เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกเสียใจมากที่ทำอาหารให้เซียวเย่หลันกิน
ก่อนบุรุษสุนัขนั่นจะไปที่สนามฝึก ยังส่งข้อความถึงนางโดยเฉพาะ บอกให้นางเตรียมอาหารให้พร้อม เย็นนี้เขาจะกลับมากินด้วย
ฉะนั้น ถึงได้บอกว่าไม่ควรให้บุรุษได้ชิมของหวาน
เพราะพวกเขามักได้คืบจะเอาศอกเป็นที่สุด
เซี่ยเชียนฮวันไม่พอใจมาก อย่างไรก็ตามอาศัยใต้ชายคาบ้านคนอื่นก็จำเป็นต้องก้มหัวให้ นางเตรียมออกไปซื้อวัตถุดิบสดใหม่ด้วยตนเอง
“พระชายา ขอทานที่อยู่ด้านหลังแอบสะกดรอยตามพวกเรามาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนเริ่มออกจากจวนอ๋อง”
เสี่ยวตงเดินช้าๆ เคียงข้างเซี่ยเชียนฮวัน ได้กล่าวกระซิบเตือน
เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว”
ตอนที่ออกจากจวนนางก็คิดว่าเป็นขอทานธรรมดา แต่พอลองคิดดูอีกที จะมีขอทานคนไหนกล้ามาขออาหารแถวจวนจ้านอ๋อง
ด้วยบทเรียนที่ได้รับจากชายสวมหน้ากากครั้งที่แล้ว สองนายบ่าวต่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
พวกนางเลือกสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อเลี่ยงการมอบโอกาสให้อีกฝ่ายลงมือ
แต่ทว่านิสัยของเซี่ยเชียนฮวันนั้นไม่ชอบอยู่เฉยๆ หลังจดจำเส้นทางโดยรอบอย่างชัดเจน นางก็กระซิบกับเสี่ยวตงว่า “ประเดี๋ยวพวกเราจะแยกทางกัน เจ้าไปทางนั้น และปล่อยให้เขาคิดว่าข้าอยู่คนเดียว ดูว่าเขาต้องการอะไร”
“พระชายา นั่นมันเสี่ยงเกินไป!” เสี่ยวตงตกใจมาก
เซี่ยเชียนฮวันตบไหล่นาง “วางใจเถอะ คนคนนั้นสะกดรอยตามพวกเรามาตั้งนานแล้ว แต่ไม่กล้าลงมือสักที แสดงให้เห็นว่า เขาไม่มั่นใจในทักษะการต่อสู้ของตัวเองสักเท่าไร ตอนนี้พวกเรายังมีองค์รักษ์ลับคอยคุ้มครองอยู่ หากอีกฝ่ายลงมืออย่างกะทันหัน ข้าแน่ใจว่าจะสามารถจับเขาได้”
“ดูเหมือน อ่า...”
เสี่ยวตงรู้สึกทึ่งกับการวิเคราะห์ของเซี่ยเชียนฮวัน และไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำตามแผนที่วางไว้
ทันใดนั้น เสี่ยวตงก็แสร้งทำเป็นถูกเซี่ยเชียนฮวันใช้ให้ไปซื้อของ นางอ้อมไปทางอื่น และแยกทางกับเจ้านาย
หลังเซี่ยเชียนฮวันเดินเข้าซอยเล็ก ก็ได้ยินเสียงเร่งฝีเท้าของบุรุษอย่างชัดเจน
นางเพิ่งเดินเลี้ยวเข้ามุมก็หันกลับมาในทันที พร้อมตะโกนว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรนะ?!”
ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจ และหยุดเดินในทันที!
ขณะเดียวกัน องค์รักษ์ลับหลินซวี่ซูก็ปรากฏตัวขึ้น และเตะเข่าชายคนนั้น ทำให้เขาล้มลงไปกับพื้นในทันที!
เซี่ยเชียนฮวันมองชายผู้นั้นดิ้นหนี ขณะกอดอกอย่างภาคภูมิใจ “บอกมา ใครสั่งให้เจ้าสะกดรอยตามข้า?”
นางคิดว่าคราวนี้คงได้รับเบาะแสเกี่ยวกับตัวตนของชายสวมหน้ากาก แต่คาดไม่ถึงว่า ขอทานคนนั้นจะหยุดดิ้น และค่อยๆ เงยหน้าขึ้น
“ไม่มีใครสั่งข้า” เขาจ้องมองเซี่ยเชียนฮวัน น้ำเสียงของเขาทั้งแหบแห้งทั้งเก้อเขิน “คุณหนู ท่านจำข้ามิได้หรือ?”
“เจ้าคือ....”
เซี่ยเชียนฮวันชะงัก
นางจ้องมองใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างละเอียด ทันใดนั้น ชื่อหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจนาง
“เฟิงเยว่” เซี่ยเชียนฮวันโพล่งออกมา
แต่เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเชียนฮวันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขา นางหันไปสั่งองค์รักษ์ลับ “ปล่อยเขาแล้วกลับจวน”
หลินซวี่ปล่อยเขาไป
ชายคนนั้นนั่งคุกเข่าถือแท่งเงินอยู่กับที่อย่างมึนงง ขณะมองส่งเซี่ยเชียนฮวัน สาวใช้และองค์รักษ์ลับเดินจากไป
...
ตกดึก
เซียวเย่หลันนั่งอ่านหนังสือตามลำพังในห้องหนังสือ
บนโต๊ะนั้นมีโจ๊กข้าวฟ่างที่ปล่อยไอร้อนอยู่หนึ่งถ้วย เป็นอาหารที่ซูอวี้เออร์ทำด้วยตัวเอง แต่เขากลับไม่ชิมแม้แต่คำเดียว
เขาทานอาหารกับเซี่ยเชียนฮวันแล้ว อิ่มจนกินไม่ไหวแล้ว
จู่ๆ เซียวเย่หลันก็วางหนังสือลง เหลือบตาขึ้นเล็กน้อย “มีเรื่องอะไร”
“วันนี้ข้าน้อยทำหน้าที่เป็นองค์รักษ์ลับของพระชายา ระหว่างทางบังเอิญพบชายผู้หนึ่ง คนคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่แน่ชัดกับพระชายา”
หลินซวี่ตอบ
เดิมที เขาอยากรายงานเรื่องความปลอดภัยของเซี่ยเชียนฮวันกับเซียวเย่หลันเท่านั้น
แต่ชายที่ชื่อเฟิงเยว่ ดูไม่ชอบมาพากลอย่างไรไม่รู้
เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก สุดท้ายก็คิดว่าเขาควรจะบอกท่านอ๋อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...