ตอนนี้คงไม่สามารถคายอาหารออกมาได้หรอก ซูอวิ๋นรู้สึกโมโหจริงๆ
ตกดึก ซูจิ่งเห็นว่าน้องชายทั้งสี่คนกลับห้องกันหมดแล้ว จึงเตรียมคุยกับพวกเขาดีๆ
“ลุกขึ้นมานั่งดีๆ ข้ามีเรื่องจะพูดกับพวกเจ้า!”
อย่างไรก็เป็นพี่ชายคนโต เขายังพอมีอำนาจกับน้องชายอยู่บ้าง ต่อหน้าน้องชายทั้งสี่คน เขาไม่ได้อ่อนโยนเหมือนปกติ แต่ทำหน้าเคร่งขรึม
ยามปกติ น้อยนักที่พี่ใหญ่จะใส่ใจว่าพวกเขาทำสิ่งใดหรือพูดอะไร แต่ทุกครั้งเมื่อมีสีหน้าเคร่งขรึมแบบนี้ แสดงว่าจะต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆ พวกเขาจึงไม่กล้าละเลย รีบผุดลุกขึ้นมานั่งเรียงกัน
เดิมทีห้องก็ไม่ได้ใหญ่มาก พวกเขาพี่น้องห้าคนอยู่ด้วยกันก็ทำให้ห้องดูคับแคบมาก ของของพวกเขายังกองอยู่ด้วยกัน หากมีเพิ่มมาอีกสักสองคน คงไม่มีที่ให้ยืนแล้ว
“พี่ใหญ่จะพูดเรื่องซูหว่านใช่ไหม?”
ซูมู่เดาได้แล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็มีไหวพริบและช่างสังเกต
เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องของซูหว่าน เจ้าสี่ซูอวิ๋นก็เบ้ปากไม่พอใจ
ซูจิ่งผงกศีรษะ แล้วดึงเก้าอี้มานั่งลง
“เจ้าสี่ จริงจังหน่อย!”
เขาจ้องมองซูอวิ๋นอย่างเงียบงัน ซูอวิ๋นสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน จึงไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่ดีอีก รีบผุดนั่งตัวตรง ซูจิ่งจึงเริ่มเข้าประเด็น
“หวานหว่านไม่ได้อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่เด็กๆ การที่พวกเราไม่รู้สึกผูกพันกับนางก็เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องที่นางและเย่ว์เย่ว์ถูกสลับตัวกัน ก็ไม่ใช่ความผิดของนาง ในตอนนั้นนางเป็นแค่ทารกที่เพิ่งเกิด นางไม่ใช่คนวางแผน อย่ามองนางเป็นคนผิด โดยเฉพาะเจ้า ซูอวิ๋น
เท่าที่ข้ารู้ นางไม่ได้หาเรื่องเจ้าเลย แม้ว่าเย่ว์เย่ว์จะเติบโตมากับพวกเรา แต่ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นลูกสาวตระกูลกู้ พวกเรายังคงถือว่านางเป็นน้องสาว แต่หวานหว่านก็เป็นน้องสาวของพวกเราเช่นกัน นางมีสายเลือดเดียวกับพวกเรา ข้าไม่ได้ขอให้พวกเจ้าเอ็นดูหรือเอาใจนาง แค่ขอให้พวกเจ้าปฏิบัติต่อนางอย่างเท่าเทียม!”
“นางกับเย่ว์เย่ว์เพิ่งจะสลับตัวกัน วิถีชีวิตของพวกนางเปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องการเวลาในการปรับตัว หวานหว่านไม่เคยลำบาก นางเติบโตมาอย่างสุขสบาย หากนางทำอะไรไม่ถูกต้อง ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะยอมอ่อนข้อให้นางบ้าง พวกเจ้าทำได้หรือไม่”
ซูจิ่งกวาดสายตาไปมองน้องชายทั้งสี่ หวังว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ
“พี่ใหญ่ ข้าเข้าใจที่พี่พูด!” ซูมู่ตอบสั้นๆ แสดงท่าทีของตนอย่างชัดเจน ตอนนี้เขาไม่สนิทกับซูหว่าน แต่ก็ไม่ได้รังเกียจนาง
“ข้าว่าซูหว่านก็ดีนะ ไม่ได้มีนิสัยแบบคุณหนู ข้าไม่มีปัญหาอะไร ท้ายที่สุดนางก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของข้า!” ซูเฉินเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีความคิดซับซ้อน ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ต่อให้เป็นคนที่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่เคยคิดทำร้ายอีกฝ่าย นับประสาอะไรกับน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง
“น้องหวานหว่านมีความรู้และมีมารยาทดีมาก ฮูหยินกู้สอนนางมาดีจริงๆ!” ซูอี้ยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขาโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว เขาเป็นคนที่ซูจิ่งกังวลน้อยที่สุด
ในฐานะพี่ชายฝาแฝด ซูอวิ๋นถลึงตาใส่ซูอี้ คิดในใจว่าเจ้าคนทรยศนี่ ลืมไปแล้วเหรอว่าวันนั้นเย่ว์เย่ว์พูดอะไรไว้
ซูอี้ตอบกลับเขาด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย
เมื่อเห็นสีหน้าต่อต้านของเขา ซูจิ่งขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“ซูอวิ๋น แล้วเจ้าล่ะ?”
“ข้าไม่ได้ต่อต้านการกลับมาของซูหว่าน แต่ก็ไม่อาจสั่นคลอนสถานะของเย่ว์เย่ว์ในใจข้าได้!” ซูอวิ๋นพูดอย่างหนักแน่น ตอนหลังเขาถึงรู้ว่าตัวเองหน้าแตกขนาดไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม