“คุณจะรีบไปไหน? เดี๋ยวทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว ทำความรู้จักกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า”
ในตาของหวังซวี่มีแววตาเยือกเย็นแวบเข้ามา จากนั้นก็ริเริ่มยื่นมือออกไปที่ฉู่เฉิน แล้วพูดอย่างโอ้อวดว่า “ผมแนะนำตัวเองหน่อยนะ ผมหวังซวี่ ตอนนี้เป็นผู้จัดการการตลาดแผนกสอง เป็นเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าของรั่วเวยน่ะ”
ฉู่เฉินเห็นถึงรอยยิ้มอันชั่วร้ายนี้ และเข้าใจได้ในทันที เขาจึงยื่นมือออกไป แล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ฉู่เฉิน”
เมื่อเห็นทั้งสองจับมือกัน กัวรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองอย่างดีใจที่คนอื่นต้องประสบกับความโชคร้ายอย่างลืมตัวขึ้นมา
ซึ่งต้องรู้ก่อนว่า ความแข็งแกร่งของหวังซวี่นั้นเลื่องลือมาก เขาเคยจับมือกับหวังซวี่อยู่ครั้งหนึ่ง แล้วนิ้วมือก็แทบจะหัก จากนั้นผ่านไปสามวันก็ปวดขึ้นมา นี่ยังเป็นผลมาจากการออมมือแล้วของหวังซวี่
คนบ้านนอกที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กำลังจะทำให้ตัวเองดูโง่เขลาเสียแล้ว
และเป็นดังที่คาดไว้ ในขณะที่ฉู่เฉินและหวังซวี่จับมือกัน ฉู่เฉินก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่บีบเขาอยู่
แต่เมื่อมองดูการแสดงออกของหวังซวี่ มันก็เต็มไปด้วยการล้อเล่นและคาดหวัง
เขาก็แค่อยากให้ฉู่เฉินอับอายขึ้นมาในตอนที่อยู่ต่อหน้าของถังรั่วเวยเท่านั้น และหากสามารถทำให้เขาคุกเข่าลงไปด้วยความเจ็บปวดจนต้องอ้อนวอนร้องขอชีวิตจากเขาก็จะเป็นการดีที่สุด
แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ ไม่ว่าเขาจะเพิ่มแรงลงไปที่มือมากเท่าไหร่ ฉู่เฉินก็ยังคงมีท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
ไอ้หนุ่มนี้เป็นคนแบบไหนกัน?
เขาอุทานขึ้นมาในใจ
วินาทีต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อไป และสิ่งที่เข้ามาแทนที่ความประหลาดใจ ก็คือความเจ็บปวดจนบิดเบี้ยวไปหมด
เพราะเขาพบว่ามือของฉู่เฉินเหมือนกับคีมเหล็ก มือที่แข็งแกร่งก็กลับเข้ามาโจมตีเข้าที่มือของเขา
เจ็บ มันเจ็บมากเหลือเกิน!
เขารู้สึกว่ามือของตัวเองถูกบดขยี้ และเขาก็จะดึงมันกลับมาโดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าขยับไม่ได้เลย
เมื่อเห็นการแสดงออกถึงความเจ็บปวดของเขา ฉู่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้จัดการหวัง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ทำไมถึงเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ล่ะ?”
“คุณ……ปล่อยมือ” หวังซวี่แทบจะกระอักเลือด แล้วกัดฟันพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต