เขาหลางเซียว ยอดเขาตรงดิ่งสู่ท้องนภาราวกับกระบี่
หินรูปทรงประหลาดขรุขระ ไม่มีหญ้างอกสักต้น
ยอดเขานี้อยู่ส่วนในของสายเลือดเสินหวง เรียกอีกชื่อว่ายอดเขาไร้น้ำใจ
ไม่ว่าศิษย์คนใดที่ฝึกตน ณ เขาหลางเซียวล้วนเป็นสายเลือดเสินหวงและเป็นผู้ที่ยินยอมที่จะบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก
ศิษย์หลายคนลำบากตรากตรำมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่เขาหลางเซียว แต่ก็รู้จักแค่การบำเพ็ญเพียร
ในเขาหลางเซียว ผู้ที่ความแข็งแกร่งไม่มากพอก็จะถูกขับไล่ออกจากสำนัก
หากโดนเขาหลางเซียวขับออกจากสำนัก ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือถูกทำลายพลัง พิการตลอดชีวิต
ดังนั้นขอแค่ศิษย์ของเขาหลางเซียวถูกขับออกจากสำนัก ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะจบชีวิตตนเอง
ในบรรดายอดเขาสายเลือดเสินหวงทั้งเก้า ที่นี่คือยอดเขาที่โหดเหี้ยมที่สุด
จำนวนคนน้อยที่สุด แต่ศิษย์ที่ออกมากลับติดสามอันดับแรกของสายเลือดเสินหวงได้
ถ้าไม่ใช่เพราะศิษย์ของสองยอดเขาด้านหน้ามีจำนวนเยอะกว่า และมียอดฝีมือรุ่นเยาว์เป็นผู้นำ
มิเช่นนั้นดูจากอันดับเฉลี่ยเพียงอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะเทียบชั้นกับเขาหลางเซียวได้
ในฐานะผู้อาวุโสผู้ดูแลของเขาหลางเซียว ผู้อาวุโสเจ็ด และเป็นตาแก่ที่เข้มงวดเกินจะเปรียบ เวลาเขาทำการใดจะไม่ให้โอกาสแก่คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย
ตราบใดที่เป็นผู้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา นอกจากฝีมือ อย่างอื่นก็ไม่มีผล
ลู่ฝานบินมาถึงหน้าเขาหลางเซียวอย่างรวดเร็ว เขามองบนเขาหลางเซียวปราดหนึ่ง เห็นตำหนักเก้าหลังชัดเจน
จากล่างขึ้นบน จากเล็กไปใหญ่ ความแข็งแกร่งจากน้อยไปมาก
ตำหนักเหล่านี้ หากลู่ฝานเดาไม่ผิดน่าจะเป็นที่สำหรับใช้ทดสอบศิษย์
มองจากที่ไกลๆ ลู่ฝานรู้สึกได้ถึงพลังอันบ้าคลั่งภายในนั้น
แม้จะแข็งแกร่งแต่กลับเต็มไปด้วยอันตราย
ราวกับไม่คำนึงถึงว่าศิษย์จะรับไหวหรือไม่ จะมีอันตรายหรือไม่
ขอแค่เข้าไปก็จำเป็นต้องยอมรับพิธีชำระบาปแห่งพลัง หากสามารถฝึกตนออกมาได้ พลังจะเพิ่มพูนมหาศาล
แต่ถ้าออกมาไม่ได้ คาดว่าคงตายอยู่ข้างใน
ลู่ฝานลอบพยักหน้า วิธีบ่มเพาะศิษย์ของยอดเขาแต่ละแห่งต่างกันจริงๆ
เมื่อมองขึ้นไปด้านบนจนกระทั่งได้เห็นตำหนักเก่าแก่ที่อยู่บนสุด คิ้วของลู่ฝานพลันขมวดเข้าหากัน
ตำหนักหยุนหยา!
ลู่ฝานบินมาเบื้องหน้าประตูหลักของตำหนัก ผู้อาวุโสทั้งเก้าท่านมาถึงก่อนแล้วและหยุดอยู่หน้าประตู
เหล่าศิษย์สายเลือดเสินหวงค่อนข้างรวดเร็ว ทุกคนต่างเริ่มมารวมตัวกันที่ยอดเขา
ชื่ออันยิ่งใหญ่ของตำหนักหยุนหยา ไม่สำคัญว่าเป็นคนของเขาหลางเซียวหรือไม่ เมื่อได้ยินชื่อดังกล่าวล้วนอกสั่นขวัญแขวนทั้งสิ้น!
ผู้อาวุโสเจ็ดยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของตำหนัก มองลู่ฝานด้วยสายตาคมกริบพลางกล่าวเสียงดัง “ลู่ฝาน นายดูให้ดี ที่แห่งนี้คือตำหนักหยุนหยาของเขาหลางเซียว เป็นที่ที่ผู้แข็งแกร่งในอดีตแห่งสำนักจิ่วเซียวตระหนักรู้วิถีสวรรค์ ต่อต้านการกดขี่ของฟ้าดิน ในตำหนักมีเต๋าทั้งหมดหนึ่งพันสามร้อยหกสิบหกชนิด ทั้งหมดล้วนแกะสลักไว้บนกำแพง เสาหิน รวมถึงพื้น หากไม่เชื่อ นายลองดูก่อนได้!”
ลู่ฝานจับจ้องกำแพงของตำหนักหยุนหยา เป็นไปตามที่ผู้อาวุโสเจ็ดกล่าว พลังของเต๋าแต่ละชนิดรวมกันอยู่ที่นั่น พลังแกร่งกล้ายิ่ง!
สีหน้าลู่ฝานแค่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ได้มีปฏิกิริยามากมาย พิสูจน์ได้ว่าความกล้าของเขาผิดธรรมดา ยามนี้ผู้อาวุโสเจ็ดเพียงอาศัยคำพูดปั่นป่วนความคิดของลู่ฝานเท่านั้น
อันที่จริงจากใจเขาไม่อยากให้ลู่ฝานถอยทั้งแบบนี้ เขากับคนอื่นๆ อยากเห็นเหลือเกินว่าลู่ฝานจะยืนหยัดภายในนั้นได้นานแค่ไหน
ท่ามกลางฝูงชน ไอ้อ้วนตงเพิ่งตามมาถึงและได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสเจ็ด เหมือนเขาจะนึกถึงความทรงจำเลวร้ายบางอย่าง สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
เฟิงเสี่ยวชี่เห็นท่าทางแปลกๆ ของไอ้อ้วนตงก็ถามอีกหน “อาจารย์อา ครั้งก่อนที่ท่านเข้าไปได้เปิดเต๋ากี่ชนิดหรือ”
ไอ้อ้วนตงตอบ “หกร้อยชนิด เพียงแค่นี้ยังเกือบเอาชีวิตฉันได้ หากเปิดเต๋าทั้งหนึ่งพันสามร้อยกว่าชนิด ฉันต้องไม่มีทางรอดออกมาแน่”
เฟิงเสี่ยวชี่ตกใจ “ขนาดนั้นเชียวหรือ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่สุดยังทำไม่ได้รึ”
ไอ้อ้วนตงแค่นเสียง “เจ้าเด็กโง่ นายจะไปรู้อะไร นายรู้หรือไม่ว่าหลังจากเข้าไปต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใด”
เฟิงเสี่ยวชี่ถามอย่างฉงน “สิ่งใดหรือ”
ไอ้อ้วนตงสูดลมหายใจเข้าลึก “ลมปราณฟ้าดิน เพลิงวิญญาณไร้สิ้นสุด ระเบิดวิญญาณ ทลายกายา นายต้องพบเจอทุกวิถีทางที่นายคิดว่ามันสามารถทำลายนายได้ ไม่มีการหลบเลี่ยง ไม่มีการป้องกัน มีแต่ต้องถูกพลังแห่งเต๋าโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นนายมีแต่ต้องอาศัยกำลังของนายประคับประคองร่างกายของตน คิดหาทางต่อต้านมัน พลังความเป็นความตายวนเวียนของฉันฝึกสำเร็จได้เพราะเหตุนี้”
เฟิงเสี่ยวชี่อ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าตำหนักหยุนหยาแห่งเขาหลางเซียวคือสถานที่น่ากลัวเช่นนี้
แววตาลู่ฝานค่อยๆ เผยความเด็ดเดี่ยว สูดลมหายใจลึก มองผู้อาวุโสเจ็ดพลางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “เต๋าหนึ่งพันสามร้อยหกสิบหกชนิดใช่หรือไม่ มาสิ ให้ฉันได้เชยชมหน่อย”
พอกล่าวออกไป ผู้อาวุโสทุกคนต่างประหลาดใจ
ลู่ฝานถึงกับตอบรับสถานการณ์ที่ถูกกำหนดให้ต้องตาย!
เขาสาวเท้าไปข้างหน้า ลู่ฝานเดินมาถึงเบื้องหน้าผู้อาวุโสเจ็ด กล่าวต่อว่า “เวลาหนึ่งถ้วยชา ท่านอย่าลืมเชียวล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...