักฐานได้”
“หากเปลี่ยนเป็นข้า ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนามากพอ ข้าจะทำให้มันแน่นหนาเอง”
เยียนเซียวหรานและเหล่าไท่จวินต่างหันมองนาง นางจึงเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าจะยกตัวอย่าง แค่ยกตัวอย่างนะ”
“การศึกเพลี่ยงพล้ำไม่มีหลักฐาน แต่หากมีจดหมายในการขายชาติ เช่นนั้นความหมายในเรื่องนี้จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง”
“เพราะอย่างไรข้อหาการศึกเพลี่ยงพล้ำ อย่างมากจวนเยียนอ๋องก็แค่โดนริบเรือนเนรเทศ”
“แต่หากเป็นข้อหาขายชาติ จะทำให้จวนเยียนอ๋องถูกสั่งประหารเก้าชั่วโคตร”
คำพูดของนาง ทำให้ทุกคนที่ได้ยินหน้าถอดสีทันที
พระชายาเยียนอ๋องเอ่ยอย่างโกรธแค้น “ขายชาติ จวนเยียนอ๋องจะขายชาติได้อย่างไร? ภายในจวนไม่มีจดหมายอย่างนั้นแน่นอน”
ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ “หากอยากจะลงโทษ ยังกลัวไม่มีข้ออ้างหรือ?”
“หลายวันมานี้ในจวนอ๋องมีคนเข้าออกมากมาย ผู้เป็นนายก็เสียอกเสียใจ ง่ายมากที่จะถูกคนฉวยโอกาส”
เหล่าไท่จวินมีคำสั่งทันที “เซียวเอ๋อร์ เจ้าพาคนไปตรวจดูทั่วทั้งจวนอ๋อง”
เยียนเซียวหรานจะพาคนออกตรวจทันที แต่ซือเจ๋อเยว่เรียกเขาไว้ “ช้าก่อน”
เยียนเซียวหรานหันมองนาง จากนั้นนับข้อนิ้วทำนายแล้วเอ่ยขึ้น “คนของศาลต้าหลี่อาจมาได้ตลอดเวลา อีกอย่างจวนอ๋องใหญ่เกินไป อาจทำให้ละเลยบางจุดได้ง่าย”
“น้องสามพาคนไปค้นเรือนที่อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ให้ดี โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวกับน้ำ”
เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินคำว่าน้องสาม หันมองนางครั้งหนึ่ง ดวงตาล้ำลึกกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง