“อะไรนะเจ้าคะ?..."
ซูอวี้เออร์ตกตะลึง
นางคิดไม่ถึงว่าคำพูดเมื่อครู่นี้ อู่อันโหวจะพูดกับตน!
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ต้องเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นแน่ๆ!
ซูอวี้เออร์ทำสีหน้าน่าสงสารแล้วกระซิบเบาๆ ว่า "สมุนไพรถ้วยนี้ ข้าน้อยต้มอยู่นานถึง 10 ชั่วโมง ประกอบไปด้วยกระดูกกว้าง ดอกถั่งเช่าและโสม เป็นอาหารบำรุงสำหรับผู้สูงวัยที่ดียิ่งนัก ข้าน้อยจัดเตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ”
เซียวเย่หลันได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เขาเห็นด้วยกับคำพูดของซูอวี้เออร์และรับรู้ถึงความตั้งใจของนาง
แต่ทว่า อู่อันโหวกลับไม่สนใจ!
สีหน้าของชายชราโมโหราวกับถูกใครทำให้ขุ่นเคืองใจมาช้านาน “แม้ข้าจะอายุมากแล้ว แต่สุขภาพร่างกายก็ยังแข็งแรงดี ไม่จำเป็นต้องคอยดื่มสมุนไพรบำรุงร่างกายดั่งคนป่วย! สมุนไพรนี้เจ้าเก็บเอาไว้ให้ผู้แก่ชราหรือพิกลพิการดื่มเถิด!"
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูอวี้เออร์จึงเข้าใจว่านางเอาอกเอาใจผิดจุดเสียแล้ว! อู่อันโหวไม่ชื่นชอบให้คนอื่นปฏิบัติต่อตนเหมือนว่าเขาแก่ชรา!
นางจึงรีบเก็บสมุนไพรถ้วยนั้นแล้วกล่าวขอโทษ "ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ครุ่นคิดให้รอบคอบ ข้าน้อยจะไปทำให้ใหม่บัดเดี๋ยวนี้"
"เจ้าไม่จำเป็นต้องกลับมาอีก ข้าไม่มีความสนใจในอาหารที่อนุภรรยาเช่นเจ้าจัดเตรียม" อู่อันโหวกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา
ประโยคนี้เป็นการดูหมิ่นซูอวี้เออร์ยิ่งนัก
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที
แม้ซูอวี้เออร์จะไม่มีสถานะตัวตนใดในจวนอ๋อง ไม่ใช่แม้กระทั่งรองพระชายา แต่ด้วยความรักใคร่โปรดปรานที่เซียวเย่หลันมีให้นาง ตามปกติแล้วใครก็ตามที่พบเจอจะเรียกนางว่า "แม่นางซู” ไม่มีใครกล้าปฏิบัติต่อนางด้วยท่าทีอันเหยียดหยามเช่นนี้
คิดไม่ถึงว่าชายชราหนังเหี่ยวย่นนิสัยดุดันคนนี้ จะกล้าตบหน้านางต่อหน้าผู้คนมากมาย!
ซูอวี้เออร์ไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม ดังนั้นจึงหันไปมองทางเซียวเย่หลันด้วยน้ำตาคลอเบ้า สะอึกสะอื้นว่า "ท่านอ๋องเพคะ..."
"เอาเถอะ เจ้ากลับไปก่อน” เซียวเย่หลันถอนหายใจออกมา
"แต่ว่า..."
"ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยมายาหญิง น่ารังเกียจ!"
อู่อันโหวกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทีอันเย็นชา
เซียวเย่หลันไม่เคยลิ้มรสอาหารหนานจาวมาก่อน เขาอดไม่ได้ที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมาลองชิม "มองไปช่างแปลกประหลาดตา คาดไม่ถึงว่ารสชาติดี"
"แท้จริงแล้วหม่อมฉันไม่เคยเดินทางไปหนานจาว เคยเพียงอ่านหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่นั่นบ้าง จึงลองทำออกมาด้วยตนเอง ไม่ทราบว่ารสชาติจะเป็นไปตามต้นตำรับหรือไม่ ขอท่านโหวได้โปรดลิ้มลอง ในคราวนั้นที่ท่านพิชิตหนานจาวได้ คาดว่าคงเคยลิ้มรสอาหารประจำถิ่นมากมาย" เซี่ยเชียนฮวันยิ้มแล้วกล่าวขึ้น
อู่อันโหวยกมือขึ้นลูบเคราของตนแล้วพยักหน้า เขาจิบสุราเข้าไปอีกหนึ่งก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร
ที่แท้ก่อนหน้านี้ที่เขาจับตะเกียบแต่ไม่ได้ลงมือสักที นั่นไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่ามันแย่ แต่เป็นเพราะประหลาดใจ ไม่รู้จะกินอะไรก่อนดี
"ไม่เลวทีเดียว! รสชาติเดียวกับที่ข้าเคยลิ้มลองในหนานจาวเมื่อ 30 ปีก่อน เฮ้อ ช่างชวนให้คิดถึงเหลือเกิน..." อู่อันโหวยิ้มขึ้นและถอนหายใจออกมาในเวลาเดียวกัน
อาหารมื้อนี้ทำให้เขาหวนนึกถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ที่สุดในอาชีพทหารของตน
เซี่ยเชียนฮวันจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก "หากท่านโหวชื่นชอบ ได้โปรดทานให้เยอะๆ เถิด"
หลังจากที่นางได้อ่านหนังสือเหล่านั้น ก็จินตนาการว่าอาหารของหนานจาวน่าจะเป็นจำพวกแกงกะหรี่ น้ำซุปเปรี้ยวเผ็ด อาหารทะเลทำนองนั้น จึงได้ใช้วิธีการทำอาหารที่ใกล้เคียงกันออกมา
ตอนแรกนางก็ไม่แน่ใจนักว่ารสชาติถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อเห็นท่าทีของอู่อันโหว นางจึงรู้ว่านางเดาถูกแล้ว
และบัดนี้ผู้ที่อับอายที่สุดจึงกลายเป็นซูอวี้เออร์...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...