หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ หลินหยางกับมู่หรงยิ่นมากินข้าวที่ร้านอาหารชั้นบนสุดของศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง
“คุณรู้ไหมว่าร้านอาหารร้านนี้เป็นของใคร?”
หลังจากนั่งในห้องส่วนตัว มู่หรงยิ่นก็เอ่ยถามขึ้น
“แน่นอนสิครับ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนผมเป็นทายาทเศรษฐี เคยมากินข้าวที่นี่เหมือนกันนะรู้ไหม?”
หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เถ้าแก่ของร้านอาหารร้านนี้คือลั่วหงอวี๋หนึ่งในสี่มหาปรมาจารย์แห่งเมืองลั่ว
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เคยเจอลั่วหงอวี๋ตัวจริงไหม?”
หลินหยางส่ายหน้าพร้อมกล่าว “ว่ากันว่าปรมาจารย์ลั่วเป็นคนที่ประวัติความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดในบรรดาสี่มหาปรมาจารย์ แล้วก็เป็นคนที่เก็บตัวที่สุด น้อยคนมากที่จะเคยเจอตัวจริงของเธอ”
“มหาปรมาจารย์อีกสามคนถ้าไม่ก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง เปิดสำนักรับลูกศิษย์ ก็เป็นข้าราชการ ที่ตำแหน่งสูงมาก มีแค่เธอ คาดไม่ถึงว่าจะเปิดร้านอาหาร ค้นคว้าวิจัยอาหารเลิศรส ที่จริงก็แปลกแหวกแนวอยู่หน่อย ๆ”
มู่หรงยิ่นกล่าวถามต่อ “แล้วคุณคิดว่าลั่วหงอวี๋อายุเท่าไหร่คะ?”
“ได้ยินชื่อ เหมือนกับว่าจะอายุไล่เลี่ยกับคุณและผม แต่ในเมื่อเขามีประวัติเก่าแก่ที่สุด คิดว่าจะต้องอายุประมาณห้าหกสิบปีแล้วละมั้ง?”
หลินหยางกล่าวอย่างวิเคราะห์
“ถ้าอย่างนั้นคุณผิดแล้ว ฉันโชคดีเคยเจอเธอครั้งหนึ่ง ดูเหมือนเธอจะอายุยี่สิบกว่า ๆได้นะ”
มู่หรงยิ่นกล่าวเสียงเบา
“เป็นไปไม่ได้มั้งครับ? ยุทธภพลือกันว่า มหาปรมาจารย์ล้วนเป็นคนเฒ่าคนแก่ทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ?”
หลินหยางไม่เชื่อ เขาอายุแค่นี้ได้เป็นปรมาจารย์ ทั้งหมดเป็นเพราะดวงดีได้กินยาลูกกลอนฮุ่นหยวนเบิกฟ้า ยากมากที่คนธรรมดาอายุยี่สิบกว่า ๆจะฝึกฝนจนได้เป็นปรมาจารย์
“คุณก็พูดอยู่ไม่ใช่หรือคะ? ว่านั่นเป็นเพียงข่าวลือ ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้! คนมากมายไม่เคยเจอเธอ อาศัยความรู้สึกในการคาดคะเน แล้วก็ลั่วหงอวี๋หน้าตาสะสวยมากเลยนะคะ”
มู่หรงยิ่นกล่าวอย่างติดตลก
หลินหยางยังคงกล่าวอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “สวยขนาดไหน? สวยกว่ามากกว่าคุณอีกหรือ?”
“ถ้าคุณถามแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็คิดว่าฉันสวยกว่าอยู่แล้ว ฉันน่ะ เป็นสาวสวยอันดับหนึ่งในใต้หล้าเลยนะ”
มู่หรงยิ่นยืดอกขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทางภาคภูมิใจ
“ผมเห็นด้วย”
หลินหยางกล่าวคล้อยตาม
แต่มู่หรงยิ่นกลับเขยิบเข้ามาใกล้ กะพริบตาปริบ ๆพร้อมกล่าวถาม “คุณหมายความว่า ฉันสวยกว่าฉินโม่หนงแม่บุญธรรมของคุณหรือคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง