ลู่ฝานไม่รู้ว่าควรจะเรียกเจ้ามังกรตัวนี้ว่าอย่างไรดี
หากเรียกเป็นแค่มังกรไฟ ก็ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไรนัก
ดูจากกลิ่นอายของมัน มังกรเพลิงเกล็ดลาวาและดวงตาดุจดั่งดวงอาทิตย์ร้อนแผดเผาตัวนี้ดูจะแข็งแกร่งกว่ามังกรตัวอื่นไม่รู้กี่เท่า
เป็นมังกรเพียงหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ลู่ฝานเคยเห็นจนถึงวันนี้
ลู่ฝานถึงขั้นรู้สึกว่า ต่อให้เป็นวานรปีศาจสวรรค์ตัวนั้นที่เฟิงเทียนเลี้ยงไว้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งเหมือนมังกรตัวนี้
ดูเกล็ดมังกรแต่ละแผ่นคล้ายกับจะมีพลังอันไร้ขีดจำกัดซ่อนแฝงอยู่
ลู่ฝานไม่รู้ว่ามังกรตัวนี้ควบรวมโลกใบเล็กของตัวเองหรือยัง แต่ดูจากระดับความเข้มข้นของพลังแห่งเต๋า ต่อให้เป็นขุนพลังสุดเหนือฟ้า ก็ยังเกรงว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับมันได้เลย
ปฏิกิริยาแรกเมื่อได้เห็นสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ก็ควรจะเป็นการหันหลังกลับและรีบวิ่งหนี
แต่ลู่ฝานไม่ได้ทำอย่างนั้น เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
เพราะมังกรตัวนี้ดูแล้วน่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้ไงล่ะ!
กระบี่เล่มใหญ่แทงทะลุร่างกายของมังกรเพลิงคล้ายกับเสาหิน
จากบนลงล่างดูเหมือนเป็นการจัดตำแหน่งในรูปแบบค่ายกล มังกรเพลิงถูกกระบี่ตอกอยู่บนหินผาที่เต็มไปด้วยอักษรรูนที่ใช้สำหรับการจัดวางค่ายกล
เลือดของมันยังคงไหล ลู่ฝานเพิ่งจะเห็นว่า เปลวเพลิงที่เขามองเห็นทั้งหมดเมื่อสักครู่ที่จริงแล้วก็คือเลือดของมังกรเพลิงตัวนี้
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพลังเต๋าถึงได้หนาแน่นขนาดนี้ และยังได้กลิ่นคาวเลือดอีกด้วย
แต่ดูจากสภาพของกระบี่ยาวเล่มนั้นที่ถูกกัดกร่อนด้วยเลือด มังกรตัวนี้น่าจะอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแล้ว
สิบปี ยี่สิบปี หรือจะเป็นร้อยปีก็เป็นไปได้
เป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ ที่มังกรปล่อยเลือดออกมาได้นานขนาดนี้โดยที่ยังไม่ตาย
“มนุษย์ ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ นายควรจะมา ฉันให้เวลาสิบลมหายใจ รีบออกไปซะ ไม่เช่นนั้นนายจะต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง”
มังกรเพลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูมีอายุมาก
การที่มังกรอาวุโสสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ ก็ยืนยันได้ว่าอย่างน้อยมันมีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว
สัตว์ร้ายอยากจะพูดภาษามนุษย์ มีทางเดียวก็คือเลียนแบบมนุษย์ โดยการเรียนรู้การออกเสียงอย่างมนุษย์ รวมไปถึงเรียนรู้ภาษาของมนุษย์
หากไม่ได้สะสมประสบการณ์มาเป็นเวลาหลายปีก็จะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าพลังไปถึงระดับไหนก็จะสามารถเรียนรู้จนนำไปใช้ได้ ได้แต่บอกว่า สัตว์ร้ายที่ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไร ก็จะยิ่งเข้าถึงมนุษย์ได้มากขึ้น แนวโน้มที่จะสามารถเรียนรู้จนใช้งานได้จริงก็มีมากกว่า
เช่น เจ้าดำ ในบรรดาสัตว์ร้ายทั้งหลาย ตอนนี้พละกำลังของเจ้าดำก็ไม่อาจจะนับว่าอ่อนแอได้แล้ว แต่หากจะต้องให้มันเรียนรู้ภาษามนุษย์ เกรงว่าภาระยังคงหนักหน่วงและหนทางยังอีกยาวไกล
ลู่ฝานมองมังกรตัวนี้อย่างนิ่งสงบ จากนั้นจึงหัวเราะพลางเอ่ยขึ้นมา “แกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ยังคิดจะข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?”
ทันใดนั้น ดวงตาของมังกรเพลิงพลันเปล่งแสงจ้าออกมาสองสาย
ลู่ฝานยังไม่ทันได้ตั้งตัว แสงสว่างทั้งสองก็กวาดล้างพื้นที่ทั้งสองด้านของเขาอย่างรุนแรง กลายเป็นพลังหุ้นตุ้นสองกลุ่มที่กำลังไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง
ลู่ฝานไม่กล้าเคลื่อนไหว เพราะเขารู้สึกได้ว่า แค่เขาขยับตัวเล็กน้อย ก็จะถูกพลังหุ้นตุ้นหอบเขาเข้าไปในนั้นด้วย
มังกรตัวนี้น่าจะบรรลุการสร้างพลังหุ้นตุ้นขั้นสูงสุดแล้ว
หากแสงนั้นมากระทบกับร่างของลู่ฝาน ลู่ฝานก็ไม่รู้ตัวเองจะกลายเป็นเช่นไร
แน่นอนว่าไม่ตายหรอก แม้ไม่อาจจะใช้เต๋าแห่งชีวิตมาคุ้มครองร่างกายได้ ทว่าก็ยากที่จะฆ่ามันให้ตายได้ แต่ก็คงจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง!
สีหน้าของลู่ฝานเริ่มเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด แม้มังกรตัวนี้จะถูกตรึงให้อยู่กับที่ แต่ก็ยังมีพลังมากมายขนาดนี้
มังกรเพลิงเอ่ยต่อ “นายยังมีเวลาอีกห้าลมหายใจ อยู่ต่อหน้าบรรพบุรุษมังกรเพลิงอย่างฉันอย่าได้คิดว่าจะรอดพ้นออกไปได้ ด้วยความสามารถของนายมีแต่จะต้องตายเท่านั้น ไอ้มนุษย์หน้าโง่!”
ลู่ฝานคิ้วขมวด บรรพบุรุษมังกรเพลิง มังกรตัวนี้กล้าเรียกตัวเองเป็นบรรพบุรุษ ไม่ธรรมดา!
ร่างกายของลู่ฝานยังคงถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ แต่เปลวไฟเหล่านี้ไม่สามารถเผาผิวหนังของลู่ฝานให้ไหม้ได้เลย
กายเนื้อของเขากลายเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแรงกว่าเขตวิถี รูม่านตาของบรรพบุรุษมังกรเพลิงก็หดตัวลงเช่นกัน บัดนี้ เขาถึงพบว่ามนุษย์ที่มาคราวนี้ดูแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา!
ในที่สุดแสงกระบี่ก็แทงทะลุผ่านเปลวไฟที่แผ่ขยายไปทั่วท้องฟ้า และปะทะเข้ากับร่างของบรรพบุรุษมังกรเพลิง
เสียงดังกราว!
บรรพบุรุษมังกรเพลิงไม่ขยับเขยื้อน และต้านทานกระบี่ของลู่ฝานอย่างแข็งกร้าว แต่เกล็ดบนตัวของมันมีเพียงรอยสีขาวเท่านั้น ไม่มีการแตกหักแม้แต่น้อย
“ฮึ ได้เพียงเท่านี้แหละ!”
บรรพบุรุษมังกรเพลิงหัวเราะเสียงเบา
ลู่ฝานกลับแสยะยิ้ม ถือกระบี่ด้วยมือข้างเดียวแล้วพูดว่า "ควบคุมฟ้า!"
ในชั่วพริบตา ร่างกายของบรรพบุรุษมังกรเพลิงเริ่มระเบิดออกมาทีละนิ้ว การผสมผสานระหว่างเคล็ดวิชาบู๊และคาถาแสดงให้เห็นถึงอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวในขณะนี้
เสียงร้องโหยหวนของบรรพบุรุษมังกรเพลิงทำให้ผู้อาวุโสแปดและคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกอดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน
ตอนนี้พวกเขารู้สึกยินดีที่ลู่ฝานไม่ได้ใช้กระบวนท่านี้จัดการพวกเขาเมื่อตอนที่พวกเขาไล่ล่าลู่ฝาน
“มนุษย์ เจ้ามนุษย์สมควรตาย นายกล้าทำร้ายฉัน ฉันจะทำให้นายกลายเป็นก้อนขี้เถ้าเดี๋ยวนี้ ฮึ!”
บรรพบุรุษมังกรเพลิงเปล่งเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวออกมา หลังจากนั้น กลุ่มแสงสีขาวก็เริ่มโผล่ออกมาจากร่างของมัน ดูเหมือนจะมีพลังหุ้นตุ้นลุกไหม้ไหลเวียนอยู่ข้างใน
ลู่ฝานเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง ดูท่าว่าวันนี้ก็คงจะเป็นอีกวันที่ต้องสู้รบกันอย่างดุเดือด
แต่ในขณะนั้นเอง เจดีย์เสวียนเก้ามังกรก็ปรากฏตัวขึ้นมาเอง
“ฮ่าฮ่า นั่นใช่เสี่ยวหงหรือเปล่า ฉันจำเสียงของแกได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...