หนิงชิงเสวี่ยจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างไม่ละสายตา พร้อมเผยใบหน้าที่หยิ่งผยองออกมา
โดยที่เลขาที่อยู่ข้างกายของเธอ พานอวิ๋น ก็มองไปยังฉู่เฉินด้วยใบหน้าดูถูกเหยียดหยามด้วยเช่นกัน คนจน ๆ แบบนี้จะคู่ควรกับท่านประธานของพวกเราได้อย่างไรกัน?
“ไม่มีปัญหา”
ฉู่เฉินตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “แต่ว่าคุณก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจอยู่ดี เพราะว่าสัญญาการแต่งงานครั้งนี้คุณปู่ของคุณเป็นคนจัดการ คุณสามารถรอจนกว่าผมจะรักษาอาการป่วยของเขาจนหายแล้ว ค่อยให้เขายกเลิกการแต่งงานด้วยตัวเองก็ได้ แค่ท่านยินยอม ผมก็ไม่มีทางจะตามรังควานคุณอย่างแน่นอน”
“ไม่ต้อง”
หนิงชิงเสวี่ยยิ่งเหยียดหยามเขาแล้ว เพราะคิดว่าเขายังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้“งานแต่งของฉัน ฉันจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองสิ ยิ่งไปกว่านั้น อาการป่วยของคุณปู่ฉัน ฉันจะคิดหาวิธีเอง ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาคอยเป็นกังวลหรอกนะ”
เธอรีบเขียนเช็คใบหนึ่งอย่างรวดเร็ว “ นี่เป็นเช็คมูลค่าห้าล้าน บาทขอแค่นายยอมยกเลิกงานแต่งงานกับฉัน มันก็จะเป็นของนายทันที”
“เงินห้าล้าน บาทสำหรับฉันแล้วมันก็แค่เศษเงินเท่านั้น แต่ว่าสำหรับคนชนชั้นล่างแบบนาย ก็พอที่จะเลี้ยงดูปากท้องได้สบาย ๆ ไปทั้งชาติ ฉันเชื่อว่านายคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ”
หนิงชิงเสวี่ยเหน็บแนมพร้อมท่าทางยิ้มมุมปาก ราวกับกำลังให้ทานกับขอทานอยู่
ฉู่เฉินตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องหรอก ถึงแม้ว่าคนอย่างฉู่เฉินจะจน แต่ก็ไม่รับของบริจาคจากใครหรอกนะ”
“ผมยังยืนยันตามเดิม อยากถอนหมั้นก็ได้ แต่จะต้องให้หนิงฉางเจิ้งมาคุยกับผมเอง”
เมื่อพูดจบ ฉู่เฉินก็ผลักประตูและเดินออกไปด้วยท่าทางเด็ดขาดทันที โดยไม่หันกลับมามองแต่อย่างใด
“ท่านประธานคะ เจ้าหมอนี่ช่างไม่รู้จักกาลเทศะอะไรเลยนะคะ แล้วทำไมท่านประธานยังต้องเกรงใจเขาขนาดนั้นด้วย” เลขาพานอวิ๋นพูดด้วยความโมโห
“ก็แค่อวดดีรักในศักดิ์ศรีเล็ก ๆ อันน่าสงสารของตัวเองเท่านั้นแหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต