มนุษย์มีจิตวิญญาณ ส่วนมังกรก็มีมุกเทพมังกร
สำหรับมังกร ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามุกเทพมังกรอีกแล้ว
เมื่อเห็นบรรพบุรุษมังกรเพลิงปลดปล่อยมุกเทพมังกรของตัวเองออกมาจริง ๆ ลู่ฝานก็มั่นใจแล้วว่ามังกรเพลิงตัวนี้ไม่ได้กำลังเล่นตุกติกกับพวกเขา
เพราะเวลาที่คิดไม่ซื่อ ก็คงไม่มีใครที่ไหนหรือสัตว์ร้ายตัวใดจะยอมเอาสิ่งที่มีความสำคัญต่อตัวเองมากที่สุดออกมาโดยไม่เผื่อไว้แม้แต่น้อย
มุกเทพมังกรบินไปสู่เจดีย์เสวียนเก้ามังกร ค่อย ๆ ลงไปที่ด้านบนสุดของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร
ทันใดนั้น มุกเทพมังกรแปรเปลี่ยนเป็นจุดไฟสีแดงเพลิง และฝังลงบนยอดของเจดีย์
ตอนนี้ ลู่ฝานเพิ่งจะเห็นว่า ตรงยอดเจดีย์เสวียนเก้ามังกร ยังมีรอยเว้าเล็ก ๆ อยู่จริง ๆ
เดิมทีลู่ฝานคิดว่านั่นเป็นตราประทับ หรือของประดับตกแต่ง ไม่คิดว่า จะเป็นที่ที่สงวนไว้สำหรับมุกเทพมังกร
ดูเหมือนว่า เขาจะประเมินค่าของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรนี้ต่ำไปมาโดยตลอด
ในฐานะอาวุธเทพที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณจึงไม่เคยถูกทำลาย เจดีย์เสวียนเก้ามังกรนี้ยังฟื้นคืนชีพยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ช่วยเขาเอาไว้ไม่น้อยแล้ว
หากสักวันหนึ่งที่มันจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ทั้งหมดจริง ๆ ล่ะ?
และยังเป็นเพราะว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรชอบพูดคุยโวเก่งเกินไปหน่อย แถมพูดจาไร้สาระอีกมากมาย ดังนั้นลู่ฝานจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเวลาที่พูดกับมันในยามปกติ
ตอนนี้ดูท่าว่า เขามีหลายเรื่องที่จะต้องขอคำชี้แนะจากเจดีย์เสวียนเก้ามังกรนี้แล้วล่ะ
อย่างน้อยลู่ฝานก็อยากจะรู้มากกว่านี้สักหน่อยเกี่ยวกับเหตุการณ์เทพกบฏในปีนั้น
ไม่เพียงแค่สงสัยใคร่รู้ และยังเป็นเพราะบรรพบุรุษมังกรเพลิงได้เอ่ยถึงเทวทูตเมื่อสักครู่นี้ด้วย
ลู่ฝานนึกถึงทูตแห่งเทพโดยอัตโนมัติ และก็คิดถึงหลิงเหยาขึ้นมาทันที หากเรื่องนี้ไม่รู้เรื่องอย่างชัดเจน ใจของลู่ฝานก็คงจะไม่สงบ
เมื่อเก็บมุกเทพมังกรของบรรพบุรุษมังกรเพลิงเรียบร้อยแล้ว เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพลันหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดฉันก็ฟื้นคืนชีพแล้ว ตอนนี้โปรดเรียกฉันว่าเจดีย์เพลิงเก้ามังกร นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้านายก็รอดูฉันกวาดล้างใต้หล้านี้ให้เรียบก็แล้วกัน”
ลู่ฝานเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ “ไม่ใช่ว่า นายควรจะเก็บเทพมังกรให้ครบเก้าตัวก่อนถึงจะฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์เหรอ? ตอนนี้ก็มีมุกเทพมังกรเพียงหนึ่งเม็ดเท่านั้น ก็ถือว่าฟื้นคืนชีพสมบูรณ์แล้วหรือ?”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะและเอ่ยตอบ “นั่นเป็นยุคทองของฉัน เป็นช่วงที่ฉันเพิ่งถูกหลอมออกมา เป็นอาวุธวิเศษที่มีพลังไร้เทียมทาน หยินหยางหุ้นตุ้นที่อยู่ในเจดีย์ก็เปิดออกหมด แต่ตอนนี้ เหอะๆ ตัวของฉันแตกเป็นเสี่ยง ๆ มานานแล้ว ตอนนี้ก็ถือว่าฉันอยู่ในร่างเจดีย์ที่แตกสลายก็แล้วกัน ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะอาศัยชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ มาช่วยฟื้นคืนชีพได้ หากคิดจะเทียบกับยุคทองของฉัน มันจะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้สถานการณ์ของฉันก็นับได้ว่าฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว นอกจากว่า เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ จะต้องช่วยปั้นร่างของเจดีย์ให้ฉันใหม่ ให้เก้ามังกรรวมตัวกัน!”
ลู่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
อารมณ์ก็เหมือนกับกระบี่หนักไร้คมบนมือเขา ซึ่งไม่ได้อยู่ในรูปร่างเดิมอีกแล้ว
แต่ก็จริง ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบันก็ผ่านมานมนานขนาดนี้แล้ว หากยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่แตก จะสามารถอธิบายได้อย่างไรว่าเป็นอาวุธวิเศษ?
ลู่ฝานพลิกมือเก็บเจดีย์เสวียนเก้ามังกรที่กำลังภาคภูมิใจและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ปล่อยให้ไอ้เก้าสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับเสี่ยวหงไปก่อน เขายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ!
ลู่ฝานทะยานไปข้างหน้ามาที่ด้านข้างกายเนื้อของบรรพบุรุษมังกรเพลิง เขายื่นมือนำกระบี่ไปผ่าร่างของมันออกมาเล็กน้อย
เมื่อสูญเสียมุกเทพมังกร ร่างมังกรของบรรพบุรุษมังกรเพลิงก็ถือได้ว่า ‘ตาย’ สนิทแล้ว
ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ สีก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันเปลี่ยนจากเนื้อเป็นหิน
ลู่ฝานอาศัยหลักการของการใช้สิ่งของให้คุ้มค่าที่สุด เขานำเลือดสารจำเป็นของบรรพบุรุษมังกรเพลิงออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงผสมกับยาและปรับทุกอย่างที่อยู่บนฝ่ามือเข้าด้วยกันให้เรียบร้อย
ผู้อาวุโสแปดรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เพราะด่านที่สองของเขาไม่เกิดผลอะไรเลย
กลับทำให้ลู่ฝานได้รับมุกเทพมังกรมาอีกเม็ด และสมุนไพรวิเศษทั้งสิบต้น ขาดทุนจนไม่รู้จะขาดทุนอย่างไรแล้ว
ลูกศิษย์คนอื่นๆ ของสายเลือดเสินหวง ต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ตอนนี้พวกเขาเริ่มสงสัยแล้วว่า ผู้อาวุโสเหล่านี้ต้องการนำตำแหน่งเจ้าสำนักกลับคืนมาจริง ๆ หรือไม่
จะดูอย่างไร ก็เหมือนเป็นการจงใจอ่อนข้อให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลู่ฝานใช้วิชาเต๋าสูญสิ้น แทบจะไม่มีศิษย์ในสายเลือดเสินหวงคนไหนที่จะคิดว่าลู่ฝานจะสามารถฝึกได้ภายในระยะเวลาสามวัน
ในความเห็นของพวกเขา ลู่ฝานคงจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสบางคน และเคยมายังภูเขาเสินหวงหลายครั้งหลายหนแล้ว และตอนนี้ก็แค่ให้ความร่วมมือที่จะแสดงละครตบตาเท่านั้น
แววตาที่พวกเขามองดูผู้อาวุโสก็เริ่มดูคลางแคลงใจ
ผู้อาวุโสเก้ามองไปที่ผู้อาวุโสคนที่แปดและพูดว่า “นายยังอยากจะพูดอะไรหรือไม่? ผู้อาวุโสแปด”
ผู้อาวุโสแปดพูดอะไรไม่ออกแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้
นิ่งไปครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสแปดคล้ายจะพูดด้วยความหวังสุดท้ายที่ริบหรี่ "เดี๋ยวก่อน ฉันจะเอาหินที่ผู้อาวุโสใหญ่มอบให้ไปวางไว้ที่ประตูที่จะกลับออกมา หากเขาผ่านประตูนั้นออกมาไม่ได้ ก็ไม่แน่ว่ายังจะพอมีจุดเปลี่ยน”
พูดจบ ผู้อาวุโสแปดก็บังคับตัวเองให้ดูสถานการณ์ต่อไป
แต่เพียงแค่หนึ่งชั่วยามถัดมา ลู่ฝานก็เดินออกมาจากประตูว่างเปล่าของสวรรค์แห่งความเพ้อฝันโดยไม่ได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว
ลู่ฝานบีบก้อนหินก้อนเล็กไว้ในมือ อมยิ้มแล้วพูดว่า "ของชิ้นนี้ดูคุ้น ๆ อยู่ว่าไหม!!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...